สมานฉันท์
มูฮัมมัด วรนันท์ รอมฎอน บุนนาค

วิถึศาสนธรรม นิติธรรมและหลักยุติธรรมใน 3 จังหวัดชายแดนใต้


ทุกคนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใด้ล้วนแล้วแต่ต้องการให้สังคมสงบสันติร่มเย็นกันถ้วนหน้า ที่เห็นและเป็นอยู่เช่นนี้ไปเคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะมีการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้า ศาสนาภาษา เผ่าพันธ์และที่สำคัญชาวบ้านมุ่งว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ การสร้างสถานการณ์ ความพยายามสร้างความไม่สงบเพราะเกรงว่าหากเกิดความสงบจะไม่มีเบี้ยสถาณการณ์ร้อน ถูกย้ายกลับ ความคลางแคลงใจล่าสุดมีที่มาจากทหารพรานซ้อนมอเตอร์ไซด์และเอาปืน M16ยิงชาวบ้านอย่างโดหร้ายทั้งๆที่ไม่รู้จักไม่มีเรื่องบาดหมางกัน ไม่รู้จักกันมาก่อนและผู้บังคับบัญชาทหารพรานรายนั้นก็ยอมรับหน้าตาเฉยว่าเป็นทหารพรานในหน่วยของตนเอง กรณีการปลอมตัวเป็นโจรนินจา และอีกหลายกรณีที่จับตัวไม่ได้ เป็นคำถามค้างคาใจพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ว่านี่มันอะไรกัน

          มีประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ผู้บริสุทธิ์ที่ได้ถูกอำนาจรัฐคุกคาม โดยไม่ได้แบ่งแยกว่าใครคือผู้ก่อความไม่สงบ  ใครคือผู้บริสุทธิ์   เรื่องนี้ในอนาคตอันใกล้ไม่ได้เกิดผลดีกับนโยบายแก้ปัญหาสันติสุขในพื้นที่ภาคใต้ และน่าจะนำไปสู่ความบาดหมางคลางแคลงใจนำไปสู่ความรุนแรงที่จะเพิ่มมากขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้น การที่คนบริสุทธิ์ถูกจับกุมไปสอบสวนด้วยกระบวนการนอกกรอบความยุติธรรม ด้วยการซ้อม ทุบตี บีบขมับ ให้ไฟฟ้ช๊อตอวัยวะเพศ อัณฑะ หรือแม้แต่ช๊อตลิ้นและจับกดน้ำเพื่อให้รับสารภาพในชั้นสืบสวนสอบสวน นี่เป็นเรื่องร้ายแรงหรือไม่ที่กระบวนการยุติธรรมไปไม่ถึง ท่ามกลางสังคมที่เห็นชอบกับการใช้ความรุนแรงและมองคนด้วยความอคติ โดยเฉพาะการมองแบบเหมารวมถ้าเอ่ยถึงประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ท่านทราบหรือไม่ว่า การนำตัวผู้บริสุทธิ์ไปสอบสวนกักขังหากเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว จำต้อง 1.ควรเปิดโอกาสให้ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ได้เข้าเยี่ยมทันทีภายหลังการจับกุมคุมขังและควาบคุมตัว (หลายกรณีมีการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน อย่างไร้ความเมตตาปราณี จนผู้บริสุทธ์ชิงฆ่าตัวตาย และเรื่องก็เงียบ ยังปล่อยให้ความป่าเถื่อนที่แอบแฝงอยู่ในกระบวนการยุติธรรมดำเนินต่อไป แม้ล่าสุดกรณีการไล่ยิงชาวบ้านของทหารพรานเรื่องยังคงเงียบ) 2.เจ้าหน้าที่รัฐต้องระบุสถานที่ ที่นำผู้บริสุทธ์ไปควบคุมตัวให้ถูกต้องชัดเจน(ไม่ใช่ไปที่เซฟเฮ้าท์ สถานที่กักขังไว้เพื่อทำทารุณกรรม) ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดความสงสัยและคลางแคลงใจในหมู่ประชาชนว่ามีการซ้อม ทรมาน ผู้ถูกควบคุมตัว 3.เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องนำสืบ หาข้อมูลที่เอาผิดผู้กระทำผิดด้วยหลักฐานไม่ใช่มาจากการซ้อม การทำการทารุณกรรม เพื่อให้รับสารภาพ และไม่น้อยเลยที่เมื่อขึ้นศาลหลักฐานไม่เพียงพอก็ต้องปล่อยผู้บริสุทธ์ไปเพราะขาดพยานหลักฐานที่เพียงพอ 4.เจ้าหน้าที่ของรัฐควรนำหลักนิติธรรม หลักยุติธรรม และหลักศาสนธรรม มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน ที่ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ว่าจะเป็นรัฐ ผู้ก่อการ ประชาชน ไม่เลือกเชื้อชาติ ภาษา และเผ่าพันธุ์ เสียงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเลิกกระทำการซ้อม ทารุณ เพื่อบีบบังคับให้ผู้ปบริสุทธิ์รับสารภาพว่ากระทำผิดไม่ต่างจากกรณี ตชด นอกรีตที่ทำกับประชาชนมากกว่า 200 คดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลักสิทธิมนุษยชน ที่สังคมไทยต้องสร้างให้มีขึ้นอย่างหนักแน่นทั่วทั้งประเทศ เพราะตามหลักกฏหมายแล้ว การจับกุมคุมขังผู้บริสุทธิ์ ไปขังคุกเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในกระบวนการยุติธรรม ที่ผู้พิพากษาและผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการดังกล่าวจะต้องไดรับโทษ ซึ่งในหลายประเทศเขาทำกัน แต่ประเทศไทย เมื่อไหร่?   และหากเป็นท่าน คนรักของท่าน พ่อ หรือ แม่ของท่านลูกๆของท่านโดนเช่นนี้จากเจ้าหน้าที่รัฐท่านจะทำอย่างไร 

หมายเลขบันทึก: 166939เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2008 15:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท