สมานฉันท์
มูฮัมมัด วรนันท์ รอมฎอน บุนนาค

เมืองศาสนา ในจังหวัดชายแดนใต้ กุศโลบาย มท.1


ท่าน มท.1 ร้อยตำรวจเอก ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำลังศึกษารูปแบบการให้มีเขตปกครองพิเศษ โดยศึกษาจากจีน เยอรมัน ฝรั่งเศษ รวมทั้งมอบหมายให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะรื้อฟื้นระบบปผู้ว่า CEOใหม่ให้เร่งทำประชาวิจารณ์กับประชาชนในพื้นที่ โดยเสนอแนวคิดว่าน่าจะให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเมืองศาสนา ปลอดอบายมุข ไม่ให้เปิดสถานบันเทิงและยุติการใช้ความรุนแรง

              ผมขอชื่นชมความกล้าคิดกล้าตัดสินใจและพยายามศึกษาหาข้อเท็จจริงเรื่องทางออกของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ของ พณฯท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร้อยตำรวจเอก ดร.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นอย่างมากมา ณ ที่นี่ ทั้งนี้เพราะผมไม่คิดว่าจะได้ยินได้ฟังเรื่องแบบนี้ เพราะรัฐบาลตั้งแต่ยุตชวน และ ทักษิณ 1 เป็นต้นมา ไม่มีความกล้าหาญที่จะนำเสนอเรื่องนี้ เพราะมักคิดไปว่าจะไปสมอ้างเรื่องการแบ่งแยกติดแดน หรือเข้าทางขบวนการก่อการร้ายในพื้นที่ภาคใต้ การเป็นเขตปกครองพิเศษลักษณะเน้าการปกครองตนเองในท้องที่ (ผมไม่ทราบว่าความคิด กุศโลบายเช่นนี้จะอยู่ได้สักกี่วัน)ขณะนี้เรามีอยู่ 2 พื้นที่ได้แก่ กรุงเทพและ พัทยา หากนำไปใช้ก็ไม่น่าจะเกิดความเสียหาย หากดำเนินการไปได้ด้วยดี เกิดความสงบ ร่มเย็นก็จะส่งผลให้พื้นที่อื่นๆเขาปกครองตนเองได้มากขึ้น อย่างน้อยๆผู้ปกครอง(ผู้ว่าฯ พ่อเมือง เค้าก็จะมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะดีกว่าการแต่งตั้งและคุมอำนาจอยู่ที่ส่วนกลางเหมือนอย่างในขณะนี้ การประสานงานกับผู้ว่าฯ ผอ ศอบต.(ศูนย์อำนวยการบริหารจัดการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ) ผมมีข้อเสนอกับ พณฯท่านว่า อย่าลืมชุมชน คณะกรรมการระดับหมู่บ้าน คณะกรรมการศาสนิกสัมพันธ์จังหวัด คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด อิห่มาม คอเต็บ บิหลั่น และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด รวมถึง สส.ที่ พื้นที่นี้เลือกเข้ามาคือพรรคเพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยชาติพัฒนา ด้วย อีกประการหนึ่งเรื่องการจะให้ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน เป็น เมืองศาสนา ต้องตระหนักว่าที่นี่เป็นพหุวัฒนธรรม ดังนั้นทุกศาสนาต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค สร้างสรรค์ ต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้ สร้างเครือข่ายเรียนรู้วัฒนธรรม ความเชื่อร่วมกัน รวมถึงสร้างจิตสำนึกให้เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนาเพื่อให้เกิดความรัก เคารพ บนรากฐานวัฒนธรรมความเชื่อของกันและกันอย่างจริงจัง ปราศจากอบายมุข ซ่อง บาร์ การพนัน ยาเสพติด และสถานที่อโคจร ในทางปฏิบัติเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ท่านเสนอทางออกว่าใครอยากเที่ยวให้ไปที่สงขลา ภูเก็ต หาดใหญ่ ข้าพเจ้าชื่นชมที่ท่านเห็นความสำคัญของเมืองศาสนา เมื่องศาสนาต้องร่มเย็น ผู้คนอยู่ร่วมกันด้วยความรัก ความเอื้อเฟื้อ แบ่งปัน จริงใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพรานี่เป็นรากฐานที่ทุกศาสนา ทุกศาสดาพร่ำสอนไว้ ส่วนประเด็นปลดอาวุธ(เมืองปลอดอาวุธ)ต้องระมัดระวังกลุ่มก่อความไม่สงบ เพราะถ้าเราเข้าไม่ถึง ให้ทหาร ตำรวจ ชาวบ้านปลดอาวุธ เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงจากผู้ก่อความไม่สงบอีก(เหมือนอย่างที่เป็นอยู่)จะทำอย่างไร ทหารที่แท้คงต้องทำงานหนัก เห็นด้วยว่าใคร บ้านไหนมีอาวุธให้ลงโทษหนัก คงต้องคิดค้นหาวิธีการที่ดี ที่สอดคล้องเหมาะสม ที่อาร์เจ๊ะ อินโด รัฐบาลใช้วิธีเข้าหาแกนนำของเขา สร้างความปรองดองและ ให้มีส่วนร่วมปกครองตนเอง จึงสงบ ที่ ติมอร์ ก็เช่นกันแต่ร้ายแรงกว่าจนต้องนำกองกำลังสหประชาชาติเข้ามาร่วมรักษาความสงบและให้การปลดปล่อยติมอนร์สมบูรณ์ด้วยการเลือกตั้ง ของไทย สำนึกของมุสลิมทุกองค์กร เคารพรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงค์ศานุวงค์ทุกพระองค์ และไม่ต้องการแบ่งแยกดินแดน(ผมคุยกับพี่น้องมากกว่า 1,000 คนที่ออกเดินทางมา ดะวัห์ตับลีฆภาคอีสานที่มาจาก จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้พยายามทำครับ ผมขอให้กำลังใจ และขอดุอาห์จากพระผู้เป็นเจ้า พระองค์อัลลอฮ(ซ.บ) ช่วยให้พื้นที่ภาคใต้ได้ประกาศเป็นเมืองศาสนาด้วยเทอญ อามีน.   

คำสำคัญ (Tags): #เมืองศาสนา
หมายเลขบันทึก: 165437เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2008 15:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท