ศาสตราจารย์นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา กูรูแห่งวงการอุดมศึกษาไทย เพิ่งออกหนังสือเล่มใหม่ เมื่อต้น ปี 2551 นี้ ชื่อว่า "ความเป็นอิสระของมหาวิทยาลัยไทย"
สำหรับท่านที่อยากทราบข้อมูลทั้งเชิงกว้าง เชิงลึก จาก tacit knowledge ของท่านอาจารย์ สมควรหามาอ่านเป็นอย่างยิ่ง
มีบทสำคัญ บทหนึ่งในเล่ม ที่ดิฉันอยากจะนำมาสรุปย่อให้ท่านที่สนใจติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอดได้ทราบ เพราะดิฉันเองไม่มีปัญญาพอจะคิดเองได้ และยังไม่เคยสรรหามาให้ได้อ่านกัน ดังนี้
ท่านอารัมภบทก่อนว่า
การเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดผลได้ทั้งทางดีขึ้นหรือเสื่อมลง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลให้เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.....ปัจจัยที่จำเป็นอย่างสุดสุดที่ขาดเสียมิได้ เป็นข้อแม้ที่หากไม่เกิดขึ้น ก็หวังได้ยากว่ามหาวิทยาลัยไทยจะผ่านพ้นภาวะวิกฤติไปได้ ปัจัยที่จำเป็นอย่างสุดๆ นั้น มี 2 ประการ คือ
บทความนี้ถูกใจจริง ๆ ครับ
ผมเองเคยมีบทบาทในมหาวิทยาลัยชื่อดังมาแล้ว แต่ก็โอนย้ายไปรับราชการที่อื่นเพื่อความก้าวหน้าในชีวิตรับราชการ ปัจจัยสำคัญของการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ทุกมหาวิทยาลัยจะต้องเป็นอิสระจากการครอบงำจาก สกอ. และปลอดการเมือง เนื่องจากการเรียนการสอนในระดับมหาวิทยาลัยจะต้องเป็นการจัดการเรียนการสอนเพื่อป้อนตลาดแรงงานในประเทศ ถ้ามหาวิทยาลัยใหนจัดการเรียนไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ผู้ประกอบการเขาจะเป็นผู้ตัดสินเอง ซึ่งในปัจจุบันมีองค์กรภายนอกที่เข้าไปเบี่ยงเบนการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา เหมือนกับการปฏิรูปรอบสองของกระทรวงศึกษาธิการซึ่งผู้ที่รับผิดชอบจะทราบดีว่าสิ่งที่ปฏิรูปมาเด็กนักเรียนกลับมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำลงทุกปี ปัญหาเกิดจากกระบวนการต่าง ๆ นักคิดทั้งหลายที่เข้ามาบริหารเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอน เปลี่ยนแปลงกระบวนการคิดของเด็กโดยไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยไม่กระเตื้องขึ้นเลย แต่กลับเพิ่มงบประมาณลงไปสู่กระบวนการต่าง ๆ อย่างมากมาย
สุพจน์