ธัญกร 46


วันจันทร์ที่ 23/01/49
    วันนี้เข้างานตอน 9.05 น.ค่ะ ก็พอดีว่าวันนี้มาตอนเช้ายังไม่เจอพี่โตเลยแต่ก็ได้คุยกับพี่ป๋วยซึ่งเรื่องของ effect ต่างๆเนี่ยพี่ป๋วยจะเก่งกว่าใครๆทั้งหลายทั้งปวง เก่งกว่าพี่โตอีก แต่พี่ป๋วยจะอยู่ฝ่ายออกออกสิ่งพิมพ์อยู่ข้างล่าง แต่ให้เค้าสอนก็ได้ถ้าพี่เค้าว่างๆอยู่ ในตอนนี้เห็นพี่โตยังไม่มาก็เลยคุยกับพี่ป๋วยไปก่อน ก็เรื่องของ effect  เนี่ยและค่ะ ถามไปถามมา ก็เลยรู้มาอีกว่าพี่ป๋วยก็ทำ After effect  พอได้ เค้าบอกอย่างนั้น่ะนะ ว่าพอได้ ก็ลเยลองให้พี่เค้าสอนดู ตัวเราก็พอได้เหมือนกันนะ แต่ไม่ถนัด กลายเป็นว่ามาเจอคนพอได้อย่างพี่ป๋วยอีก ก็เลยลองดู เผื่อได้อะไรใหม่เพิ่มเติม แต่เดี๋ยวดูความรู้ที่ว่าพอได้ของพี่ป๋วยนะคะ พี่ป๋วยสอนการทำ effect ระเบิด ด้วยโปรแกรม After effect ซึ่งงานนี้เนี่ยเราก็เพิ่งได้ทดลองหัดทำดูแหละว่ามันยากยังไงและง่ายยังไง ก็ให้เลยอยากให้พี่ป๋วยสอนเพิ่มเติม
วิธีทำค่ะ
1. เริ่มจากสร้าง composition >new แล้วตั้งชื่อว่า gradient จากนั้นให้คลิ๊กขวาที่ timeline เลือก New >solid
2. ตั้งชื่อ solid layer ให้ชื่อว่า gradient (ทำไมต้องชื่อนี้ก็ไม่ทราบนะคะ) ขนาดเป็น 320*240 pixel
3. ไปคลิ๊กขวาที่ Gradient layer เป็นการใส่ effect > render > ramp เพื่อทำให้ composite window เป็นในลักษณะ gradient เมื่อใส่ effect ramp แล้วจะมี effect controls ramp ขึ้นมา และหน้าต่าง composite จะมีลักษณะ เป็นค่อยๆเข้มขึ้นจากล่างขึ้นบน อันนี้ จะทำเพื่อเวลาระเบิดจะได้ระเบิดจากส่วนที่จางก่อนแล้วค่อยไปจะเบิดส่วนที่เข้มตามลำดับ แต่ต้องมีการ set ค่าก่อน
4. มาสร้าง New composition ใหม่กดตามเลข หนึ่ง ตั้งชื่อcompositionเป็น text จากนั้นมาสร้าง solid layer ที่ timeline โดยการคลิ๊กขวา ตั้งชื่อว่า text แล้วคลิ๊กขวาที่ layer text >effect > text >basic text เขียนตัวอักษรอะไรก็ได้ ในที่นี้เราเขียนว่า Basic shatter effect
5. จากนั้นก็มาปรับ size ของตัวอักษรให้ขนาดเป็น 70 เพื่อให้ใหญ่ขึ้นเวลาระเบิดจะได้เห็นชัดๆ
6. ทำการสร้าง composition > new ใหม่ตั้งชื่อว่า shatter แล้วทำการ drag composition text ลงมาที่ timeline
7. ที่ composition shatter ให้คลิ๊กขวา ที่ layer text ใส่ effect > simulation > shatter เพื่อที่จะทำการระเบิดตัวอักษร จะเห็นว่าที่ window effect control view จะมีการแสดงเป็น wireframe+ forces ที่หน้าต่าง composite window จะเป็นรูปตารางเพื่อให้การ แสดงผลเร็วขึ้น ลองกด space bar จะเห็นว่ามีการระเบิดขึ้นที่หน้าต่าง composite window
8. ลองเปลี่ยน effect control shatter view เป็น render แล้วกด space bar ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลง
และจะเห็นว่าการระเบิดออกจะเป็นรูป ก้อนอิฐ จะสามารถเปลี่ยนรูปร่างของชิ้นส่วนที่ระเบิดออกเป็นได้หลายแบบ การเลือกที่ shape > pattern ที่ ค่า parameter force1 ก็หมายถึงส่วนที่เป็นวงกลมใน composite window คือจะมีการระเบิดเฉพาะส่วนที่อยู่ในวงกลมเท่านั้นเราสามารถ ขยายรัศมีการระเบิดได้ที่ force1 > radius ขนาดของวงกลมก็จะขยายตามไปด้วย
9. ที่ shatter composition ให้ drag gradient composition ลงมาไว้ใต้ layer text composition จากนั้นเอาเครื่องหมายรูปตาออกจาก layer gradient เพื่อปิดการแสดงผล layer นี้
10. ที่ Gradient > gradient layer ใน effect control ให้เลือกเป็น gradient
11. กด space bar จะเห็นว่า ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงต้อง set ค่า shatter threshold ก่อน
12. เลื่อน timeline ไปที่ 0 วินาที
13. จากนั้นคลิ๊กที่รูปนาฬิกาจับเวลาตามเลข 4 set ค่า threshold เป็น 0 แล้วเลื่อนเวลาที่ timeline ไปที่ประมาณ 4 วินาที
14. ปรับค่า threshold เป็น 100
15. จากนั้นลองกด space bar ดูจะเห็นว่าจะค่อยมีการระเบิด ตัวอักษรจากข้างล่างก่อนแล้วค่อยๆขึ้นไปด้านบน
พี่ป๋วยบอกว่ายังมี parameter ให้ปรับเล่นอีกเพียบเลยค่ะ เช่นที่ค่า Physics ของการระเบิด จะมีค่า rotation speed เป็นความเร็วของการหมุนของชิ้นส่วน ที่ระเบิดออกมา ค่า gravity เป็นค่าแรงโน้มถ่วงที่ทำให้วัตถุตกลงมาเร็วหรือช้า gravity direction เป็นค่าที่ปรับให้วัตถุที่กระจายวิ่งไปทางไหนจะให้ วิ่งขึ้นบนลงล่าง ไปทางข้างก็ปรับเอาตามใจชอบ ส่วนค่าที่เหลือพี่ป๋วยบอกว่าให้ลองปรับเล่นดูไม่เอาก็เคลียร์ออกทำใหม่ แค่เล่นอยู่นี่ก็จะปาเข้าไปจะเที่ยงแล้ว พี่ป๋วยบอกว่าเดี๋ยวกลับมาทำอีกก็ได้มันยังมีอะไรให้น่าลองเล่นอีกเยอะมากๆ ที่ทำไปนี่ก็นำไปใช้ได้เลยนะเนี่ย  ก็พอตอนเที่ยงก็ออกไปรับประทานอาหารกลางวันค่ะ พอบ่ายโมงก็กลับเข้ามาที่ทำงาน และก็ขึ้นไปข้างบนห้องตัดต่อตามเดิม พอขึ้นมาข้างบนบ่ายนี้ก็เจอพี่โตนั่ง ทำ Photoshop อยู่ คือเค้าทำอะไรเล่นๆน่ะ เอารูปพวกเราไปตกแต่ง เล่นใส่เอฟเฟ็กส์ต่างๆทำหน้าคนโน้นเบี้ยวคนนี้สวยแล้วแต่เค้าน่ะค่ะ ขำๆ แต่ก็ตลกดีค่ะ ซักพักพี่โตก็ให้เล่นเครื่อง เพราะเดี๋ยวพี่โตจะลงไปทานข้าวแล้ว เห็นที่พี่โตทำไว้ก็เลยเอามาใส่กรอบซะเลยค่ะ
เตรียมภาพก่อนทำกรอบ
- กรณีที่มีหลายเลเยอร์ให้ทำการ Flatten Image ก่อน โดยไปที่ Layer >>>  Flatten Image เพื่อให้รวมเป็นเลเยอร์เดียว
- ทำการ Resize Image ให้ได้ขนาดตามต้องการก่อนเริ่มทำกรอบ
ขั้นตอนการทำ
1. เปลี่ยน Background ให้เป็น Layer ก่อน โดยการ Double Click ที่ Background จากนั้นจะมีกล่องขึ้นมา ให้กด OK ไปเลย ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ กับมัน
2. . คลิกขวาที่เลเยอร์เดิม (Layer 0) แล้วเลือก Duplicate layer เลเยอร์ใหม่ที่ได้ จะเป็นภาพจริงในกรอบของเรา ส่วนเลเยอร์ เดิมจะเป็นส่วนหนึ่งของกรอบไป
 3. ทำการ Stoke ให้ภาพ หรือก็คือ การทำเส้นขอบให้ภาพ โดยการ กดปุ่ม ฟังชั่น แล้วเลือก Stoke ตอนนี้อยู่เลเยอร์ที่สร้างใหม่ (ลงท้ายชื่อว่า copy)
4. กำหนดค่าต่างๆ ดังนี้ (ดูจากภาพก็ได้)
- Size = 1 px
- Position = Inside
- Blend Mode: = Normal
- Opacity = 100
- Fill Type = Color
- Color = สีดำ
เสร็จสิ้นขั้นตอนนี้จะได้ภาพที่มีกรอบดำ ซึ่งอาจมองไม่เห็นในจอภาพ ยังไม่ต้องกด OK ออกมา
5. ทำเงาให้กับภาพ
โดยการเลือก Style เป็น Outer Glow แล้วตั้งค่าดังนี้
- Blending Mode : Normal
- Noise : 0
- สี : ดำ
- Technique : Softer
- Spread : 19% (หรือตามต้องการ)
- Size : 9 px (หรือตามต้องการ)
- Contour : เส้นตรง
- Range : 50% (หรือตามต้องการ)
- Jitter : 0%
จากนั้น กด OK ออกมาเลย อาจไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงจากขั้นตอนนี้
6. กลับไปยังเลเยอร์เริ่มต้น ( layer 0) แล้วทำการขยายภาพขึ้น
โดยไปที่ Edit >>> Transform >>> Scale
จากนั้นปรับค่าตรงช่องสีส้ม
W : 121%
H : 116%
7. เพิ่ม Canvas size   โดยไปที่ Image >>> Canvas size
 กำหนดค่าดังนี้
Width : 20 percent
Height: 15 percent
อย่าลืมหน่วยเป็น เปอร์เซ็นต์ และติ๊กช่อง Relative ด้วย
 ภาพที่ได้จากขั้นตอนที่ 7 จะเห็นกรอบแล้ว
8. ต่อไปเป็นการทำให้กรอบหลังด้อยลง ด้วยการไปที่
Image >>> Adjustments >>> Hue/Saturation
จะมีกล่องนี้ขึ้นมา  ให้ปรับค่าต่างๆ ตามความพอใจ เพื่อให้ได้กรอบที่ดูด้อยลง ไม่ไปข่มภาพจริงๆ ของเรา
Hue : 0
Saturation : เป็นค่าลบ เพื่อให้สีจืดลง (ปรับแต่งค่าตามต้องการ)
Lightness : เป็นค่าลบเพื่อให้ภาพมืดขึ้น (ปรับแต่งค่าตามต้องการ)
 9. จากนั้นใส่ตัวอักษรหรือ Logo ตามต้องการ
เราใช้ฟอนต์  JS SynjaiAllcap , ตัวเอียง,  AV 200 สีเทาสว่างเกือบขาว
เสร็จแล้วค่ะกรอบรูแสนสวย
มีอีก 1 กรอบนะคะ
1.ขั้นแรกเปิดภาพที่เราต้องการใส่กรอบ
2.ไปที่แถบเครื่องมือเลือก rectangular Marquee Tool
3.วาดสี่เหลี่ยมในภาพส่วนที่อยู่นอกสี่เหลี่ยมจะกลายเป็นกรอบ ถ้าไม่อยากเสียเนื้อภาพนะคับให้สร้าง Canvas เพิ่มเติมได้ แล้วเอาส่วนของ Canvas มาทำเป็นกรอบซะเลย (พยายามทำให้ความหนาของทั้งสี่ด้านเท่า ๆ กันนะคะ ถ้าไม่งั้นกรอบจะเบี้ยว)
4.เลือก select>inverse จะได้เส้นประวิ่ง 2 เส้นแล้วไปที่แถบเครื่องมือ เลือก edit in quick mask mode
5.ภายในสี่เหลี่ยมจะเป็นสีแดง
6.ถ้าต้องการให้ขอบเบลอ ๆ ไปที่ filter>blur>gausssian blur ปรับค่าความเบลอ (และสำหรับกรอบบางชนิดควรปรับความเบลอให้ดีกรอบจะสวยขึ้น )
7.เป็นการเลือกชนิดหรือแบบของกรอบนะคะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะอยู่ใน filter ประเภทต่าง ๆ
ที่เอามาทำกรอบได้เช่น
-filter > pixellete > color halftone
-filter > Artistic > watercolor
-filter > Artistic > roughpastels
-filter > Artistic > fresco
เราเลือก
filter > Texture > Stainglass และปรับค่าพารามิเตอร์แล้วจะได้
8.กดที่ปุ่ม Edit in standard Mode จะเกิดเส้นประมากมายในภาพ
9.กด delete ที่ keyboard แล้วไปที่เลือก select > deselect จะได้กรอบสมบูรณ์ เป็นอันเสร็จค่ะ
กรอบแบบนี้เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ล่ะค่ะ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่ามาเริ่มทำกันเลยดีกว่า
เริ่มแรก ก็ให้เปิดภาพที่ราต้องการจะทำขึ้นมาก่อนนะคะ  เสร็จแล้วก็ทำการปรับขนาดภาพให้ได้ตามที่เราต้องการ
รวมทั้งปรับสี ความคมชัด ฯลฯ ของภาพด้วยค่ะ
ลืมไปค่ะ...ถ้าจะให้ดี ควรทำการ copy ภาพต้นฉบับ แล้วไป paste เพื่อเริ่มทำในไฟล์ใหม่เลยนะคะ
เผื่อหลงลืมกด save ไป ภาพต้นฉบับจะได้ไม่หายไปด้วย
1. ทำการ Create new layer โดยเลื่อนเมาส์ไปคลิกที่รูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ ตรงด้านล่างสุดของเมนู Layer นะคะ
2. คลิกที่คำสั่ง Marquee tool ค่ะ เลือกให้เป็น Rectangular โดยการคลิกเมาส์ค้างไว้ ก็จะมีตัวคำสั่งขึ้นมาให้เลือกค่ะ (ส่วนใหญ่ค่าเริ่มต้นจะเป็น Rectangular อยู่แล้ว)
3. จากนั้น ให้ลากเมาส์ครอบในส่วนที่เราไม่ต้องการให้โดนกรอบบังค่ะ จะกว้างยาวเท่าไหร่ก็แล้วแต่เรา
4. คลิกเมาส์ขวา ในส่วนที่เราเลือกไว้ จากนั้นจะมีคำสั่งด้งขึ้นมาให้เราเลือก ให้เลือก Select Inverse ค่ะ
5. เปลี่ยนสี Foreground Color ให้เป็นสีขาว  โดยการคลิกเมาส์ที่รูปสี่เหลี่ยมด้านหน้าตรงที่มีรูปสี่เหลี่ยมซ้อนกัน 2 อัน (อ่า...พิมพ์เอง งงเองแฮะ - -" )  จะใส่ code ก็ได้ค่ะ เป็น FFFFFF  
6. จากนั้นก็ไปเลือกคำสั่ง Paint ค่ะ สังเกตง่ายๆ ตรงที่เป็นรูปถังสีนั่นเอง   พอเลือกแล้วก็เอามาเทสีลงในส่วนกรอบที่เราเลือกไว้ตั้งแต่ขั้นที่ 4
  สังเกตว่าตอนนี้เราทำงานอยู่ใน Layer ใหม่ที่เราสร้างขึ้นมานะคะ ไม่ใช่ Layer ที่เป็นรูปภาพ
7.  ขั้นนี้จะทำให้กรอบของเราโปร่งใสขึ้นค่ะ
ไปเลือก Soft Light จากช่องเมนูด้านบนในกรอบเมนู Layer นะคะ
8. ทีนี้กรอบเราก็ใสขึ้นแล้ว  แต่ถ้ายังไม่ถูกใจ เราสามารถทำให้ใส...ขึ้นอีก  ด้วยการปรับ Opacity ตรงช่องข้างๆ กันค่ะ  เลือกปรับตามความพอใจเลยนะคะ
9. ขั้นนี้เราจะใส่เส้นขอบให้กรอบของเรานะคะ
ไปเลือก Effect Layer จากปุ่มตัว f ข้างล่างของหน้าต่างเมนู layer เลยค่ะ จากนั้นก็คลิกเลือกที่ Stroke
จากนั้นจะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา  ก็ปรับค่าตามความพอใจเลยค่ะ
ขนาดของเส้นขอบ นี้จะอยู่กับขนาดของรูปด้วย ถ้ารูปเราเล็ก ก็น่าจะใช้เส้นเล็กหน่อย ไม่งั้นมันจะเด่นเกินนะคะ
ส่วนสีของเส้นขอบ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตรง Color คลิกเลือกที่สี แล้วก็เลือกเอาได้เลยค่ะ
หลังจากนั้นก็ใส่ตัวหนังสือตามสบายเลยค่ะ  ใส่ Effect Outer Glow ให้ตัวหนังสือหน่อยก็ดีนะคะ จะได้เห็นชัดๆ
ในขั้นตอนที่เทสีลงในกรอบเราอาจจะไม่เลือกเป็นสีขาวก็ได้กรอบที่เราได้ก็จะเปลี่ยนไปค่ะ
    หลังจากนั้นพี่อิสก็ได้เข้ามาสอนเรื่องการเขียนบทค่ะ  ถ้าหากเราเขียนบทเกี่ยวกับความเชื่อที่มีมาแต่โปราณเราต้องให้มีหลักฐานอ้างอิงเหตุและผลของความเชื่อสิ่งนั้นด้วยไม่ใช่ว่าเขียนขึ้นมาลอย ๆ เพราะถ้าหากเป็นสถานที่สำคัญต้องบอกประวัติความเป็นมาให้ถูกต้อง
     พี่อิสบอกว่า ถ้าเราเขียนบทเรื่องการทำบุญ 9 วัด เราต้องบอกเหตุผลว่าทำไมต้อง 9 วัด (เพราะว่าคนไทยเชื่อว่าเลข 9 จะพาให้ชีวิตก้าวหน้า) และถ้าบอกว่าไหว้ด้วยธูป 5 ดอก ก็ต้องบอกเหตุผลอีกว่าทำไมต้องธูป 5 ดอก แต่ถ้าสถานที่นั้นเราต้องเน้นเรื่องการท่องเที่ยว บทต้องบรรยายเกี่ยวพันธ์กับความงดงามและสิ่งที่โดดเด่นในสถานที่นั้นไม่ต้องใส่ประวัติไปมากเพราะเดี๋ยวมันจะยืดยาวและน่าเบื่อ หากมีการอ้างถึงแผนที่ก็ควรที่จะมีภาพแผนที่เก่าดั้งเดิมจนถึงปัจจุบันประกอบ การเขียนบทที่ดีนั้น ภาพและบทบรรยายต้องเป็นรูปแบบเดียวกัน
    วันนี้ก็ได้ทำกรอบรูปสวยๆไว้หลายกรอบเหมอนกันค่ะ เป็นการใช้วิธีที่มายากอะไรก็เลยนั่งทำไปได้เรื่อยๆค่ะ ก็ทำอยู่จนถึงเวลากลับบ้านนั่นแหละค่ะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าให้ฟังอีกว่ามาทำอะไรบ้างค่ะ วันนี้ออกจากที่ทำงานตอน 16.50 น.ค่ะ
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 16911เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2006 15:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 07:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
ต้องบอกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลง ที่เปลี่ยนไปของธัญกร ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เจ้าหนูหน้าใสนี่จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือ เอไม่ใช่ซิต้องบอกว่าจากหลังมือเป็นหน้ามือ เพราะหน้ามือจะขาวกว่าหลังมือใช่ไหม ผมเป็นอาจารย์ในสาขาเทคโนเหมือนกัน แต่ว่าอยู่ต่างสถาบันกัน จำได้ว่าเคยเข้ามาอ่านบล็อก แล้ว จำได้ว่า อาจารย์ยังเคยบ่นถึงพฤติกรรมไอ้หนูนี่ถึงการบันทึกบล็อกว่าไม่ได้เรื่องเลย อ่านเพิ่มเติมที่นี่ แต่ผ่านไปแค่เดือนกว่าๆ ผมเห็นพัฒนาการของไอ้หนูนี่ที่เปลี่ยนไป บันทึกเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น บันทึกยาวเฟื้อย เหมือนกับจะประชดอาจารย์ แต่ดูแล้วก็ไม่ใช่ มีความรู้และสาระ ผมก็เลยเห็นว่า ธัญกร เปี๋ยนไป และต้องขอชมไอเดีย อาจารย์ที่ปรึกษาการฝึกงานว่ามีไอเดียที่เป็นเลิศที่ใช้เทคโนโลยีไอทีให้เป็นประโยชน์ โดยการบันทึกฝึกงาน สามารถอ่านบันทึกได้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่ฝึกงานของนิสิตเลย ปีหน้าผมคิดว่าจะใช้ไอเดียนี้ไปใช้กับนิสิตฝึกงานเทคโนของผมบ้างครับ

ผมสนใจเนื้อหาทำนอวนี้ครับ  แต่เมื่อเข้าไปดูในสารบัญ แล้วเห็นแต่ชื่อ ..... 1 ถึง 58  จะเข้าไปเลือกอ่านที่สนใจก็เข้าค้นไม่ไหวครับ  ถ้าหลังบันทึกจะใส่ชื่อเรื่องไว้ด้วย จะง่ายต่อการค้นครับ เช่น ธัญกร 46 - การทำ effect ระเบิด ด้วยโปรแกรม After effect  แต่ถ้าจะให้เป็นเอกลักษณ์ก็ไม่ว่ากันครับ

เจอบล็อกของน้องธัญกร ผ่านบล็อกของอ.หนึ่ง มน.เลยคลิกตามเข้ามา ต้องขอบคุณ อ.หนึ่งที่ทำให้พี่ได้รู้จักน้องและได้ความรู้ที่น้องบันทึกไว้ ขออนุญาตนำไปลองฝึกดูนะคะ พี่เป็นนิสิต ป.โท เอกเทคโน มน.ปี 1 ค่ะลูกศิษย์ อ.หนึ่ง คราวหน้าพี่จะตามมาชมนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท