ทำไมแม้ผู้นำประเทศ จึงไม่กล้าพูดความจริงเรื่อง 6 ตุลาคม 2519

ขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากการถูกจับกุมคุมขังประมาณ 4 เดือนกว่า ในคุกกรณี 6 ตุลาคม 19 ตอนนั้นเรียนนิติศาสตร์ปี่ 1ในยุคเหตุการณ์นี้พอดี ความโหดร้ายป่าเถื่อนของเหตุการณ์ ความชั่วช้าของเผด็จการ ความสามานของทรราช ที่ออกจากคุกมาได้เนื่องจากรัฐบาลหลังเหตุการณ์อันมีนายกธานินท์ กรัยวิเชียร และนายสมัคร สุนทรเวช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกเสียงเรียกร้องจากนานาชาติทั่วโลกเกือบทุกประเทศ องค์กรสิทธิมนุษยชน องค์การสหประชาชาติ รัฐบาลอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลียไม่เว้นแม้กระทั่งจีน ลาว เขมร ให้ปลดปล่อยและนิรโทษกรรมนักเรียน นิสิต นักศึกษาในคราวนั้นเกือบ 4,500 คนที่นำเค้าไปกุมขังยังเรือนจำ สถานีตำรวจ และที่อื่นๆที่อยู่ในสภาพจับคุมขังได้ให้เป็นอิสระด้วยการออกกฏหมานนิรโทษกรรมเขาเหล่านั้น จนเมื่อผู้คนเหล่านี้ได้รับอิสระภาพ ความจริงของเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่ใครๆก็ไม่อยากพูดถึง และที่พูดก็พูดแบบผิดๆได้ปรากฎดังบทกวีที่พี่ๆน้องซึ่งออกจากคุกมาแล้วกล่าวไว้ว่า"นี่เป็นความจริงที่ปรากฏ เป็นความงดความงามใช้ความชั่ว เป็นความกล้าหาญชาญชัยไม่ขุ่นมัว คือวีรชนคนกล้าของประชา"และที่สุดเขาเหล่านี้ไม่สามารถอยู่ในเมืองได้ก็หันเข้าสู่พื้นที่จรยุทธในเขตป่าเขาทั่วประเทศ

            ผมไม่อยากกล่าวโทษให้ร้าย คุณ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เหมือนที่กำลังมีบุคคลหลายๆคนทั่วทั้งประเทศและเกือบจะทั่วโลกวิพากษ์วิจารณ์ท่านในฐานะที่ 1.ใครล่ะเป็นผู้หนึ่งที่กล่าวทอเรียกร้องของาสถานีวิทยุยานเกราะให้มีการเข้าไปจัดการ(ทำลายล้าง ฆ่า)นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง(ว่าไม่ใช่คนไทยเป็น ญวนเป็นแกว) ด้วยการบิดเบือนข้อมูลแม้ขณะนั้นคุณสมัครจะเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่มีนายกฯเสนีย์ ปราโมชดำรงตำแหน่งอยู่ 2.เสียใจกับเหตุการณ์ที่รัฐบาลสมัยนั้น คุณเสนีย์ ปราโมช พรรคประชาธิปัตย์อ่อนแอและไร้ความสามารถเกินกว่าที่จะแก้ปัญหาแม้กระทั่งกล่าวบิดเบือนข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและรัฐบาลนี้ก็ไม่สามารถจัดการยับยั้งหรือหาทางวางแผนระงับเหตุได้และหายตัวไปกับการสังหารหมู่พี่น้องประชาชนในธรรมศาสตร์ 3.คุณนักเขียนนวนิยายชื่อดัง และโฆษกหญิง 2 ท่านที่กล่าวปลุกระดมให้กลุ่มกระทิงแดง นวพล เข้าไปเข่นฆ่าผู้บริสุทธ์ 4.เหตุการณ์นี้มีเอกสาร ภาพถ่าย 4 สีพิมพ์แจกจ่ายออกไปหลายประเทศทั่วโลกหลังเหตุการณ์เพียง 10 วัน และขณะนี้ 32 ปี มีบันทึกประวัติศาตร์เหตุการณ์นี้มากกมายหลายพันเล่มที่พยายามพูดบอกทั้งด้วยข้อเขียน ภาพถ่าย แม้กระทั่งเขียนในเขตป่าเขาจำนวนมากมายแต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าพูดความจริง เสียงเรียกร้องให้มีการชำระประวัติศาตร์ 6 ตุลาคม 2519 ดังกระหึ่มไปทั่วโลกแล้วแต่ไร้วี่แววความจริงในประเทศไทย (จีนก็คงไม่ต่างอะไรกับคดีฆ่าหมู่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน ที่เทียนอันหมึน ที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ก็ไม่กล้าชำระประวัติศาตร์) ผู้ที่เรียนประวัติศาสตร์ทั้งปริญาตรี โท เอก จบในไทยและต่างประเทศทั้งหลายขอให้มีจิตใจกล้าหาญในการทำวิทยานิพนธ์ ปริญญานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์เรื่องนี้ด้วยเพื่อวิญญาณของวีรชน 6 ตุลาจะได้นอนตายตาหลับ และไม่มีใครมาบิดเบือนประวัติศาตร์เหตุการณ์นี้อีก 5.ผมมีรุ่นพี่ทั้งชายและหญิง มีภาพถ่ายของเขาเหล่านั้นที่ถูกฆ่าตายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง มีมากกว่าที่คุณสมัครพูดกับนักข่างต่างประเทศ และเชื่อว่านักข่าวต่างประเทศท่านนั้นน่าจะรู้ข้อมูลนี้ดีกว่าท่านนายกรัฐมนตรี ผมเรียนท่านแล้วว่าเอกสารสิ่งพิมพ์เหตุ วิเคราะห์อย่างละเอียดเรื่องมีตีพิมพ์ที่อเมริกา หลังเหตุการณ์ 1 เดือนมากมายและทั่วโลกตกตะลึงกับการเข่นฆ่านักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน อย่างโหดเหี้ยม รุ่นพี่ผม หญิง 1 ชาย 2 ที่ถูกเผาทั้งเป็นด้วยการถูกลากจากการถูกยิงบาดเจ็บมาที่หน้าประตูหอใหญ๋ มธก.ข้างถนนด้านหน้า และใช้ยางรถยนต์ราดนำมันจุดไฟเผาทั้งเป็นก็ 3 ศพแล้ว ไม่นับรวมที่รุ่นพี่ผู้หญิงถูกลากไปกลางสนามหลวงและถูกลิ่มปักอก และบางคนถูกตีด้วยไม้หน้าสามและยัดไม้หน้า3ตีเข้าไปในช่องคลอดจนตาย ไม่นับรวมการทารุณกรรมกับศพที่ถูกแขวนต้นมะขามสนามหลวงอย่างโหดเหี้ยมป่าเถื่อน อีกเป็น 10 ศพ ผมจึงอยากบอกเส่ากับผู้อ่านเชิงเรียนรู้ แลกเปลี่ยนร่วมกันว่าอย่าบิดเบือน ประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519  14 ตุลาคม 2516 และ 15-18พฤษภาคม 2535 ฯพณฯท่านนายกฯไม่ผิดหรอกที่นำเสนอว่ามีคนตายเพียงคนเดียว เพราะ ท่านอาจจะทราบและเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ ในฐานะผมมีเพื่อนรุ่นเดียวกับผมตายไป 7คน (ถูกฆ่าตายในเช้าวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ที่สนามฟุตบอล มธก ไม่ได้ตายที่อื่น)ผมจึงอยากบอกกับประชาชนทั้งประเทศว่า ความจริงมีผู้สูญเสียหลายร้อยคน เพราะเมื่อครั้งผมถูกจับ ไม่ได้ถูกปิดตา มีศพผู้เสียชีวิตที่ถูกขนขึ้นรถยีเอ็มซี มากกว่า 100 ศพ จำนวนไม่ต่ำกว่า 5 คัน แต่ไม่สามารค้นหาที่ซ้อนศพได้ รัฐจึงประกาศเพียง 40 กว่าศพเท่านั้น ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ คนในเหตุการณ์เดือนตุลาคมที่ถูกจับกุม(ไม่ได้ถูกมัดมือมัดเท้าเหมือนที่ทำกันที่อำเภอตากใน จังหวัดนราธิวาส ) มีอยู่ไม่ตำกว่า 3,500 คนก็น่าจะให้ข้อมูลข้อเท็จจริงได้ดีว่าตายเพียงคนเดียวหรือไม่  ผมขอเรียกร้องให้มีการชำระประวัติศาตร์ 6 ตุลาคม 2519 เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้เรียนรู้ความจริงทางประวัติศาสตร์จะได้ไม่มีผู้มาบิดเบือนแม้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือใครก็ตาม ฝากกวีนิพนธ์ของผมบทหนึ่งที่นำเสนอ ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองท่าพระจันทร์เมื่อ 6 ตุลาคม ไว้ว่า"ขอสดุดีวีรชน (6ตุลา19) ผู้พลีตนพิทักษ์ธรรมทุกสมัย จารึกเจตนาประชาชัย บนผืนแผ่นดินไทยให้สืบสาน จำเสียงปืนก้องกัมปนาท จำภาพเกี้ยวกราดประหัตประหาญ จำความแกร่งกล้าท้าสาธาร จำจาญผลแห่งทุกข์ยุคสมัย จดจ้องจองล้างทางมืดมิด จดจ่อพิชิตความหมองหม่น จดจำพฤติกรรมคนฆ่าคน จนจารผืนแผ่นดินถิ่นสยาม แด่เพื่อนผู้อยู่หลังยังคงมั่น อุดมการณ์ใฝ่ฝันยังฝันใฝ่ หนี้เลือดชีวิตมิตรพลีไป จักเป็นไฟต่อเชื้ออุดมธรรม หลับเถิดวีรชน สรวงสวรรค์เบื้องบนเชิญสุขสม บันดานพลังให้ผู้โศรกซม หยัดยืนไม่ลื่นล้มโค่นภัยพาล   จะหาญกล้าท้าทายทุรยุค จักป่าวปลุกปวงประชาผู้กล้าหาญ จักเสริมส่งคุณค่าเอกคระการ ให้เนาวนานวีรชนคนตุลา"ขอสดุดีจิตใจที่กล้าต่อสู้กล้าเสียสละของวีรชน 6 ตุลา 2519 และพร้อมเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมชำระประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 เพื่อสดุดี ดวงวิญญานให้กับน้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆทุกคนที่สูญเสียไปในวันนั้น และผู้ที่สูญเสียในเขตจรยุทธและฐานที่มั่นทั่วประเทศ