เช้าวันอาทิตย์ ที่ 17 ก.พ. 2551 น่าจะเป็นเช้าที่สดใส กะจะตื่นสายๆ ซะหน่อย แต่นึกขึ้นได้ว่าต้องทำธุระสำคัญเร่งด่วน ...... รีบตื่นอาบน้ำแต่งตัว... เดินลงหาจากห้องด้วยความสดชื่น มาที่จอดรถ.... อ้าววววว...รถเราไปไหนหว่า...จำได้เมื่อคืนก็จอดไว้ตรงนี้นี่ เดินหารอบหอ ก็ไม่เจอ ที่สำคัญเราคงไม่เลอะเลือนจนไม่สามารถจำได้ว่ารถจอดไว้ตรงไหน .....รถผมหายชัวร์......สิ่งแรกที่นึกสิ่งแรกที่นึกได้ต้องแจ้งความครับ เราก็รีบยืมมอเตร์ไซค์น้อง เพื่อมาแจ้งความ ถึงสถานีตำรวจ (มน.) ตรงประตู 5 เดินเข้าไปไม่มีตำรวจเลยสักคน...เดินออกมาถาม รปภ. ที่เฝ้าประตู บอกให้เรียกได้เลย ตำรวจนอนอยู่ข้างใน (Oh my god .....Oh my buddha นี่ 7 โมงกว่าแล้วนะเนี่ย!!!!) แต่ก็ยังดีที่มีตำรวจอยู่ แจ้งความตอน 7โมงกว่าๆ จดรายละเอียดคร่าวๆ แล้วบอกว่าจะเรียกสอบปากคำทีหลัง (กระบวนการทำงานแบบใหม่???) ตอนนั้นยังมืดร้อยด้าน ไม่รู้ทำอย่างไร ก็ขี่มอเตอร์ไซด์ ตามที่ต่างๆ ที่คาดว่าจะเจอแต่ก็ไร้วี่แวว จวบจนบ่ายสองตำรวจโทรมาให้ไปสอบปากคำ จากนั้นไปดูสถานที่เกิดเหตุ บ่าย 3 !!!
กว่าจะได้รถคันนี้มาใช้ ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ปิดเทอมเพื่อนๆ กลับบ้านไปหาพ่อแม่ ไปหาครอบครัว เราต้องทำงานตามร้านพิซซ่า ตามร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งโรงแรม เพื่อหาเงินมาส่งค่ารถ เปิดเรียนมาก็สมัครนิสิตช่วยงานที่สำนักหอสมุด เอาหนังสือขึ้นชั้น ทำงานห้องสมุดคณะ .... เหนื่อยแต่ในที่สุด เราก็ส่งรถจนจบพร้อมกับใบปริญญาพอดี ในที่สุดก็ทำได้ ... ภูมิใจมากเพราะเป็นรถคันแรกที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองล้วนๆ ถึงแม้จะเป็นแค่ มอเตอร์ไซค์ แค่ราคาไม่กี่หมื่น แต่เราก็ดีใจเหมือนกับมีเครื่องบินส่วนตัวยังไงยังงั้น...
ในที่สุดวันที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้ สิ่งที่เราใช้ความพยายาม ความอุตสาหะ กว่าจะได้มา กลับหายไปแค่ชั่วข้ามคืน .... ตอนนี้ทำได้อย่างเดียวคือ....ทำใจ ทำใจ และ ทำใจ
การที่เขียนบันทึกนี้ ขึ้นมาก็หวังแค่อยากให้คนที่เข้ามาอ่านบันทึกนี้ระมัดระวัง สิ่งของของตนเอง ไม่อยากให้ต้องสูญเสียสัญญาลักษณ์ของความภาคภูมิใจไปอีกคน
ถ้าบอกรายละเอียด สถานที่ที่จอดรถไว้ น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านคนอื่นๆ ด้วย
ปล. ขอให้โชคดี เจอรถไวๆ นะคะ
โถ! น่าสงสาร ใครนะช่างทำได้ลงคอ
แถมยังมีกะจิตกะใจห่วงคนอื่นๆ อีก น่ารักจัง.....
ตอนนี้ ผม พิมพ์เป็นกระดาษ ระบุ รุ่นรถ เลขทะเบียน เลยตัวถัง เบอร์โทรศัพท์โทน เบอร์โทรศัพท์ผม แจกจ่ายให้นิสิตทหาร และโทรไปบอกลูกศิษย์ที่เป็นสารวัตร ให้ช่วยแจ้งสายตรวจ ให้ช่วยหาอีกแรงครับ
อ้อ ผมเห็นประกาศผลสอบภาษาอังกฤษ บัณฑิตศึกษา โทนเป็นหนึ่งใน 37 คนนะครับที่สอบผ่าน แต่เป็นคนเดียวของสาขาวิจัย
รักรถ ต้องล็อครถ อย่าให้ใครมาลักรถ
อุปกรณ์ต่างๆที่คิดว่าจะกันรถหายมันก็ไม่ได้ช่วยให้ไม่หายหรอกครับ ก็แค่ประวิงเวลา หรือขโมยมันจะเห็นคันอื่นลักง่ายกว่าเท่านั้นเอง เทคโนโลยีน่าจะได้พัฒนาไปในทางสร้างสรรค์ แต่กลับต้องมาสร้างอะไรที่เอาไว้กันคนด้วยกันเอง
ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าเป็นเรื่องของเด็กประถมไปทัศนศึกษาที่สถานีตำรวจ ที่ห้องอาบน้ำรวมก็จะมีล็อคเกอร์แล้วก็มีแม่กุญแจคล้องไว้ เด็กก็ถามว่า"ล็อคกุญแจไว้ทำไมครับ" วิทยากรตำรวจที่นำทัศนศึกษาก็ตอบว่า "กันของหายครับ" เด็กก็เลยถามกลับไปว่า "ก็ในนี่มีแต่ตำรวจที่เข้ามาใช้ไม่ใช่หรือครับ" ตำรวจ " !!?? " (ไม่รู้จะตอบเด็กยังไงเลยครับ)