ทำไมมุสลิมจึงต้อง ละหมาดฮายัต
เมื่อเดือนธันวาคมโดยเฉพาะในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงนราธวาสราชนคริทร์ประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช พี่น้องมุสลิมทุกชุมชนทุกมัสยิดผู้นำศาสนาของเราได้รับบัญชามาจากท่านจุฬาราชมนตรี ให้ทำนมาซฮายัตขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า(เอกองค์อัลลอฮ ซ.บ )ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระพี่นางฯทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ขณะเดียวกันก็ขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าขอพรให้บ้านเมืองเกิดความสงบสันติร่มเย็นโดยเร็วเพื่อถวายแด่พระองค์ท่าน(รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพี่นางฯ)โดยการนมาซ(ละหมาดฮายัตมีมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 ยิ่งในช่วงวันอีด(อีฎิ้ลฟิตรี)วันตรุษหลังจากเสร็จสิ้นการถือศีลอด เป็นวันที่ทุกคนต้องขออภัยซึ่งกันและกัน มีความรักความเมตตา มีความสามัคคีกัน หลังจากเสร็จสิ้นการนมาซอีดแล้วเราก็นมาซฮายัตให้ทั้ง 2 พระองค์ มิตรผู้อ่าน มิตรต่างศาสนิกครับเพื่อจุดประสงค์แห่งสมานฉันท์ของการอยู่ร่วมกันในสังคมหลากวัฒนธรรม ละหมาด(นมาซ)เป็นเสาหลักของศาสนาอิสลาม ละหมาดฮายัตมาจากคำภาษาอรับว่า เศาะลาตุลฮายะฮ หมายถึงละหมาด ที่มุสลิมจะละหมาดขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า(พระองค์อัลลลอฮ ซ.บ)อันเนื่องมาจากมีจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง ซึ่งมีเงื่อนไขว่า 1.จะต้องเป็นสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง 2.การขอพรนั้นไม่ผิดหลักธรรมคำสอนของศาสนา 3 การขอพรนั้นขอให้พระองค์ได้ทรงโปรดบันดาลให้ได้รับผลสำเร็จสมความมุ่งหมาย ท่านศาสดามูฮัมหมัด(ซ.ล)ขอความโปรดปราณ ความสันติ ความจำเริญจากพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)พระผู้เป็นเจ้า จงมีแด่ท่านศาสดามูฮัมหมัด ครอบครัวของท่าน เชื้อสายวงวาร ซอฮาบะห์สาวกของท่านรวมทั้งผู้ที่เจริญรอยตามแบบอย่างทางนำของท่าน ท่านได้มีวจนะว่า (ผู้ใดมีความประสงค์สิ่งใดเกี่ยวกับอัลลอฮหรือเกี่ยวกับมนุษย์ก็จงอาบน้ำละหมาดอย่างดีและจงละหมาด2 ร่อกาอัต (2ก้มกราบ) (บันทึกโดยอิหม่ามติรมิซีย์และอิบนุมายะห์ ) โดยปกติการละหมาดฮายัต นั้นมี 2 ร่อกาอัต(รอบ)โดยผู้ที่จะทำละหมาดฮายัตจะต้องอาบน้ำละหมาด เพื่อชำระล้างร่างการตามบทบัญญัติให้ร่างกายสะอาด หลังจากนั้นยืนตรงอย่างมีสมาธิโดยหันหน้าไปทางตะวันตก(จุดที่ตั้งอัล กะบะฮ อยู่ที่ประเทศซาอุดิอารเบีย)โดยมีการตั้งอธิษฐานว่า "ข้าพเจ้า ละหมาดสุนัต ฮายัต 2 ร่อกาอัต (2รอบ2ก้มกราบ)เพื่ออัลลอฮ ตะอาลาพร้อมทั้งสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าด้วยคำว่า ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ อัลลอฮฮุอักบัร(ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ) อัลลอฮผู้ทรงยิ่งใหญ๋ อัลลออผู้ทรงเกรียงไกร) หลังจากนั้นจะอ่านพระคัมภีร์อัลกรุอานขณะยืนในบทอัลฟาติฮะ อายะกุรซีรและให้อ่านซูเราะฮ อัล-กาฟิรูนในร่อกาอัตแรก(รอบที่ 1) หลังจากนั้นโค้งก้มกราบพร้อมทั้งสรรเสริญและขอพรพระเจ้า สำหรับร่อกาอัตที่ 2 จะอ่านคัมภีร์อัลกุรอานขณะยืนในบทอัลฟาติฮะ อายะฮกุรซิรและอ่านบทอัลอิคลาสหลังจากนั้นจะโค้งคำนับและก้มกราบพร้อมทั้งสรรเสริญและนั่งขแพรพระผู้เป็นเจ้า และเมื่อให้สลามแล้ว(เสร็จละหมาด)ผู้ร่วมพิธีจะกล่าวคำอวยพรแด่ท่านศาสดามูฮัมหมัด(ซ.ล)แล้วกล่าวคำขอพรต่อไป คำขอพรมีดังนี้ คำอ่าน"ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮุ้ล ฮะลีย์มุ้ลกะลีม ซุบฮานัลลอฮิ ร็อบบิ้ลอัรซิลอะซิม วัลฮัมดุลิลลาฮิ ร็อบบิลอาละมีน อัชอะลุกะ มูยิบาติ รอหุมะดิกะ วะอะซาอิมะ มัฆฟิร่อดิกะ วัลฆ่อนีมะตะ มิงกุ้ลลิบีรเร็น วัสลามะตะ มิงกุ้ลลิอิสเม็น ลาตะดะหนีนัมยัน อิลลาฆ่อฟัรดะฮู วะลา ฮัมมัน อิลลาฟัรร็อดดะฮู วะลาฮายะดัน ฮิยะละกะ ริดอ อิลลาก่อดอยดะฮา ยาอัรฮะมัร รอฮิมีน" แปลเป็นไทยว่า " ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้ นอกจากอัลลอฮ ผู้ทรงสุขุมผู้ทรงเกียรติยิ่ง มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระผู้อภิบาลบัลลังค์อันยิ่งใหญ่ การสรรเสริญทั้งมวลเป็นเอกสิทธิของพระองค์ ผู้อภิบาลสากล ข้าฯขอต่อพระองค์ได้ทรงโปรดประทานปัจจัยเกื้อหนุน อันจะนำไปสู่ความเมตตาและการอภัยโทษของพระองค์ และขอพระองค์ได้โปรดประทานโชคลาภ อันเนื่องมาจากความดีทั้งปวง อละขอให้ปลอดภัยจากบาปทั้มวล ขอวิงวอนต่อพระองค์ อย่าปล่อยให้ข้าฯพระองค์มีโทษใดๆเว้นเสียแต่พระองค์จะทรงโปรดอภัยโทษนั้นๆแก่ข้าฯ และไม่มีทุกข์หม่นหมองใดๆเว้นเสียแต่พระองค์จะทรงขจัดมันให้พ้นไปจากข้าฯ และไม่มีมีกิจการงานใดๆที่พระองค์ทรงพอพระทัยเว้นแต่พระองค์จะทรงจัดการให้สำเร็จเรียบร้อย โอ้พระผู้ทรงไว้ซึ่งความเป็นเลิศในความเมตตาปราณี "นี่คือวิถีชีวิตหรือการขอพร ซึ่งใครต้องการสิ่งใดก็สามารถขอเพิ่มเติมได้ไม่ว่าสิ่งใดของมุสลิมเกี่ยวกับกการขอสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากอัลลอฮ(ซ.บ) พระผู้เป็นเจ้าไม่ว่าจะเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือขอพรให้พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระพี่นยางฯ ให้พระองค์ทรงหายประชวรโดยเร็ว สำหรับการรับพรขแองพระผู้เป็นเจ้า มนุษย์ไม่มีสิทธิที่จะไปทวงถาม เพราะเป็นกรรมสิทธิของพระองค์และพระองค์จะทรงประทานพรกับคนที่พระองค์ทรงประสงค์และพระองค์เป็นผู้ทรงยุติธรรมและปรีชาชาญยิ่ง
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น