Nan & Ball Chongbunwatana
นายและนาง คมกฤชและประณยา จองบุญวัฒนา

12: อำลา อาลัย ผู้อำนวยการ Thai Trade Centre ณ กรุงธากา


พี่กัญ ปรารภในระหว่างงานเลี้ยงที่ท่านทูตจัดให้เมื่อสองวันก่อนว่า รู้สึกใจหาย เพราะอยู่ที่นี่มานาน รู้สึกผูกพันธ์ กับคนที่นี่ ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนเราที่ต้องรู้สึกเช่นนี้ เมื่อจะต้องจากลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่กัญ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกตลาดของสินค้าไทยให้โด่งดัง มีชื่อเสียงระดับไฮเอนด์ ติดตลาดไฮโซของชาวบังกลาเทศ ได้ ก็ต้องรู้สึกรักในงานที่ตนได้สร้าง ได้ปั้นมากับมือเป็นธรรมดา

วันนี้วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นวันที่น่าจดจำวันหนึ่ง แณณจึงอยากจะเขียนเก็บไว้ในบันทึกส่วนตัว แต่คิดว่ามาเขียนไว้ที่ go2know แห่งนี้ ก็น่าจะดี

ตอนเที่ยงตรงเรารีบออกไปที่สนามบิน Zia International Airport เพื่อไปส่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าไทยในต่างประเทศหรือ Thai Trade Centre ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ แต่เมื่อมาอยู่ในต่างประเทศแล้ว ภายใต้นโยบาย Team Thailand ของรัฐบาล (ทูตซีอีโอ) หน่วยงานต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศนั้นๆ

ตำแหน่งผู้อำนวยการ Thai Trade Centre ของที่นี่ เป็นระดับ ซี 8 มีอำนาจดูแลด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างไทย- บังกลาเทศ ดูแลภาคเอกชนไทยที่มาทำธุรกิจที่บังกลาเทศให้ได้รับความสะดวก คุณกัญญารัตน์ วงศ์สกุล ท่านผู้อำนวยการ คนที่กำลังอยู่บนเครื่องบินขณะที่แณณกำลังเขียนบันทึกนี้ เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งจากนักธุรกิจชาวบังกลาเทศ และ บรรดาคนไทยที่อยู่ใน   บังกลาเทศ เริ่มตั้งแต่ แม่ครัวไทย พนักงานสปาไทย นักธุรกิจไทยแขนงต่างๆ  ทุกคนรักและนับถือ คุณกัญญารัตน์ และสามี คุณวิชัย   วงศ์สกุล เป็นอย่างมาก

ก่อนที่จะมาถึงวันเดินทางนั้น พี่กัญ และพี่วิชัย ต้องตระเวนไปงานเลี้ยงที่เกิดจากน้ำใจของทั้งชาวไทยและชาวบังกลาเทศที่ต้องการเลี้ยงส่งพี่ที่เป็นที่รักทั้งสอง ที่กำลังจะจากไปประจำการ ณ ประเทศอื่น (ที่เจริญกว่าที่นี่มาก) ได้ทราบเมื่อตอนไปส่งที่สนามบินว่า พี่วิชัย สามีพี่กัญ ไม่ได้นอนทั้งคืน เนื่องจากมีคนไทยที่รักนับถือกัน ตามมาส่งที่บ้านและอยู่เกือบทั้งคืนก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานตอนรุ่งเช้า

พี่กัญ ปรารภในระหว่างงานเลี้ยงที่ท่านทูตจัดให้เมื่อสองวันก่อนว่า รู้สึกใจหาย เพราะอยู่ที่นี่มานาน รู้สึกผูกพันธ์ กับคนที่นี่  ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนเราที่ต้องรู้สึกเช่นนี้ เมื่อจะต้องจากลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พี่กัญ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกตลาดของสินค้าไทยให้โด่งดัง มีชื่อเสียงระดับไฮเอนด์ ติดตลาดไฮโซของชาวบังกลาเทศ ได้ ก็ต้องรู้สึกรักในงานที่ตนได้สร้าง ได้ปั้นมากับมือเป็นธรรมดา

