จากแพ้ไข่ ไปเป็นตากุ้งยิง...


สวัสดีครับ

   เป็นเรื่องเล่า  ของการไม่ใส่ใจคนไกล้ตัวเรา....ให้ดี

  มัวแต่ทำงานและดูแลคนอื่นๆ...

  4 วันก่อนสบายเริ่มตาแดง 2 ข้าง ที่ขอบตาล่าง...

  พ่อกับแม่ก็เห็น  และก็คุยกันว่า

    ไม่เป็นไรเนอะ  เหมือนที่เคยเป็นคือแพ้ไข่....(เพราะเป็นบ่อยๆ)

 

  แต่เมื่อวานนนี้เริ่มว่าง  ไมได้อยู่เวร....

 เมื่อได้อุ้มลูกอย่างไกล้ชิด  ก็ได้ดูจริงๆ จังๆ  และคลำดู  ก็พบว่า...

 มันมีลักษณะ..เป็นก้อนนูนๆ  เหมือนฝี...

 เอ..นี่มันตากุ้งยิงนี่นา....

 

  แล้วความรู้สึกแว๊บก็เข้ามา..

        ความรู้สึกผิด....

       เหมือนว่า...เห็นหลายวัน  แต่ว่ามองไกลๆๆ...ไม่ได้ตรวจลูกตนเอง...

      ตรงข้ามกับคุณตาที่อยู่ต่างจังหวัด  บอกทำไมไม่ซื้อยาแก้อักเสบมาให้กิน???อืม...สินะ

 

  ทันใดนั้นจริงรีบกุลีกุจอ  เอายามาผสมให้น้องสบาย...กิน

 

  ได้บทเรียน   ได้ความรู้สึก...

  แต่ก็มองเห็นเวทนาเล็กๆที่เกิดขึ้น  ไม่รุนแรงเกินเหตุ..

  ตามปัจจัย...

คำสำคัญ (Tags): #เรียนรู้
หมายเลขบันทึก: 164463เขียนเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2008 13:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะ 

*  แวะมาทักทาย

* เป็นเรื่องธรรมชาติ..ธรรมดาของคนที่มีหน้าที่ดูแลสุขภาพประชาชน แล้วละเลย...เล็ก ๆ กับคนใกล้ตัว ครั้งหนึ่งเมื่อทำงานใหม่ ๆ เพื่อนคนนึงท้องใกล้คลอดแต่ก็ยังได้ขึ้นเวร ...เพราะคนน้อย (เมื่อก่อน..) จนกระทั่งคลอดในเวร..บ่าย แต่ก็ทำให้เราได้บทเรียน..เนอะ !!  ในการหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง และคนใกล้ตัวด้วย... น้องสบายคงได้รับการดูแลจนหายแล้วนะคะ...

เอาใบปริญญาหมอของพ่อ กับใบพยาบาลของแม่คืนเสียดีไหมเนี่ยะ

ฐานที่ปล่อยให้หลาน สบาย ของลุงไม่สบาย

อย่างนี้โบราณเขาเรียกว่า ไฟไหม้เฮือนหมอ ของแท้

  • แวะมาเยี่ยมค่ะน้องหมอ
  • น่าตีจริงๆเลยนะ เห็นด้วยกะพี่เปลี่ยนหล่ะ
  • อิอิ....อย่าทำงานเพลินนะน้อง  เป็นห่วงจ้ะ  (ห่วงน้องสบาย อิอิ)

เป็นปกติจ๊ะที่เราลืมมองสิ่งใกล้ๆ ตัว เพราะเราคิดว่าอยู่ใกล้เลยไม่ได้สังเกตน่ะ

เหมือนกับจิตใจของเราไง บางทีเราสนใจจิตใจของคนอื่น หรือเรื่องนอกตัวมากกว่าดูจิตของเราอีก ^ ^

หวังว่าน้องสบาย สบายดีขึ้นแล้วนะจ๊ะ เด็กๆ เขาน่ารัก ไม่ค่อยคิดอะไร บางทีเจ็บป่วยก็เหมือนไม่เจ็บ

อ.ศิริศักดิ์เลยเล่าให้ฟังว่าลูกชายเคยซนมากแล้ววิ่งชนโต๊ะ ลงไปร้องไห้แบบงอแงมากๆ อาจารย์รีบวิ่งเข้าไปโอ๋โต๊ะ แทนโอ๋ลูก (กลยุทธ์จริงๆ  ^ ^) ปรากฎว่าลูกงง หยุดร้องเลย ^ ^  บางทีเด็กเขาก็ตอบสนองตามปฏิกิริยาของเราด้วยน่ะ พี่ทดลองกับหลานตัวเองก็เป็นแบบนี้ เวลาเขาล้ม ก็ชวนเขาคุยไปเรื่องโน้นเรื่องนี้ เดินไปจากที่เกิดเหตุ สักพักก็ลืม ^ ^   ลปรร ค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์และพี่ๆทุกท่าน 

น้องสบายหายแล้วครับ

ขอบคุณมากๆครับ

 

ได้บทเรียนที่ดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท