ประโยชน์ของมังคุด
1. กิ่งเล็ก / เปลือกไม้ ประเทศกานา ใช้กิ่งเคี้ยวเล่น คล้ายหมากฝรั่ง ดับกลิ่นปาก อินโดนีเซีย ใช้เปลือกไม้กินแก้บิด· ไทย เนื้อไม้มีความทนทาน นำมาเผาถ่านไว้ใช้ หรือใช้ในงานก่อสร้าง 2. ใบ ประกอบด้วยอนุพันธ์แซนโทน ไทรเทอร์ปีนส์ โปรตีน แทนนิน และเส้นใย อินโดนีเซีย ใช้ใบแห้งต้มกิน แก้ไข้ บรรเทาอาการปวดท้อง มาเลเซีย ใบชงผสมกับกล้วยดิบ และ benzoin ใช้ทาแผล 3. ผล เนื้อผลรสหวานอมเปรี้ยวใช้เป็นอาหาร คุณค่าทางอาหารใน 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรต 18.4 กรัมใยอาหาร 1.7 กรัมแคลเซี่ยม 11.0 กรัมฟอสฟอร์รัส 17.0 กรัมเหล็ก 0.9 กรัมโปรตีน 0.5 กรัม และสารอื่น ๆ เช่น การ์ตินิน เบต้าแมงโกสติน กรดมาร์ลิก กรดซิตริก และน้ำตาล
4. ผล : เมล็ด ประกอบด้วย กรดโอเลอิก ลดไขมัน ลดโคเลสเตอรอล กรดไลโนเลอิก กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ควบคุมการทำงานของเซลล์ ควบคุมความดันโลหิต ลดการอักเสบ บำรุงผิว 5. ผล : เปลือก ประกอบด้วย แซนโทน Xantone ได้แก่ Mangostin, gamma-mangostin, beta-mangostin Anthrocyanin : antioxidant Tannin : ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็วการใช้ประโยชน์ตามวิธีพื้นบ้าน แก้ท้องเสีย เปลือกผล ตากแห้ง ต้มกับน้ำปูนใสแก้ท้องเสีย ทำเป็นชาชงแก้ท้องเสียเรื้อรัง ช่วยย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ แก้บิดใช้เปลือกย่างไฟฝนกับน้ำปูนใส ครึ่งแก้วดื่มแทนน้ำ ใช้ผง 1 ช้อนชา ละลายน้ำหรือน้ำข้าวดื่มทุก 4 ชั่วโมง รักษาแผล เปลือกผลต้มน้ำ ใช้ล้างแผล หรือนำมาฝนทำเป็นยาทาแผล เปลือกแห้งนำไปสกัด หรือบดผสมยาขึ้ผึ้ง ทาแก้ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย- สารสกัดจากเปลือกมังคุดต้านเชื้อแบคทีเรีย S. aureusทั้งสายพันธุ์ปกติและสายพันธุ์ที่ดื้อยาเพ็นนิซิลลิน เทียบเท่ากับยาแผนปัจจุบัน Vancomycin- ต้านเชื้อแบคทีเรียกลุ่มที่ก่อให้เกิดอาการท้องร่วง เช่น E.coli, shigella spp.- ต้านเชื้อแบคทีเรีย H.pyroli สาระสำคัญที่ออกฤทธิ์คือ แมงโกสติน- ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว P. acne ต้านเชื้อรา- ต้านเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง กดการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางในหนู- ทำให้สงบ - เสริมฤทธิ์ยานอนหลับ ทำให้หลับนานขึ้น- กระตุ้นกล้ามเนื้อหัวใจ- เพิ่มความดันโลหิต ต้านการอักเสบ- แมงโกสตินและอนุพันธ์ ช่วยลดการอักเสบได้ในหนู และต้านการอักเสบได้ดีกว่า แอสไพริน 3 เท่า- มีฤทธิ์ป้องกันการอักเสบในหนูขาว สามารถพัฒนาเป็นครีมทาแผล เพื่อรักษาอาการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ- ลดการอักเสบในแผลเบาหวาน ต้านออกซิเดชั่น (antioxidant)- ป้องกันออกซิเดชั่นของไขมัน - ป้องกันการเกิด LDL- ลดความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตัน บรรเทาอาการแพ้- มีฤทธิ์ต้านฮีสตามีน บรรเทาอาการภูมิแพ้ - ลดอาการแดงเนื่องจากหลอดเลือดขยายต้ว บวม- ลดอาการหลั่งน้ำเมือก (mucus)- ต้านเซโรโทนิน ยับยั้งเอนไซม์ของเชื้อ HIV ต้านสารที่เป็นพิษต่อพันธุกรรม ฤทธิ์ต้านมะเร็ง- มีความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งหลายชนิด ทั้งมะเร็งปอด มะเร็งตับ และมะเร็งของระบบทางเดินอาหาร- ยับยั้งเอนไซม์โทโพไอโซเมอเรส (มีบทบาทในการถ่ายแบบดีเอ็นเอ) กระตุ้นกระบวนการ phargocytosis ฤทธิ์ปกป้องผิวจากแสงแดด- ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยแมงโกสติน ร้อยละ 20 จะสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้
- SPF 10.4
ที่มาข้อมูล : ภญ.วัจนา ตั้งความเพียรกลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรจังหวัดปราจีนบุรี
ทามมาย ปาโยดของมางคุดถึงด้ายมีมากมายคาหนาดนี้เนี่ย ยางจามม่ายหมดเลย
จริง ๆ นะโดยเฉพาะน้ำมังคุด ญี่ปุ่นสนใจมาก
มังคุดนี่มีประโยชน์มากนะครับ
โรงเรียนอุตรดิตถ์แวะมาเยี่ยมครับ
มังคุดต้องคู่กับทุเรียน เสมือนราชาคู่ราชินี หยินกับหยาง ชายกับหญิง เวลาทานทุเรียนต้องดับร้อนด้วยมังคุด
ช่วยๆกันทานผลไม้ไทยๆนะครับมีหมุนเวียนเปลี่ยนไปให้ทานไม่ซ้ำแถมรสชาดดีด้วย
ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับคุณหนุ่มเมืองจันท์