มารู้จัก "ตัวชี้วัดด้านความสุข" กันค่ะ


คนรวยไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีความสุข แต่คนที่มีความสุขโดยทั่วไปจะรู้สึกว่าตนเองรวย (หรือพอ)

  เพิ่งรู้จัก "ตัวชี้วัดด้านความสุข" ค่ะ ....จึงนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในบล็อกนี้ค่ะ....ไม่แน่ใจว่า ชาว สพท.พย.1 จะรู้จักกันหรือไม่ค่ะ ..ที่แน่ๆ คือ ชาวบล็อก gotoknow.org เขาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเยอะเลยค่ะ ..ดังลิงค์ต่างๆ ต่อไปนี้ค่ะ  http://gotoknow.org/blog/learningnetwork-ctr
http://www.siamhappiness.net/
http://volunteers.in.th/blog/michita-dokbia-article/100 ฯลฯ
ที่ยกมาเพียงบางลิงค์ เพราะมีเยอะมากค่ะ น่าสนใจศึกษาเพิ่มเติมค่ะ.....
.."ดัชนีชี้วัดความสุข" มาจากภาษาอังกฤษว่า GNH : Gross National Happiness เป็นพระราโชบายของกษัตริย์จิกเม ซิงเย วังชุก แห่งภูฏาน  เป็นผู้ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในหนึ่งร้อยคนที่มีอิทธิพลต่อโลก (TIME 100: The People Who Shape Our World) เนื่องจากเป็นผู้ที่กระตุกให้โลกรู้ว่าคนรวยไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีความสุข แต่คนที่มีความสุขโดยทั่วไปจะรู้สึกว่าตนเองรวย (หรือพอ) โดยการแนะนำให้โลกรู้จักตัวชี้วัดใหม่ที่ควรจะพิจารณาขึ้นมาคือ GNH (Gross National Happiness) ซึ่งพระองค์ทรงแนะนำรัฐบาลภูฏานนำมาเป็นนโยบายหลักในการบริหารประเทศ เกือบสามสิบปีที่แล้ว
    GNH มี ๔ หลักการใหญ่ (The Four Pillars) คือ๑.       การพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Economic Development)๒.      ธรรมาภิบาล (Good Governance)๓.      การอนุรักษ์วัฒนธรรม (Cultural Preservation)๔.      การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Nature Preservation)  สี่หลักการนี้ มุ่งตรงไปเพื่อสนับสนุนและสร้างเป้าหมายร่วมกันคือสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุขอย่างยั่งยืน "
.....ที่สำคัญคือ เมื่อไม่นานมานี้ มีการวัดความสุขระดับโลกกันค่ะ..ชาวอังกฤษเป็นผู้วัด โดยมองความสุข อยู่ที่ การสาธารณสุข สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ การศึกษา ความมั่งคั่งของประเทศ โดยวัด 178 ประเทศพบว่า  เดนมาร์ก เป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก รองลงไปคือสวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ ตามลำดับ ภูฏานได้ที่ 8 ประเทศสุดท้ายที่ 178 คือบูรันดิ แอฟริกา .....ไทย ได้ที่ 76 ค่ะ... (จากลิงค์นี้ค่ะ http://gotoknow.org/blog/glinfang/72163 )ก็มีนักวิจัยชาวไทยจาก เอแบคโพล ศึกษาเพิ่มเติม พบว่า ชาวภาคอิสาน มีความสุขมากกว่าชาวภาคอื่น ชาวกรุงเทพมีความสุขน้อยที่สุด....
....และจากลิงค์เดิมนี้ บอกว่า  "การพัฒนาที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณของการผลิต หรือการมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ การพัฒนาที่แท้จริง คือ การที่คนในสังคม มีความสุข กินดีอยู่ดี ( well - being) มีความมั่นคงและความเสมอภาค ประกอบด้วย 1.ความพอเพียง enough 2. ความเมตตา kindness 3. การไม่ยึดติด to leave 4. สมาธิภาวนา concentrate และ 5.ธรรมมาภิบาล moralls"..........อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่า "ความสุข" กำลังเป็นชาวไทย ยุคนี้ กำลังวิ่งหา ไขว่คว้ากัน.....และมี หน่วยงานหลักที่ศึกษาและรับผิดชอบโดยตรงคือ กรมสุขภาพจิต กระทรงสาธารณสุข  http://www.dmh.go.th/test/  ได้สร้างแบบวัดไว้ หลายแบบ เพื่อให้ชาวไทยที่สนใจทดสอบสุขภาพจิตของตนเอง และบอกคะแนนพร้อมกับแนะนำวิธีปฏิบัติตน เมื่อได้คะแนนไม่เป็นที่น่าพอใจด้วยค่ะ......ถ้าท่านเครียด ..มากๆ...กับ ชีวิต..ท่านลองมาทำแบบทดสอบสิคะ....ท่านจะได้รับคำแนะนำ ในการคลายเครียดได้ค่ะ...หรือว่า..จะทำให้เครียดหนักขึ้น ..ก็ไม่แน่......ใกล้วันแบ่งปันความรักแล้ว ก็แบ่งสิ่งดีๆให้กันค่ะ...

หมายเลขบันทึก: 164941เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2008 00:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท