หลังจากที่กำหนดวันทอดผ้าป่าสามัคคีของวิทยุชุมชนฅนด่านซ้าย รวมถึงการจัดพิมพ์ใบฎีกาบอกบุญจำนวน 1,000 ซอง เพื่อช่วยกันเอาไปเชิญชวนพี่น้องให้ร่วมกันทำบุญเพื่อหารายได้สมทบทุนการปรับปรุงเสาอากาศและเครื่องส่งใหม่ของวิทยุชุมชน แต่ด้วยเวลาที่ค่อนข้างมีจำกัดการจัดรถประชาสัมพันธ์ออกไปยังหมู่บ้านต่างๆ ที่รับฟัง FM 104.5 ได้จึงเป็นกลยุทธ์ที่นำมาใช้ได้อย่างผล เพราะถือโอกาสไปรับฟังความคิดเห็นของผู้ฟังด้วย และสำหรับแฟนๆรายการที่ติดตามรับฟังกันมาตลอด การได้พบกับนักจัดรายการที่เป็นขวัญใจของตัวเองนั้น เป็นความสุขอย่างมากทีเดียว
แม้จะดูเหมือนง่ายกับการไปขอรับบริจาคเงิน แต่ความรู้สึกบางอย่างก็ย้ำเตือนพวกเราเสมอว่า ทำอย่างไรที่จะให้การบริจาคเป็นไปตามกำลังศรัทธา ไม่ใช่การบังคับ หรือจำยอมต้องควักเงินในกระเป๋า เพราะสำหรับบางคน บางครอบครัวอาจเป็นเงินที่มีเหลืออยู่ไม่มากนัก
ก็เลยตกลงกันว่า ให้รถประชาสัมพันธ์เชิญชวนโดยทีมงานที่เหลือแบ่งออกเป็น 2 ทีมเดินคนละฟากของถนน และให้พี่น้องที่ต้องการบริจาคเดินเข้ามาหาเอง โดยไม่ต้องเข้าไปหาหรือไปรออยู่หน้าบ้านเพราะอาจจะทำให้พี่น้องลำบากใจ
"คุณยาย" ชื่อรถคู่ใจของคุณเสนาหอย ที่บริจาคโดยร้านต้นวัสดุ เพื่อให้นำมาใช้ในกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีแม้สภาพภายนอกจะดูเก่าแก่สมชื่อ แต่ในทุกๆ งานสำคัญก็ได้คุณยายนี้แหละวิ่งประชาสัมพันธ์ให้..
อ้ายเซียงน้อยรับหน้าที่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องตลอดรายการ ด้วยความเป็นครู เป็นหมอขวัญ และเป็นนักจัดรายการที่แฟนรายการเยอะที่สุดคนหนึ่ง ต้องยอมรับว่าคำอวยพรที่อ้ายเซียงน้อยมอบให้ผู้ที่ใจบุญทั้งหลาย ฟังแล้วอิ่มบุญ อุ่นใจจริงๆ..
และทุกครั้งหลังออกรับบริจาคแม้จะเหนื่อยกันขนาดไหน ก็ต้องมาร่วมกันนับเงินและทำทะเบียนรายชื่อผู้บริจาคให้เรียบร้อย เพื่อให้นักจัดรายการแต่ละคนได้อ่านรายชื่อผู้บริจาค ก่อนที่จะมอบเงินทั้งหมดให้ผู้รับผิดชอบเพื่อนำเงินทั้งหมดไปฝากเข้าบัญชีเงินฝากของทางวิทยุชุมชนกันต่อไป..
ในเรื่องทางเทคนิคที่ผมต้องดูแลติดต่อประสานงานกับทางวิทยาลัยเทคนิคเลย อาจารย์ทวีศักดิ์ ส่งทีมงานมาล่วงหน้าเพื่อตั้งเสาใหม่ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน
แต่ทางอาจารย์ก็เข้าใจว่าพวกเราอยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนวันทอดผ้าป่า เพื่อให้พี่น้องที่จะมาทำบุญได้เห็น และได้ชื่นชมสถานีวิทยุเพื่อทุกคนที่บริจาคคือผู้ที่เป็นเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งทางทีมงานก็เร่งมือช่วยกันทำจนมืดค่ำ ซึ่งพวกเราเองก็ได้เรียนรู้วิธีการทำงานที่เป็นรูปแบบมาตรฐาน ดูง่ายกว่าสมัยที่พวกเราทำกันเองเยอะทีเดียว
องค์ความรู้พวกนี้เป็นวิชาการที่ผมคิดว่าพวกเราได้เรียนรู้กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการตั้งเสา ระยะมุมต่างๆ การติดสายสลึง การเลือกใช้อุปกรณ์ล้วนแล้วแต่เป็นความรู้ใหม่ที่แตกต่างจากตอนที่เราทำกันครั้งแรกๆ อย่างมากๆ ซึ่งต้องมีเทคนิคและวิชาการกันพอสมควร
การขึ้นเสาใหม่ครั้งนี้ พวกเรายังยึดอยู่ที่หลักการของวิทยุชุมชนเดิม คือ เสาสูง 30 เมตร
แม้จะมีข้อประเด็นแลกเปลี่ยนกันอยู่มาก ที่อยากให้เสาสูงกว่านี้แต่ก็ปรึกษาทางเทคนิคกับอาจารย์ทวีศักดิ์แล้วว่าไม่เป็นปัญหา หากในอนาคตต้องการเพิ่มความสูงของเสาให้มากกว่านี้ ทำให้คลายความกังวลใจของทีมงานได้มากทีเดียว..
ไม่มีความเห็น