จากที่เคยพูดคุยเกี่ยวกับการนอนในช่วงบ่ายทำให้ความจำดีนั้น และได้ยกตัวอย่างการปฏิบัติตนของท่านอดีตคณบดีที่กระผมเคารพท่านหนึ่งคือการพักงีบหลับหลังรับประทานอาหารกลางวันโดยใช้เวลาประมาณ 5-15 นาที ก็จะทำให้ร่างกายมีความกระปี้กระเป่าพร้อมรับงานในช่วงบ่ายมาแล้วนั้น คราวนี้ได้อ่านพบในคอลัมน์ "เกร็ดสุขภาพ (วัยทำงาน)" ของหนังสือชีวจิต ฉบับ 16 กุมภาพันธ์ 2551 นี้ เรื่อง ทำสมาธิแก้เหนื่อยล้าในที่ทำงาน ด้วยวิธีการง่ายๆ คือ
...การปลีกเวลาพักผ่อนคลายด้วยการทำสมาธิเพียง 3 ครั้งต่อวันครั้งละประมาณ 5 นาที วิธีก็แสนง่ายก็คือ หาที่สงบเงียบ เช่น ที่โต๊ะทำงาน หรือมุมสงบในห้องทำงาน แล้วนั่งในท่าที่สบายๆ และผ่อนคลาย จากนั้น กำหนดลมหายใจเข้า-ออกเป็นเวลา 5 นาที (ประมาณเวลาหรือตั้งนาฬิกาปลุกก็ได้นะ) หากทำอย่างนี้ทุกวันจะช่วยทำให้มี "สติ" และ "สมาธิ" ยิ่งขึ้นควบคู่กัน...
สำหรับหน่วยงานที่มีการกำหนดเวลาพักรับประทานกาแฟ หรือ Coffee Break นั้น ก็ยิ่งดี เห็นหรือไม่ว่าบริษัทต่างชาติเขามีวิธีการที่จะทำให้บุคลากรอันมีค่าได้พักผ่อนและสามารถมีพลังผลักดันความคิดอันมหาศาลสร้างผลงานและสร้างกำไรให้แก่บริษัทและองค์การได้ ดังนั้น ไทยเราเองมีของดีอยู่กับตัวแต่ไม่นำมาใช้ก็น่าเสียดายแย่เลย ตอนนี้ก็วางแผนที่นำไปใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนบ้าง ก็น่าจะดีสำหรับนักศึกษาและอาจารย์ผู้สอนด้วย หากได้ผลอย่างไรก็จะนำมาเสนอให้ทราบกันต่อไปครับ
อิอิ ดีครับ เพราะหลับเวลาทานข้าวแล้วจะง่วงนอนมากทำให้ไม่มีสมาธิในการศึกษา
เล่าเรียนหรือทำงาน แต่ถ้าหากลองจัดเวลาให้มีการพักผ่อนซัก 10-15 นาที จะดีมาก หรือเวลาอบรมก็ควรมีการพักมีกาแฟ แล้วเวลานอนซัก 5-15 นาทีแล้วละก็ จะทำให้ความจำและการActive ตัวเองสูงมาก อิอิ
ปล.
Omegalll
สวัสดีค่ะอาจารย์
ขอบคุณค่ะ
คณะผู้จัดทำได้รวบรวมเนื้อหากระทู้ของคุณสมถะหรือปราชญ์ขยะ
ที่ได้ถามตอบเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปในพระพุทธศาสนา และสมาธิภาวนาวิชชาธรรมกายในเวปบอร์ดต่างๆ
นำมาจัดเก็บไว้ ณ ที่นี้ เพื่อให้ผู้สนใจสะดวกในการติดตามอ่านและความทำความเข้าใจได้สมบูรณ์ที่สุด
ห้องสนทนา ถามตอบปัญหาพุทธศาสนาและวิชชาธรรมกาย http://forums.212cafe.com/samatha/board-8/list.html
สถานที่ใดต้องการให้คณะวิทยากรไปช่วยสอนหรือฝึกสมาธิเรายินดีไปฝึกให้ฟรี ติดต่อในห้องสนทนาของเวปได้เลยครับ... http://forums.212cafe.com/samatha/board-4/list.html
จึงขอเรียนเชิญท่านผู้สนใจติดตามอ่านและพูดคุยสนทนาธรรมกันได้ที่ http://khunsamatha.com/