ในขณะที่เด็ก (บางส่วน) ของเราไปแข่งรถ แข่งกันทำตัว จี๊ดจ๊ด เป็นแว้น เด็กแนว เยาวชนข้างบ้าน ของฉันกำลังพูดเรื่องของการกู้ชาติ กู้แผ่นดิน
" เด็กแว้น-สก๊อยจ๋อยอดซิ่ง ถูกปิดถนนล้อมจับร่วมครึ่งพัน" ยังจำข่าวนี้ได้ไหม สองวันก่อน ตำรวจบ้านเราเจ๋งเพราะออกโรงกวาดล้าง แก๊งทำเหิมเกริม ตามรอยหนังฝรั่ง-ฮ่องกง ปิดถนนแข่งซิ่งรถ จับได้ กว่า 300 คัน วัยรุ่นบ้านเรา เรียกตัวเองว่า "เด็กแว้น" แต่จริง ๆ น่าจะเป็น "เด็กเวร" เดือดร้อนพ่อแม่ ต้องเดือดร้อนมาขอประกันตัวให้อีก ... ดูข่าวนี้ จิตมนุษย์ธรรมดาอย่างยายกาแฟ ก็แตกซ่านขึ้นเป็นอย่างน้อย 4 - 5 สาย ( ดูข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ เด็กแว้น-สก๊อยจ๋อยอดซิ่ง และ สถานพินิจฯ ห้ามประกัน 74 เด็กซิ่ง )
สายแรกตกหลุมพรางความเป็นมนุษย์ปุถุชน ...รู้สึก สะจาย..อย่างบอกไม่ถูก..เด็กเวรพวกนี้ก่อให้ความรำคาญให้ ผู้อื่นมาแสนนาน ไม่หลาบจำต่อความเจ็บปวดและสูญเสีย ของบุคคลอื่น ...เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล มุ่งตอบสนองแต่ความพึงพอใจของตัวเอง ...เอกลักษณ์แห่งตนที่ดีๆ มีเยอะแยะ ไหงมาเลือกเฟ้นแต่สิ่ง....(sensor)นี้ ..ช่างดีแท้ บทเรียนที่ถูกจับ..คาดโทษ..รับโทษ..บางคนก็คงหลาบจำ ..และคำนึงถึงผลเสียที่มามากกว่าความบาดเจ็บและเสียชีวิต
สายสอง ...พ่อแม่กว่า 300 คู่ คงทุกข์ใจมาก .. บทเรียนนี้นอกจากใช้สอนแก๊งซิ่งที่แสวงหาเอกลักษณ์และการยอมรับในทางที่ผิด ก็ต้องเป็นบทเรียนชิ้นใหญ่ของพ่อแม่ ไปด้วย..การเลี้ยงลูกด้วย TV / VCD / เกม และ Chat คงสะท้อนถึงผลการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี หนังฝรั่ง หนัง ฮ่องกงเค้าฟูมฟักลูกท่านออกมาแบบ สำเนาถูกต้อง ไปเรียกร้องหาความยุติธรรมจากไหนดี นั่นสิ
สายสาม การบุกกวาดล้างครั้งนี้ใช้ตำรวจ ร่วม 200 อุแม่เจ้า .. แค่จะมายุติ พฤติกรรม ลูกท่าน หลานเธอ ทั้งหลาย ยังต้องใช้กำลังมากขนาดนี้ ที่ผ่านมาเคยได้ยินหลายทีว่า การใช้ตำรวจน้อยกว่านี้ ไม่เคยประสบความสำเร็จ จากการหนีเข้าตรอกซอกซอยได้สำเร็จ หรือกระทั่งการทำร้ายเจ้าหน้าที่ บ้านเราเมืองเราถ้าไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้ ตำรวจคงมีเวลาไปทำงานอื่น ๆ ได้อีกเยอะ ไปจับคนร้าย ที่เป็นคนร้ายจริง ๆ ไม่ใช่แค่คนที่สร้างความรำคาญ น่าเห็นใจจริง ๆ
สายสี่ การบุกจับดำเนินคดีแบบนี้ ใช่ว่าจะดีที่สุด ท้ายสุดก็จะมี"เครือข่ายแก๊งค์เด็กแว้นเด็กเวร" ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพราะถูกจับเอาไปรวมกันไว้ มองโลกในแง่ร้ายสุด ๆ คงเกิดการแลกเปลี่ยนรู้จนสำเร็จปริญญาดุษฎีบัณฑิต อาชญากรรมศาสตร์ ในสถานกักกัน คิดแล้วเหนื่อย แทนประเทศไทยที่รักของข้าพเจ้าจริง ๆ
สายห้า ประเทศเรา คนเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นตำรวจ เป็นกระทรวงคมนาคม คงมีอะไรให้เรียนรู้ และให้คิดต่ออีกเยอะ การมองด้านเดียว ว่าเด็กมันเลว พ่อแม่ดูแลไม่เป็น คงโหดร้าย เกินไป ท้ายสุดทุกคน ทุกฝ่าย ทุกส่วน ก็มีส่วนให้เกิดขึ้น การมองปัญหาแบบลูบหน้าปะจมูก แบบทุกวันนี้ เอ๊ะ ว่าใครเนี่ย
คิดมากก็ฟุ้งซ่าน นะคะ ว่าแล้วก็ลุกไปชงกาแฟในครัว อ้อ ได้ยินเสียงภาษาไทใหญ่ ลอยมาจากข้างบ้าน
ข้อความทั้งหมด ทั้งมวล ประมวลความได้ว่า
"เราเป็นพี่น้อง ไทใหญ่ เหมือนกัน มีอะไรเราก็ต้องช่วยเหลือกัน"
"ประเทศเรากำลังอยู่ในภาวะ วิกฤติ สภาวะของชนกลุ่มเราเองก็กำลังรอความหวังจากพวกเรา"
"อย่ามาทำตัวเหมือน เด็กคนไท โตจนสูงใหญ่ แต่ตัว แต่ปัญญา ไม่เอาไหน มัวแต่ไปแข่งรถอยู่ได้"
"รักแต่ความสนุก เอาแต่ความสะใจ ไม่สนใจความเป็นไปของชาติ บ้านเมือง"
สรุปแค่นี้ เท่าที่พอจำได้ละกันค่ะ
ยายกาแฟได้ยินแล้วก็หูร้อน ....บทเรียนของเด็กบ้านเรา กลายมาเป็นบทเรียน แก่เยาวชนอีกชาติหนึ่ง เป็นบทเรียนกึ่งดูแคลนไปด้วย ...คิดแล้วก็อนิจจา...
ในขณะที่เด็ก (บางส่วน) ของเราไปแข่งรถ แข่งกันทำตัว จี๊ดจ๊ด เป็นแว้น เด็กแนว
เยาวชนข้างบ้าน ของฉันกำลังพูดเรื่องของการกู้ชาติ กู้แผ่นดิน
Note : เด็กข้างบ้าน ไม่ใช่คนไทยค่ะ แต่เป็นกลุ่มคนพม่าพลัดถิ่น ที่ได้รับการอนุญาตให้มาอาศัยอยู่ ในแผ่นดินไทย ข้างบ้านจึงเป็นโรงเรียนสอนภาษา ขนาดย่อม และเป็นเหมือนแหล่งพักพิงชั่วคราว (เผื่อใครสงสัย ว่าทำไมพูดอย่างนั้น)
ที่มาของข่าว :http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000013688