คุณมีความสุขดีหรือไม่ บอกได้จากที่ทำงาน
...หลายครั้งหลายคราเราใช้ชีวิตผ่านไปโดยลืมนึกถึงครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียน และสิ่งใกล้ๆตัว และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือนั่นก็คือ ความรู้สึก ยิ่งในเมื่อเริ่มทำงานใหม่ๆ ทุกคนใฝ่ฝันที่จะต้องได้งานที่ดี ได้ทำงานในสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้เพื่อนร่วมงานที่ดี ได้เจ้านายที่เข้าใจและเอาใจใส่ลูกน้อง ได้เงินเดือนดีๆ นั่นคือภาพที่คนส่วนใหญ่ถวิลหา...
และในปัจจุบันเราจะสังเกตว่า คนส่วนใหญ่ไม่อดทนในการทำงาน ไม่ผูกพันกับองค์กร มีความดิ้นรนมากขึ้นในการเปลี่ยนงาน จนคิดว่าจะต้องหางานที่เหมาะสมกับตัวเองให้ได้มากที่สุด ...เพื่อนคนหนึ่งเคยบอกว่า..ตัวเองมีการเปลี่ยนงานมาแล้ว 18 แห่งในระยะเวลา 5 ปี ถือว่าเป็นการเปลี่ยนงานมากที่สุดคนหนึ่งนับที่ผู้เขียนรู้จักมา...เพื่อนให้เหตุผลว่า งานไม่เหมาะกับตนหรือไม่ชอบงานลักษณะแบบนี้ สิ่งแวดล้อมไม่ดี นั่นคือสิ่งที่ชีให้เห็นว่า ในสังคมปัจจุบันการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่จะต้องยึดที่ตนเองมากจนเกินไปหรือไม่
แต่ในมุมมองของผู้เขียนการเปลี่ยนงานไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่เป็นการปรับตัวเองไปในสิ่งที่ตนเองชอบ รักและพร้อมที่จะทำงานให้เกิดความยั่งยืนในการดำรงชีวิต บางครั้งสถานที่ทำงานที่ทุกคนใฝ่ฝันจะเข้าไปร่วมงานนั้น ก็ไม่ไช่คำตอบสุดท้าย เปรียบดั่งคำพังเพยที่ว่า "คนในอยากออก....คนนอกอยากเข้า" แต่มันอยู่ที่ว่าเราทำงานที่ไหนแล้วมีความสุขในการทำงาน นั่นคือคำตอบที่ตรงใจมากกว่า
และสิ่งที่ควรคำนึงหรืออาจจะเรียกว่าปัจจัยที่ทำให้คนผูกพันในองค์กรหรือรักที่ทำงาน อาจจะไม่ใช้ทั้งหมดที่ผู้เขียนสัมผัสได้ แต่คือปัจจัยหลักที่เกิดขึ้นได้แก่
-ผู้บริหาร หรือเจ้านายของเรา ...เป็นคนเช่นไร? มีการเอาใจใส่ลูกน้องดีไหม? เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของลูกน้อง? การเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม? มีการจัดการทั้งระบบและลูกน้องได้ดี? ยกย่อง..ชื่นชมเมื่อลูกน้องทำงานดี? เปิดโอกาสทางความคิดและความรู้สึก? สนับสนุนในทุกทางที่ทำได้ในเรื่องการทำงาน?
- สวัสดิการ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนทำงานยึดที่จะทำงานอยู่ที่นั่น สวัสดิการดีเท่ากับว่าองค์กรนั้นให้ความสำคัญกับคนทำงาน ร่วมทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่องค์กรสร้างให้เกิดขึ้นจนบางแห่ง อาจนับว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรของตน
-สิ่งแวดล้อมของการทำงาน นับเป็นปัจจัยที่สำคัญ มันส่งผลเอื้อต่อผลผลิตในการทำงาน ก่อให้เกิดประสิทธิภาพของการทำงาน ย่อมส่งผลใหญ่ให้กับองค์กร ยิ่งบางองค์กรสนับสนุน โดยจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม จนคนในที่ทำงานไม่อยากออก อยากอยู่จนเกิดเป็น generation จากรุ่นสู่รุ่น ..แทบไม่น่าเชื่อจริงๆๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่มีการทำงานจนเกิดความผูกพัน จงรักภักดีในองค์กรนั้นๆ
- เพื่อนร่วมงาน ก้อเป็นส่วนหนึ่งที่เหนี่ยวรั้งให้คนทำงานอยู่ในองค์กรนั้น ถ้ามีปัญหากับคนในที่ทำงาน บางครั้งไม่อยากทำงาน และท้ายที่สุดก้อออกจากงาน...อาจเรียกได้ว่า ขาดการสื่อสารในองค์กรที่ดี
หลายท่านอาจจะเติมได้มากกว่านี้ ก้อขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันะคะ แต่สิ่งหนึ่งที่ยึดเหนี่ยวให้เราทำงานและอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ใจที่มุ่งมั่นจะทำงานนั้นให้สำเร็จและคิดว่าอุปสรรคคือ สิ่งที่ท้าทายความสามารถเรา รวมทั้งระบบการจัดการตัวเองที่ต้องสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว เราต้องทำให้เกิดสมดุล (Balance).....เราอาจจะทำไม่ได้ทั้งหมดแต่ถ้าไม่เริ่มคิดและลองทำ ก้อจะไม่เกิดสมดุลซักที มัวแต่คิดว่า จะต้องทำอย่างงั้นอย่างนี้ ..แต่ไม่เคยลงมือทำเลย ก็ถือว่ายังนับศูนย์อยู่นะคะ....คุณนับศูนย์อยู่หรือไม่
ความเห็น (4)
ความสมดุลของชีวิต... ดีจังนะ ไม่รู้จะเม้นอะไรดี อิๆ... เขียนเพิ่มสิ แบบว่ามองต่างมุม.. สมมุติว่าเราเป็นอีกมุม รู้สึกอีกมุม.. มุมขององค์กรไง แบบว่า มุมนายจ้างน่ะ.. 5555 อยากรู้จ๊ะ ว่ามุมนี่มุมลูกจ้าง แล้วมุมนายจ้างจะอารมณ์ไหน... แค่นี้แหล่ะ พูดมากเดี่ยวหลับ
มีมุมมองเก๋มาก ดีคะ
เพราะว่างาน เป็นตัวกำหนดความต้องการของมนุษย์
มนุษย์ทุกคนล้วนต้องการอิสรภาพทางด้านการเงิน, งาน, เวลา และการใช้ชีวิตในแบบที่แต่ละคนต้องการ จึงต้องทำงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านั้น
ดิฉันมีความสุขกับการทำงานมาก เพราะ การคิดบวกในทุกเรื่อง
ทำให้ชีวิตมีแต่เรื่องดี...ดี ในที่ทำงาน