ตลอดเส้นทางในการเดินทางไปทำงาน ระหว่าง ปัตตานี - หนองจิก
เต็มไปด้วยชุดสีเขียว และรถสีเขียว
ก่อนหน้านี้ เรารู้สึกแย่ และเริ่มแย่มากๆ ทุกครั้งที่น้ำตาเจ้ากรรมก็ไม่ค่อยยอมอยู่ในที่ๆ..ควรจะอยู่
ระยะทางเพียง 8 ก.ม จากตัวเมืองปัตตานี ถึงอำเภอหนองจิก นับว่าเป็นเส้นทางที่มีระยะทางที่สั้นมาก
เกือบเรียกได้ว่า เป็นโรงพยาบาลชานเมืองก็ว่าได้
กอ่นหน้าที่จะมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ เส้นทาง ...ปัตตานี -หนองจิก
เป็นเส้นทางที่เรามักจะพามอเตอรไซด์คันโปรด ขับไปอย่างช้า ๆ
และจอดชมความงามของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น
ซึ่งพระอาทิตย์ที่ใครๆว่าสวยนักยามตกดินที่ภูกระดึง สู้ ..พระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าข้างทุ่งนา
และรวงข้าว ข้างโรงพยาบาลหนองจิกไม่ได้ ( เรื่องนี้ ขอประกัน เพราะไปภุกระดึงมา 3 รอบ แล้ว
ยังยืนยันว่า สิ่งที่เห็นเป็นอย่างเรื่องราวที่เล่ามาจริงๆ )
แต่มาวันนี้ มอเตอร์ไซด์คันโปรดถูกจอดนิ่งจนเกือบลืมไปว่ามันยังใช้การได้
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหนองจิก เกือบ 100 % มีรถยนต์เป็นของตนเอง และที่สำคัญ
เป็นรถยนต์ที่ติดฟิมล์ดำ ขนาดที่คนขับเองยังรู้สึกมืดเสียเหลือเกิน
.....ความรู้สึกแย่ที่เห็นทหารชุดสีเขียว และรถถัง , รถฮัมวี่ ตลอดเส้นทาง กลายเป็นภาพที่ชินตา
และรู้สึกปลอดภัยที่เห็นพวกเขา จุดครวจหลักๆ มี 2 จุดคือจุดที่มีความเสี่ยง และมีผู้เสียชิวิตบ่อยครั้ง
นอกจากจุดตรวจสำคัญ แล้ว ตลอดเส้นทาง ยังมีทหาร ยืน ทุก ๆ 1 ก.ม. และที่ไม่เคยขาด คือบริเวณ
หน้า โรงพยาบาล และ บริเวณ ไกล้เคียงโรงพยาบาล
ทั้งหมด มันเป็นเรื่องเล่า ระหว่างการเดินทาง ...........
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอความสันติจงมีโดยเร็วค่ะ เราคนไทยด้วยกัน รักกันเสมอ
พี่จิตติมา และชาวหนอกจิกทุกท่าน
ด้วยความเคารพรัก