แณณเอง รู้สึกประทับใจพี่กัญมาก เนื่องจากตอนที่ไปช่วยราชการสามีที่จิตตะกองนั้น ฝ่ายในเรารับภาระในการที่ต้องตระเวนไปหาของต้อนรับแขกระดับ VVIP ท่านหนึ่งซึ่งมีธุระต้องมาที่เมืองจิตตะกอง แม้จะเป็นการมาแค่เพียงไม่กี่สิบนาที แต่เราก็ต้องต้อนรับให้สมเกียรติของท่าน ของที่ใช้ในการต้อนรับทุกอย่าง ได้ถูกกำหนดแบบและส่งคำแนะนำมาให้จากเมืองไทย แต่ด้วยความที่บังกลาเทศนั้นเป็นประเทศที่ยังไม่มีสิ่งของทุกอย่างจากทั่วทุกมุมโลกเหมือนประเทศไทย การที่จะหาของแต่ละอย่าง จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก สุดท้ายเมื่อหาไม่ได้ ก็ต้องไปหาซื้อผ้าสีขาว และมาจ้างช่างเย็บผ้าในตลาดเย็บกันสดๆ เดี๋ยวนั้นเลย แต่อนิจจัง ! แขกบัง ดันเย็บผิด ฝ่ายในซึ่งมีเพียง 2 คนที่นี่ก็ละเหี่ยใจ จะเอาอย่างไรกันละนี่ มีอีกตั้งหลายอย่างที่ต้องทำ ดอกไม้ก็ยังไม่ได้ซื้อ ของก็ยังขาดอีก เอ...คงต้องแยกร่างกันไปทำคนละอย่างสองอย่าง ซึ่งในครั้งนั้นก็ได้พี่กัญ นี่แหละค่ะ ช่วยรับผิดชอบคุมเจ้าช่างเย็บผ้าให้เย็บใหม่ให้ถูกต้อง ไม่งั้นวันรุ่งขึ้น ไม่มีผ้าปูโต๊ะ ต้อนรับแขก VVIP ท่านนี้ เหตุการณ์ จะเป็นอย่างไรต่อไป โอย......ไม่กล้าคิดต่อค่ะ ส่วนฝ่ายในคนอื่นก็แยกย้ายไปซื้อดอกไม้ ไปจัดข้าวจัดของอย่างอื่น

วันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันที่แขก VVIP ท่านนี้เดินทางมาถึง พี่กัญ ก็แสดงฝีมือแม่บ้านแม่เรือน อีกครั้งด้วยการเย็บผ้าลูกไม้ที่จะนำมาทำเป็นผ้ารองพื้นถังขยะสำหรับทิ้งกระดาษทิชชู่ในห้องน้ำของแขก VVIP ด้วยมือค่ะ โดยมีแณณและพนักงานหญิงท้องถิ่นของการบินไทยมาช่วยเป็นลูกมือด้วย

                                  1

                                    พี่กัญญารัตน์ แณณ และท่านอัครราชทูตที่ปรึกษา

           หลังจากเสร็จภารกิจที่เมืองจิตตะกอง (ม.ค.51) ถ่ายรูปก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงธากา

พี่กัญ ไม่เคยถือตัวว่าเป็นผู้อำนวยการระดับ 8 ของหน่วยงานกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องโดยตรงนักกับ  การต้อนรับแขก VVIP ซึ่งเป็นงานด้านพิธีการทูต ของกระทรวงการต่างประเทศ อาจจะเป็นเพราะพี่กัญ ไม่ใช่ข้าราชการหัวโบราณที่จะคอยแบ่งแยก ว่าตนเป็นคนของกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ หรือจะด้วยความเข้าใจ ในนโยบายการทำงานแบบบูรณาการ ของรัฐบาลไทย หรือจะด้วยอัธยาศัยที่น่ารัก น่ายกย่องนับถือส่วนตัว ของพี่กัญ ก็ไม่ทราบแน่ แต่พี่กัญ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ข้าราชการต่างหน่วยงานกัน เมื่อมาร่วมแรง ร่วมใจกันทำงานภายใต้ชื่อ Team Thailand แล้วนั้น หากยอมถอดหมวกเดิมทิ้ง และทำงานแบบบูรณาการด้วยกันแล้ว ก็ย่อมสามารถทำให้งานทุกอย่างสำเร็จ ลุล่วงไปได้ด้วยดี มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล

ก่อนจากไป พี่กัญ ก็ยังฝากงานบุญ ไว้อีกงานหนึ่งคือการรวบรวมเงินบริจาคเพื่อนำไปติดตั้งแท๊งค์น้ำที่ได้ถวายวัดพุทธไปเมื่อวันมาฆบูชา พี่กัญ มาทราบภายหลังจากที่บริจาคแท๊งค์น้ำไปแล้ว ว่ายังต้องมีการเดินระบบท่อและต้องติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำ ไม่อย่างนั้นแท๊งค์น้ำที่บริจาควัดไปก็ไม่มีประโยชน์ แณณก็รับด้วยความยินดี ที่จะสานต่อบุญนี้ ต่อไปให้สำเร็จตามเจตนารมย์ของพี่กัญ ค่ะ

นอกจากหน่วยงานราชการไทยทั้งหมดจะอยู่ใน Team Thailand แล้ว เมื่ออยู่ต่างประเทศ หน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทมาก และมักจะให้ความร่วมมือกับสถานทูตเป็นอย่างดี และเต็มอกเต็มใจอยู่เสมอคือ สำนักงานการบินไทยประจำประเทศนั้นๆ ค่ะ พนักงานและครอบครัวของคนการบินไทยที่นี่ มีส่วนร่วมส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี ของคนในประเทศนี้และประเทศไทยโดยตรงเลยทีเดียวนะคะ เพราะเวลาสถานทูตมีงานส่งเสริมการค้า ส่งเสริมอาหาร และวัฒนธรรมไทย ครั้งใด เป็นต้องมีสปอนเซอร์เป็นการบินไทยทุกครั้งไปค่ะ :)

สุดท้ายสำหรับบันทึกวันนี้ แณณก็ขอให้พี่กัญ และพี่วิชัย เดินทางโดยสวัสดิภาพ มีความสุข ประสบแต่ความสำเร็จ สุขภาพแข็งแรง เป็นที่รักของคนไทยและคนต่างประเทศ ณ ประเทศ..... (ที่กำลังจะไปประจำการใหม่) นะคะ

 

ประณยา จองบุญวัฒนา

25 กุมภาพันธ์ 2551

หมายเลขบันทึก: 167366เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2008 17:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2012 09:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะคุณแณณ อยู่ต่างแดนแล้วพบคนไทยด้วยกันที่แสนดีเอื้อเฟื้อเช่นนี้เป็นบุญที่สร้างมานะคะไม่แปลกใจที่ทั้งสองท่านมีผู้คิดถึงยามท่านจะต้องกลับเมืองไทย

หากมีสิ่งที่จะร่วมทำบุญได้ ช่วยแนะนำวิธีการด้วยนะคะ รู้สึกว่าเป็นโอกาสจะได้ทำบุญในพระพุทธศาสนาในที่ที่ขาดแคลนค่ะ

สวัสดีค่ะคุณแณณ

  สมเป็นตัวแทนคนไทยกันทุกคน ต่างก็ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ก็จะเป็นการประกาศ ให้ทั่วโลก รู้จักประเทศไทย อันเป็นที่รักของเราได้อย่างสมเกียรติค่ะ ดีใจค่ะ อยากให้มีคนแบบนี้มากๆ

P      สวัสดีค่ะพี่คุณนายดอกเตอร์

  • มีเรื่องการทำบุญผ้าไตร จีวร กับพี่โยคีน้อยนะคะ ในขณะนี้ หากพี่นุช (แณณแวะที่ไปที่เพจของพี่เห็นคนเรียกพี่นุช อนุญาตเรียกตามเลยนะคะ) สนใจ ลองติดต่อกับพี่โยคีน้อยดูนะคะ
  • ส่วนเรื่องการเรี่ยไรค่าติดตั้งแท๊งค์น้ำนั้น เนื่องจากเป็นจำนวนเงินไม่มาก คนไทยที่นี่จึงรวบรวมเงินกันสานบุญต่อจากพี่กัญค่ะ  ขอขอบพระคุณพี่นุช ที่มีจิตกุศล จะร่วมทำบุญกันนะคะ
  • หากทางสอท.มีงานด้านวัฒนธรรม และหากเป็นงานบุญเช่นนี้อีก จะเรียนให้ชาว go2know ที่สนใจทราบนะคะ
  • ที่จริง เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นที่พี่นุชสนใจนี่ก็น่าจะคิดทำอะไรต่อได้อีกนะคะ ระหว่าง 2 ประเทศ
  • อาจเป็นการหาความเหมือน หรือความต่างที่ compliment กันและกันของ tacit knowledge ที่อยู่ในตัวของคนทั้ง 2 ประเทศ บางทีอาจจะได้ความรู้แขนงใหม่ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง 2 วัฒนธรรมก็ได้นะคะ
  • แณณก็คิดไปเรื่อยเลยค่ะ สามีบอกว่าเจ้าความคิด แต่แณณไม่คิดเพ้อฝันนะคะ คิดแล้วก็อยากทำให้เกิดขึ้นจริงด้วย และต้องมีประโยชน์ เดี๋ยวเสร็จ โปรเจ็คงานบุญผ้าไตร จีวร นี้แล้ว แณณมาปรึกษาพี่นุชเรื่อง Traditional Knowledge  น่าจะดีนะคะ :) ..แณณรู้สึกตื่นเต้นไฮเปอร์ขึ้นมาทันทีเลยค่ะ

 

P      สวัสดีค่ะพี่โยคีน้อย

  • คนที่นี่ รู้จักและชอบประเทศไทยมากค่ะ เวลาบอกว่ามาจากเมืองไทย คนก็จะบอกว่า Good Country แณณก็จะรู้สึกภูมิใจนะคะ แล้วพวกเค้าก็จะถามถึงพระเจ้าอยู่หัวเสมอ
  • เวลาแณณเล่าให้ฟังว่าทำไมคนไทยจึงรักพระเจ้าอยู่หัวขนาดนี้ เล่าไปก็น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัว เค้าก็บอกว่า มันคงเป็นจิตใต้สำนึก แม้เรื่องที่พูดจะไม่ใช่เรื่องเศร้า แต่ด้วยความรักและศรัทธา ทำให้เราน้ำตาซึมๆ นะคะ
  • เห็นคนไทยเราเป็นแบบนี้กันทุกคนเลยนะคะ เรารักพระเจ้าอยู่หัวค่ะ

แณณ

เข้ามาชื่นชมบทบาทของฝ่ายในที่สอท.บังกลาเทศจ๊ะ

เข้มแข็งดีจัง

  • ขอบคุณค่ะ พี่พลเดช ได้ข่าวว่าเพิ่งหายไข้ ขอให้พี่สุขภาพแข็งแรงนะคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท