สมานฉันท์
มูฮัมมัด วรนันท์ รอมฎอน บุนนาค

อาหารในอิสลาม


อาหารการกินเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกเพศ วัย ทุกชาติพันธุ์และศาสนา เชื่อหรือไม่ว่าการบริโภคหรือกินอาหารของมนุษย์เป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจ ถ้ามนุษย์ต้องการสิ่งใดมนุษย์ก็จะผลิตสิ่งนั้นขึ้นมาตอบสนอง และถ้ามนุษย์รู้จักกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ มนุษย์ก็จำต้องผลิตแต่ของดีและมีประโยชน์ต่อมนุษย์เอง แต่ในขณะเดียวกันถ้ามนุษย์กินของที่เป็นโทษ มนุษย์ก็จะผลิตสิ่งที่เป็นโทษออกมาตอบสนองความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน ในอัล อิสลาม (วิถีชีวิตผู้ที่นับถืออิสลาม)การกินไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อความสะอาด ความเข้มแข็งและการเจริญเติบโตทางจิตวิญญาณที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์ที่เราเรียกว่าอาหารฮาลาล ส่วนอาหารที่สกปรก ไม่สะอาด(ฮะรอม)ในทัศนะของพระเจ้า(เอกองค์อัลลอฮ (ซ.บ)ไม่เพียงแต่จะมีผลเสียต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่มันยังจะทำให้วิญญาณพลอยตกต่ำ สกปรกไปด้วยและที่คัญที่สุด คือ การกินอาหารที่ต้องห้าม ผิดหลักอิสลามเป็นสาเหตุที่ทำให้พระผู้เป็นเจ้าไม่รับการวิงวอน(ดุอาอ์)ของคนผู้นั้น

     พี่น้องครับ ในพระคัมภีร์ไบเบิล ก็มีข้อจำกัดเรื่องอาหารมากเช่นกัน เพราะนอกจากจะห้ามสิ่งมึนเมาแล้ว ยังห้ามกินหมูและเนื้อสัตว์อื่นๆอีกบางชนิด ดังนั้นหากคนที่เป็นคริสเตียนที่เป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของคัมภีร์ไบเบิลจริง เขาก็จะต้องไม่กินเนื้อหมูและสุรา(ของมึนเมา) เช่นกัน  ชาวยิวที่ยึดถือคัมภีร์โตราห์(พันธสัญญาเดิม)จะไม่กินเนื้อหมูและอาหารบางประเภทที่กำหนดไว้ในคัมภีร์ของตนด้วยเช่นกัน  ชาวยิวมีกฎหมายที่กำหนดว่าอะไรที่กินได้ อะไรศาสนาไม่อนุมัติให้กินเช่น เลือด เนื้อหมู กระต่าย สัตว์น้ำจำพวกมีเปลือก นกป่า เป็ดป่า และนกล่าเนื้อ (พันธสัญญาเดิม ฉบับอพยพ 22:31) จะเห็นได้ว่าเผ่าพันธ์มนุษย์มีกรอบเรื่องอาหารการกินมาตั้งแต่เดิมแล้ว และเรื่องการกินก็เป็นสิ่งบ่งชี้อย่างหนึ่งว่าผู้นั้นเป็นอย่างไร ส่วนมุสลิมนั้นขึ้นอยู่กับการกินและการทำสิ่งที่ฮาลาล และละเว้นจากสิ่งที่ฮารอม นั่นเอง พระผู้เป็นเจ้าด้วยพระนามของ พระองค์อัลลอฮ (ซ.บ)ผู้ทรงกรุณา ผู้ทรงเมตตาปราณียิ่งเสมอ เป็นผู้กำหนดว่าอะไรเป็นที่ฮารอม และอะไรเป็นสิ่งที่ฮาลาล  กฎการกินของอิสลาม จึงต้องเป็นอาหารและสิ่งที่จะนำมาใช้ต้องเป็นที่อนุมัติและสะอาด (ฮาลาลันและฏ็อยยิบัน) , เป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์, กินอย่างพอประมาณ ไม่ฟุ่มเฟือยหรือสุรุ่ยสุร่ายเพราะคนที่สุรุ่ยสุร่ายนั้นเป็นพวกพ้องของมาร และสิ่งที่อิสลามต้องห้ามได้แก่ 1.เนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่ทำมาจากตัวหมู เช่น เยลละตินที่ทำมาจากหมู่ แคปซูลยาที่ทำมาจากหนังของหมู มุสลิมถือว่าเป็นฮารอม(หะรอม)ต้องห้าม 2.เลือดทุกชนิด ไม่ว่าจะนำไปต้มหรือไปทำพาสเจอรไรส์หรือไปทำเป็นผลิตภัณฑ์อะไรก็แล้วแต่ถือว่าเป็นที่ต้องห้ามตามหลักการศาสนา 3.เนื้อของสัตว์ที่ตายเองโดยธรรมชาติหรือตายโดยไม่รู้สาเหตุ เพราะเนื้อของสัตว์เหล่านี้อาจเป็นอันตรายจากโรคที่ทำให้สัตว์ตาย เช่น โรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีก 4 เนื้อของสัตว์ที่ตกจากที่สูงตาย ถูกทุบ และถูกรัดคอ ทั้งนี้เนื่องจากการฆ่าเป็นวิธีการที่ทารุณและการฆ่าโดยวิธีนี้ไม่ทำให้เลือดของสัตว์ไหลออกมา การฆ่าวัว ควาย ในอีสานของพี่น้องต่างศาสนิกใช้วิธีเอาฆ้อนปอนด์ทุบตีอย่างแรงที่หน้าผากของสัตว์  5.เนื้อของสัตว์ที่เชือดโดยไม่กล่าวนามของพระผู้เป็นเจ้า เอกองค์อัลลอฮ (ซ.บ)เหตุผลก็เพราะสัตว์มีชีวิต และชีวิตของสัตว์เป็นของพระเจ้า ถ้าจะกินเนื้อของมันก็ต้องขออนุญาติจากพระเจ้าเพื่อเอาชีวิตมันเสียก่อน หากไม่กล่าวพระนามของพระองค์ก็แสดงว่าไม่เคารพพระผู้เป็นเจ้า เจ้าของชีวิตสัตว์และขโมยทรัพย์สินของพระองค์ นอกจากนี้ คนที่จะต้องกล่าวพระนามลงบนมันเวลาเชือดจะต้องเป็นมุสลิมผู้ศรัทธาในพระองค์ด้วย มิเช่นนั้นแล้ว เนื้อของสัตว์นั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องห้าม ชาวยิวสมัยก่อนก็ต้องเชือดโดยกล่าวนามของพระองค์อัลลอฮ(ซ.บ)เช่นกัน แต่ปัจจุบัยชาวยิวไม่เคร่งครัดแล้ว เนื้อของสัตว์ในยุคที่ยิวเชือดและกล่าวพระนามมุสลิมได้รับอนุมัติให้กินได้แต่ปัจจุบันห้ามแล้ว ส่วนยิวสามารถบริโภคเนื้อที่มุสลิมเชือดได้อย่างปลอดภัย 6.อาหารใดใดก็ตามที่นำไปเซ่นไหว้ บวงสรวงผี สาง เทดา นางไม้ นางกวัก หรือนำไปถวายอื่นใด เป็นหะรอม ทั้งนี้เพราะมุสลิมนับถือพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว อาหารใดก็ตามที่ไปเซ่นไหว้ ถวายอื่นแล้ว ถือว่าเป็นอาหารหะรอมห้ามมุสลิมนำมากินหรือนำมาใช้ 7 สัตว์ที่ให้กรงเล็บและเขี้ยวจับหรือฉีกเหยื่อกินเป็นอาหาร เช่น นกอินทรีย์ เสือ หมี และอื่น เนื่อของสัตว์เหล่านี้ไม่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ และการล่าสัตว์เหล่านี้มาเป็นอาหารก็เป็นการทำลายดุลธรรมชาติ ทำลายสมดุลย์ของระบบนิเวศน์สัตว์ ในพระไตรปิฎกเนื้อของมังสา 10 อย่างเป็นที่ต้องห้ามเช่นกัน เนื้อของเสือ ราชสีห์ สุนัข หมี งู จรเข้ ก็เป็นสัตว์ที่ต้องห้ามเช่นกัน 8.สิ่งมึนเมาทุกประเภท โดยเฉพาะสุรานั้น อิสลามถือว่าเป็นแม่ของความชั่ว ที่จะออกลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าอาหารต่างๆเหล่านี้มีแต่พิษภัยและโทษ หากไม่กินสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ตาย นำเสนอไว้เพื่อพี่น้องต่างศาสนิกจะได้เรียนรู้เข้าใจคนที่เป็นมุสลิม ใครก็ตามที่มีเพื่อน คนรู้จัก ญาติ ที่เป็นมุสลิมจะได้ปฏิบัติกับเขาอย่างถูกต้อง การปฏิบัติเรื่องอาหารอย่างถูกต้องก็เท่ากับเป็นการให้เกียรติกับเขาด้วยเช่นกัน

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ฮาลาลฮะรอม
หมายเลขบันทึก: 167050เขียนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2008 10:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท