เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 ชุมชนคนบ้านกร่างได้จัดประชุมประจำเดือนและกิจกรรม เสริมความรู้และตรวจสมรรถนะร่างกายให้กับสมาชิกชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านกร่าง ชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน และชมรมรวมใจต้านภัยมะเร็งบ้านกร่าง ณ.ศาลา SML หมู่ 5 วัดนิมิตธรรมาราม ต.บ้านกร่าง งบประมาณในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง (ตามโครงการยังมีอีก 2 ครั้งในปี 51) มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 74 คน โดยมีวาระดังนี้
วาระที่ 1 ประธานชมรมผู้สูงอายุ คุณสว่าง หมีนิ่ม พูดคุยเล่าเรื่องอาการป่วยไม่สบายและให้สมาชิกเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเองให้มากๆ
วาระที่ 2 เป็นเรื่องแจ้งให้ทราบจากศูนย์สุขภาพชุมชนบ้านกร่างโดย คุณศิริรัตน์ มีแสง ตัวแทนของทีมสุขภาพ ซึ่งได้ชี้แจงผลการดำเนินงานชมรมเพื่อนช่วยเพื่อน การนำสมาชิกเข้าร่วมการอบรมสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุ และโครงการต่างๆที่จะมีขึ้นในปี51
วาระที่ 3 มอบจักรยานให้กับสมาชิกเพื่อนช่วยเพื่อน จำนวน 6 คัน
วาระที่ 4 บรรยายและให้ความรู้เรื่อง การทำบัญชี รับ - จ่ายในครัวเรือน โดย อจ.สมบัติ แย้มสมพร ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้รับความสนใจจากสมาชิกมาก
วาระที่ 5 การตรวจสมรรถนะร่างกายและให้คำปรึกษาสุขภาพแก่สมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรม
รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันก่อนกลับ
ขอขอบคุณองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง ที่สนับสนุนงบประมาณให้เราได้มีกิจกรรมดีๆแบบนี้ในชุมชนคนบ้านกร่างอย่างต่อเนื่องตลอดไป
สวัสดีคะคุณSirirat..คนพิดโลกเหมือนกันคะ
ด้วยรักจากใจ หมูอ้วน..
บ้านกร่างนำสิ่งดีๆเรื่องการดูแลสุขภาพมานำเสนอมากมาย ทั้งหมดเกิดจากความร่วมมือกันของ องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น พวกเราชาวสาธารณสุข และประชาชนซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุด เมื่อสามประสานเกิดความสมดุล เราเชื่อมั่นว่าบ้านกร่างจะเป็นตัวแทนของชุมชนสุขภาพดีที่น่าชื่นชมนะ หนูรัตน์
ขอบคุณอาจารย์ที่คอยให้กำลังใจมาตลอด...ไม่เหมือนคนอื่นๆในกลุ่มงาน.. แม้แต่งานของตัวเองก็ไม่เขียนบอกเล่าสู่กันฟังมั่ง...เวลามีงานโทรหาพี่รัตน์ พี่จอย งานเสร็จเงียบ..กำลังใจไม่มี
คุณหนูรัตน์คะ
คนเราท้อได้แต่ต้องเป็นครั้งคราวนะคะ ถ้าท้อเกิดจากขาดกำลังใจจากผู้อื่น ( เราต้องคิดในแง่บวกว่าบางทีคนเราอาจไม่ตั้งใจเพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เขาไม่สามารถแสดงออกถึงการให้กำลังใจกับเราได้ในยามที่เราต้องการ ซึ่งเหตุผลของแต่ละคนก็หลากหลาย แต่ขอให้คิดในแง่ดีไว้ก่อนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจดีกว่านะคะ )
คุณหนูรัตน์คะ กำลังใจสำคัญเราต้องสร้างจากตัวเราเอง ซึ่งไม่ยากอยู่แล้วสำหรับคุณหนูรัตน์ ก็สีหน้าแววตาของคนที่เราดูแลรักษายังไงละคะ ( เจี้ยวเคยเขียนในblogด้วยค่ะ ) คนไทยไม่ถนัดในการพูดชื่นชมใครตรงๆเราต้องตักตวงความสุขและกำลังใจจากสีหน้าแววตาของเขาแทนนะคะ
ชื่นชมคุณหนูรัตน์ในงานที่คุณหนูรัตน์ทำนะคะ
เต้าเจี้ยว
ขอบคุณ..คุณเต้าเจี้ยวที่ให้ข้อแนะนำที่ดีมากค่ะจะเก็บไว้เตือนตัวเองเมื่อเริ่มท้อ...แต่คงไม่ถอยค่ะเพราะงานเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนทำงานค่ะ