เมื่อนั่งรถในเมืองใหญ่ที่ตึกสูงตระหง่านเงื้อม ชีวิตสองฟากข้างล้วนแปลกตา
ให้ความรู้สึกจอแจคับคั่ง และอึกทึก
ทุกแห่งหนคล้ายเป็นเช่นเดียวกัน
ชวนอึดอัด
ชวนคับข้องใจ
แต่ในท่ามกลางความจอแจนั้น บางครั้งเราก็อาจเหลือบเห็นมุมสงบเล็ก ๆ ที่แอบซ่อนตัวอย่างสงบ ซุกที่นั่นบ้าง แทรกที่นี่บ้าง
อาจเป็นเพียงเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ บนลานที่มีกระถางไม้ดอกประดับไว้อย่างน่ามอง
หรือเป็นทางเดินเล็ก ๆ ที่มีเถาไม้เลื้อยสานห้อยระย้าปรกลงจากกำแพงปูน
เมื่อถ่ายภาพทิวทัศน์พร้อมกันหลายคน ให้ต่างคนต่างถ่ายภาพมาดู เราจะพบว่าภาพจะออกมาแตกต่างกัน
ส่วนหนึ่งนอกจากเป็นเพราะทักษะในการใช้กล้องแล้ว ยังเป็นเพราะการเลือกมุมมอง
เราสามารถที่จะเลือกมองให้เห็นโลกในมุมที่แปลกและต่างออกไป
เมื่อมองภาพมุมกว้าง เราจะเห็นภาพอย่างหนึ่ง
แต่เมื่อฝึกให้มองลึกลงไปในกรอบที่เรากำหนด ภาพที่เห็น จะแตกต่างออกไป
ไม่เพียงเท่านั้น เรายังสามารถเลือกมองโลกผ่านสีสันที่เรากำหนดเองได้
ภาพที่ดูสามัญ เมื่อเลือกที่จะมองผ่านสีสันใหม่ ผ่านมุมมองใหม่ ไม่แน่ว่ากลับกลายเป็นภาพศิลปะที่งดงามภาพหนึ่ง
ประสบการณ์ในชีวิตในแต่ละรูปแบบ มีผลต่อการมองเห็นอย่างใหญ่หลวง
การมองโลกของเราก็เช่นกัน ถึงกลับคล้ายการคลี่บานของดอกไม้
เมื่อถึงเวลา เราจะมองเห็นถึงสิ่งที่เราเคยมองข้ามมาตลอด
ลานกว้าง ที่เคยเวิ้งว้างสุดสายตายามเป็นเด็กน้อย...
กลับกลายเป็นสถานที่คับแคบยามเติบโต
กลับกลายเป็นศักยภาพทางการค้าของนักค้าที่ดิน
กลับกลายเป็นลานพักผ่อนที่งดงามในสายตาของนักออกแบบ
บางครั้ง การคลี่บานของมุมมองนี้ เกิดขึ้นได้ชั้นแล้วชั้นเล่า
บางครั้ง ถึงกลับสามารถเปลี่ยนทางเดินชีวิตคนได้
สิ่งที่ท้าทายการถ่ายรูปที่สุด คือการสามารถเลือกมองเห็นความโอ่อ่าตระการตาที่ซ่อนอยู่ในความราบเรียบแสนสามัญที่อยู่เบื้องหน้า
มองเห็นถึงความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนที่แฝงมาตรงหน้า
และคว้าไว้เพียงหนึ่งเดียว