เกิดแตกต่างกันตามกรรม ๑๔ ประเภท (เกิดตามกรรม ภาค คนระลึกชาติ)


เคยเชื่อเรื่องบาปเรื่องกรรมกันไหมครับ ?

เมื่อผมอ่านหนังสือธรรมะ ... ถึงจะเป็นคนห่างวัดก็ยังเชื่อกรรมอยู่ครับ

หนังสือ ชื่อ "เกิดตามกรรม ภาค คนระลึกชาติ" เขียนโดย "คุณลุงทองทิว สุวรรณทัต" ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้มีการจัดพิมพ์มาแล้วจำนวนหลายครั้ง ทั้งเนื้อหาก็เขียนมานานแล้ว แต่ยังคงได้รับการตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน แสดงว่า มีคนเชื่อ "กรรมดี" "กรรมชั่ว" ทุกยุคทุกสมัย แต่ทำไมหลายคนไม่ทำดีล่ะ

 

พระพุทธองค์แสดงแก่ สุภมาณพ ถึงเหตุที่บุคคลและสัตว์ทั้งหลายเกิดแตกต่างกัน เพราะกรรมของตนมาอ้างอิงเป็นหลักฐานตามนัย ดังนี้

 

๑. บุคคลบางคน ปกติฆ่าสัตว์ มีใจทารุณโหดร้าย เมื่อสิ้นชีพย่อมตกนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้มีอายุสั้น

๒. บุคคลบางคนตามปกติ เว้นจากการฆ่าสัตว์ มีใจเอ็นดู กรุณาต่อสัตว์ เมื่อสิ้นชีพย่อมไปสวรรค์ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้มีอายุยืน

๓. บุคคลบางคนชอบ เบียดเบียนสัตว์ ทำให้เดือดร้อนลำบาก เมื่อสิ้นชีพย่อมตกนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้มีโรคมาก

๔. บุคคลบางคน ไม่ชอบเบียดเบียนสัตว์  เมื่อสิ้นชีพย่อมไปสวรรค์ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้มีโรคน้อย

๕. บุคคลบางคน มักโกรธ มากไปด้วยความแค้นใจ เมื่อสิ้นชีพย่อมตกนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ย่อมเป็น ผู้มีผิวพรรณทราม คือผิวไม่สวย

๖. บุคคลบางคน ไม่มักโกรธ ไม่มากไปด้วยความแค้นใจ ไม่ด่าตอบ ไม่พยาบาท มีใจอ่อนโยน ไม่กระด้าง เมื่อสิ้นชีพย่อมไปสวรรค์ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้มีผิวพรรณงาม น่าดู น่าเลื่อมใส

๗. บุคคลบางคน มีใจมักริษยาเขา มีใจคิดประทุษร้ายเขาอยากให้สมบัติเขาพินาศ เมื่อสิ้นชีพย่อมตกนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้มีศักดิ์น้อย วาสนาน้อย

๘. บุคคลบางคน ไม่ริษยาเขา ในลาภสักการะความนับถือ ไปคิดประทุษร้ายเขา ไม่อยากให้สมบัติของเขาพินาศ เมื่อสิ้นชีพย่อมไปสวรรค์ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้มีศักดิ์สูง

๙. บุคคลบางคน ตระหนี่เหนียวแน่น ไม่เห็นทาน ไม่สงเคราะห์คนที่ควรสงเคราะห์ เมื่อสิ้นชีพย่อมตกนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้ยากจน มีโภคะน้อย มีสมบัติน้อย

๑๐. บุคคลบางคน เป็นผู้มีใจเสียสละ ชอบให้ทาน สงเคราะห์แก่คนที่ควรสงเคราะห์ เมื่อสิ้นชีพย่อมไปสวรรค์ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้มั่งคั่ง พรั่งพร้อมไปด้วยโภคสมบัติ

๑๑. บุคคลบางคนถือตัวจัด กระด้าง ไม่เคารพผู้ควรเคารพ เมื่อสิ้นชีพย่อมตกนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น เกิดในตระกูลต่ำ

๑๒. บุคคลบางคน ไม่กระด้าง ไม่ถือตัวจัด เคารพที่ควรเคารพ เมื่อสิ้นชีพย่อมไปสวรรค์เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น เกิดในตระกูลสูง

๑๓. บุคคลบางคน ไม่ชอบสอบถาม ความสงสัยของตนกับท่านผู้รู้ฉลาด ไม่ไต่ถามว่าอะไรเป็นกุศล อกุศล อะไรควรประพฤติ ไม่ควรประพฤติ อะไรมีโทษ ไม่มีโทษ เมื่อสิ้นชีพย่อมตกนรก เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้โง่เขลา

๑๔. บุคคลบางคนมีนิสัย ชอบสอบถามท่านผู้รู้ หมั่นเข้าหาท่านผู้รู้ ฯลฯ เมื่อสิ้นชีพย่อมไปสวรรค์ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ก็เป็น ผู้ฉลาด รอบรู้ แหลมคม มีปัญญามาก

แหล่งอ้างอิง

ทองทิว สุวรรณทัต.  เกิดตามกรรม ภาค คนระลึกชาติ. 

                กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์กู๊ดมอร์นิ่ง, ๒๕๔๙.

 

โปรดใช้วิจารณญาณของท่านเองว่า เลือกจะเชื่อ หรือจะเลือกไม่เชื่อ ผมไม่สามารถบังคับท่านได้แน่นอน ... เรื่องนี้สมัยนี้ไม่มีใครเค้าเชื่อกันแล้วใช่ไหมครับ ... คนจึงเลือกเชื่อตัวเองมากกว่า เชื่อในกระทำของตัวเองคนเดียวไงครับ ใครมาติติงก็หาว่า เขาไม่หวังดีกับตน เป็นงั้นไป

แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งครับว่า ... การทำดีเป็นสิ่งที่เมื่อเราทำแล้วมีความสุข ... ทำชั่ว คิดไม่ดี ผลกรรมย่อมตามเอง บางทีคนชั่วก็ยังไม่รู้ตัว กลับโทษโชคชะตาก็มี หรือไม่ก็โทษคนอื่นกันไป

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่านเองเถอะนะครับ ผมแค่เป็นผู้ถอดความและนำเสนอไว้เป็นคติเตือนใจตัวเองเท่านั้น

บุญรักษา คนดี ครับ :)

หมายเลขบันทึก: 162354เขียนเมื่อ 30 มกราคม 2008 19:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 19:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
  • ไปสวดมนต์กะนั่งสมาธิที่วัดใหญ่เพิ่งมาค่ะ
  • แวะมาอิ่มเอมกับธรรมะที่เลือกสรรมาฝาก
  • ธรรมะสวัสดีค่ะอาจารย์
  • สวัสดี.ครับคุณ WD  โลกเจริญด้านวัตถุมาถึงปัจจุบันมีคนมีความรู้มากมาย แล้วแต่จะจัดระดับกัน นอกจากนี้ยังแยกชั้นกันตามแต่สำนัก มีรางวัลมากมายที่ให้แก่คนเก่งในแต่ละเรื่อง โลกทุกวันนี้เป็นโลกแห่งความรู้และใบปริญญาจริงๆ  "คนในโลกปัจจุบันคิดคล้ายๆกันว่าการทำดีคือทำแล้วมีความสุขไม่เบียดเบียนใครและไกลไปได้ขนาดฉันไม่ได้ขอใครกินที่เดียว" ทุกคนคิดว่าตนทำดีหรืออย่างน้อยก็ดีสำหรับฉัน  เรื่องเวรกรรม หรือการกระทำทุกอย่างเป็นเหตุทำให้เกิดผลต่างๆกันไปอย่างบันทึกของคุณ WD เป็นตัวอย่าง เป็นเรื่องยากแก่การเข้าใจและไม่อยากยอมรับของคน โดยเฉพาะคนฉลาดในโลกปัจจุบัน(คนโง่หมดโลกไปแล้ว) ผมเชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลของตนเองและคิดว่าตนทำดีเพราะมีผลเป็นความสุขแต่ความสุขหลายอย่างอาจเกิดจากความไม่รู้ซึ่งเกิดได้กับผู้มีความรู้นี้แหละครับแต่ผลต่อไปมันอาจจะไปเกิดไกล...ไกลถึงชาติหน้านั้นแหละครับหากพรุ่งนี้ตะวันยังขึ้นอยู่  ชาติหน้าก็ไม่ไกล    รอ  พิสูจน์เฉพาะตน  ไปก็แล้วกัน  (โศกเศร้ารันทดอาลัยอาวรณ์อิจฉาริษยารัก(โลภ)โกรธเกรียดกลัว...โอ้อยู่ในใจเราหรือเปล่า) ผมจะไปหาซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านครับ...ขอบพระคุณครับ ทำดีทำดี

สวัสดีครับ อ.ลูกหว้า

  • ขอบพระคุณอาจารย์ที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันครับ
  • ใจสงบแล้วจึงตบท้ายด้วย Gotoknow หรือครับนี่ :)

บุญรักษา ท่านอาจารย์ ครับ

สวัสดีครับ ท่าน เดโชชัย

  • ขอบพระคุณครับที่ได้ลงความคิดเห็นอันเป็นมุมมองที่ดีมาก ๆ ครับ
  • คนมีความรู้มาก ๆ เรียนจบสูง ๆ บางครั้งเมื่อเข้าสู่วังวนของอำนาจ กิเลส ตัณหา แล้วนั้น มักจะหลงลืมครับ จนบางครั้งที่ตนคิดว่าดีนั้น อาจจะเบียดเบียนคนอื่นโดยไม่รู้ตัวก็ได้ครับ

บุญรักษา ท่าน เดโชชัย  ครับ

สวัสดีค่ะ  อาจารย์  

 ขอบคุณมากค่ะ  สำหรับบทความเตือนใจ  เคยได้ยิน ได้ฟังเรื่องนี้มาเหมือนกันค่ะ  ซึ่งเราพิสูจน์ไม่ได้ น่าสนใจนะค่ะ  อย่างคนที่ตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหน และกลับมาเกิดใหม่จริงไหม   ยังเป็นคำถามอยู่

แต่บทความข้างต้นทั้งหมด ก็ทำให้คน พึงระมัดระวังตัว ให้สำรวมมากขึ้น เป็นสิ่งที่ดีใช่ไหมค่ะ

สวัสดีครับ ครูเอ

  • ใช่แล้วครับ เรื่องนี้ทำให้คนพึงระมัดระวังตัวเองมากขึ้นครับ
  • ทำอะไรก็ต้องคิดก่อน

ขอบคุณครับ :)

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • ถ้าเราเชื่อเรื่องกรรม ก็ทำให้เราหยุดคิดพิจารณาก่อนจะทำอะไรๆค่ะ
  • มิมก็เชื่อเหมือนกัน
  • สบายดีนะคะ
  • ระลึกถึงเสมอค่ะ

ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม "บันทึกกรรม" ...

คนไม่เชื่อเรื่องกรรม ... เพราะเขาคิดว่า ไม่มีจริง

เขาจึงเลือกทำชั่วทุกวิถีทาง อย่างนักการเมืองบนหอคอยงาช้างนั่นไง :)

ขอบคุณครับ :)

ริษยาแบบนี้ล่ะ บาปไหม

พี่สาวของเราเป็นอาจารย์ที่จุฬาฯ ชาติตระกูลเราไม่สูง คิดเอาว่าไม่ต่ำ เพราะว่าเป็นรุ่นที่พัฒนาแล้วละ พ่อกับแม่ก็ดีทุกอย่าง เป็นบุพการีที่ประเสริฐมาก แต่ถ้าถามว่าลูกทุกคนอยู่ในศึลห้าไหม คงว่าได้ แต่จะเคร่งครัดไหม คงไม่ เพราะเด็กๆด่ากันลั่นบ้าน

แต่สมาชิกในครอบครัวบางคนมีนิสัยช่างอิจฉา ริษยาเงียบๆ ทั้งที่ไม่มีเหตุให้ริษยา นอกจากเรื่องทางรูปลักษณ์ ไม่ใช่เรื่องสวย แต่เป็นเรื่องความผอม ตอนกลับมาจากเมืองนอกเห็นได้ชัด ไม่ได้ต้องการให้เราดูดีกว่าเขา ว่างั้นเถอะ

พี่คนที่เป็นอาจารย์ชอบทำอะไรเอาหน้า เขาจะรับปากแม่ทำโน่นนี่ตามที่แม่สั่ง ทั้งที่รู้ตัวว่าตัวเองไม่อยากทำ แล้วมาสั่งให้น้องทำ ทุกคนก็มีธุระเหมือนกัน แล้วไปรับปากแม่ทำให้แม่ก็ชื่นชมเขา เราเคยโกรธที่มาสั่งเรา แต่หาทางแก้ได้แล้ว เลิกคิดไปแล้ว

พี่คนนี้เป็นถีงอาจารย์จุฬาฯ เขาไม่ใช่คนที่ริษยาคนอื่น แต่กับคนในบ้าน ดังนั้น เขาก็จะพูดห้ามไม่ให้เราไปสมัครงาน เพราะกลัวว่าจะมีผู้ชายมาชอบเรา จึงไปพูดใส่หูแม่ ทำให้แม่โทรมาห้ามมิให้ไปสมัครงาน เพราะเขาไม่ต้องการให้เราได้ดีกว่าเขา

ถ้าเราได้งานดี นั่นย่อมหมายถึงเงินที่มากกว่าอาจารย์ระดับด๊อกเตอร์ เขาได้ไปดูงานต่างประเทศออกบ่อย รวมทั้งขอเงินแม่ไปเที่ยวก็เคย ไม่มีใครไปสนใจอยากถามอยากรู้ เขารู้ว่าเขาต้องดูแลพ่อตอนมากรุงเทพฯเรื่องสุขภาพ แต่จริงๆ เขาก็ไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่มีใครไปสนใจเขาหรอก ทำไมเขายังริษยาน้องเวลาน้องๆจะไปเที่ยวเขากลับจะขัดขวางทั้งโดยตรงคือพูดกับน้องอีกคนที่ต้องการไปเที่ยว หรือโดยอ้อมคือพูดเป่าหูแม่ ทำนองหวังดีแต่ประสงค์ร้าย

ถามว่าเป็นกรรมของใคร กรรมของน้องหรือกรรมของเขา

รวมถึงเขาอาจอิจฉาด้วยที่เราพูดได้สองภาษา อังกฤษกับฝรั่งเศส แต่ด๊อกเตอร์ได้แค่ภาษาเดียว คืออังกฤษ

ทุกคนย่อมมีชีวิตของตัวเอง เขาเอง เรากับน้องคนเล็กก็ยุพ่อ สนับสนุนให้ซื้อบ้านให้เขาไปผ่อนเอา แต่เขากลับคิดว่าเราสองคนอิจฉาเขา อันนี้ไม่พุดอะไร เพราะพ่อเขารู้ดี แต่เขาไปพูดกับพี่สาวคนโตเพื่อใส่ร้ายเราสองคน สงสัยว่าทำไมเขายังริษยาไม่เลิก ความนับถือมันเลยหมด เวลาเขาไปเที่ยวเยี่ยมที่ฝรั่งเศส เขาอยากไปที่นี่น จึงอ้างว่าเยี่ยมเรา พาไปเที่ยวยุโรป แต่ความจริง ไม่ได้ไปเพื่อเยี่ยมจริงจัง

นอกจากนี้ ยังมีน้องสาวคนสุดท้องคนเดียว ก็จะค่อนข้างเป็นโรคจิต เครียด หมกมุ่นในโลกของตัวเองแบบไม่มีความสุขนัก ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ขนาดเขาด่าพ่อจนร้องไห้ บาปไหม ๆๆๆๆๆ

ที่หาเรื่องคุยจนต้องทะเลาะกับพ่อ เพราะหาว่าพ่อไม่รักเขาเท่าพี่ๆคนโตๆ นอกจากนี้ ไม่ต้องการให้เขา(และเรา)มีคนรักแล้วแต่งงาน พี่ที่เป็นอาจารย์จะแสดงความอิจฉาออกมาให้เห็นบ่อยๆ ทุกครั้งที่ไปกับเพื่อนๆผู้ชาย เพราะเขาไม่มีน่ะ เขาจะบ้าชนิดว่าเราออกไปซื้อหนังสือพิมพ์ เขาหาว่าเราแอบนัดไปทานข้าวกับเพื่อนผู้ชาย เราได้แต่หัวเราะในใจ

น้องสาวก็เป็น เขาหาว่าเราออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะกรมทหารเรือ ไปเจอหนุ่มๆหรือยัง เขาประสาทเอามากๆ

สำหรับแม่ การที่เรามีเพื่อนผู้ชายมาทานข้าวด้วย แม่ไม่เห็นเป็นเรื่องเสียหาย แม่ว่าเป็นเพื่อนไม่เห็นเป็นไร ทำไมคนพวกนี้ถึงมีกรรมที่เป็นคนแบบนี้

เราแผ่เมตตาให้นะ เพราะว่าจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับชีวิตหน้าที่การงานของเรา พ่อแม่ให้เงินใช้ เราไม่อยากเอาของแม่เพิ่ม ก็เลยบอกว่าจะใช้เขาเอง รวมๆแล้วหมื่นบาท มีงานได้เงินก้อนแต่ว่าต้องใช้ เพราะแม่ให้เดือนละ 5000-10000 บาท ตอนนี้เป็นทนายความกับล่ามอิสระไป มีงานพิเศษอื่นๆเข้ามา คือที่บ้านจะห้ามไม่ให้ทำอะไรเลย คุณว่าผิดมนุษย์ไหม เพราะไม่อยากให้เรามีเพื่อนๆเลย ปัจจุบันจะไปหาเพื่อนที่นอกบ้าน ถ้าว่างจะไปนอนอพารต์เม้นท์เพื่อน โทรศัพท์ก็ให้ทราบไม่ได้ เพราะเขาพยายามจับผิดหรือเรียกว่าแอบฟัง โดยเฉพาะน้องสาวชอบมีพฤติกรรมนี้ แต่โดยตัวเองไม่เคยพูดเรื่องเขา จึงไม่มีปัญหาให้ทะเลาะ แต่ถ้าว่าก็ให้รู้ทั้งบ้าน ที่บ้านจะสอดทุกเรื่องทั้งเรื่องงาน ห้ามเราทำงาน มีบุพการีที่ไหนไหนโลกเหมือนครอบครัวเราบ้าง

ไปอยู่บ้านพ่อแม่ ไม่ทำงานเลยก็ได้ เพราะพี่สาวทำหมด อาหารสั่งเขาเอาทุกวันทุกมื้อเป็นอย่างนี้มากว่า 30 ปีแล้ว แต่การที่อยู่กับพ่อแม่ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปหาเพื่อนๆได้นะคะ ห้ามออกจากบ้านอีกเหมือนกัน ถ้าจำเป็นก็ไม่เป็นไร แต่ไม่เช่นนั้น เพื่อนๆไม่มีใครกล้ามาหา หรือเราออกไปก็ไม่ได้

เราไม่รู้เรามีกรรมหรือเปล่า แม่บอกว่าเราไม่รู้ทำบุญอะไรมา ถึงไม่ต้องทำอะไรเลย แต่แม่ยังอยากให้เราทำงาน มีชีวิตแบบคนปรกติ แต่ไม่ใช่พ่อ พี่ๆที่แต่งงานไม่ได้เป็นความเต็มใจ แต่ยินยอมด้วยสุภาษิตที่ว่า ห้ามอะไรก็ห้ามได้ แต่ห้าม.....ห้ามไม่ได้ จำไม่ได้แล้ว

สงสัยว่าบ้านมีเงินเยอะสิ เปล่าเลย มีแค่ให้การศึกษาจบ ตอนนี้ตัวใครตัวมัน จึงไม่ยอมจะขอเหมือนก่อน ไม่มีก็ทำงานหน้าเน็ตในห้องนอนไป ได้งานแปลนานๆที งานล่ามที่ศาลบ้าง งานล่ามธุรกิจบ้าง งานคดีตรงๆยังไม่มี แต่มีเรื่องช่วยงานคดี งานต่อเนื่องติดต่อราชการให้ชาวต่างชาติครั้งละ 3000 บาท หรือทั้งวัน 5000 บาท

วันก่อน พี่สาวคนที่สอง เห็นเรามีเครื่องปริ้นเตอร์ใหม่ เขาไม่พอใจ ทำไมต้องซื้อ ทำงานอะไรสำคัญนักหนาถึงต้องมีเครื่องมือหากิน

เราไม่รู้นะ แต่ตอนนี้ หากมีใครเข้ามา เราก็ไม่ปิดตัวเอง แต่จะจริงจังหรือไม่ต้องสืบประวัติก่อน จึงไม่ค่อยกลัวผู้ชายมาหลอก เพราะรู้อยู่ว่าที่โสดคงยาก คุยสักพักก็หายศีรษะไปหมด เราจึงไม่เดือดร้อนเรื่องมีคนรักหรือไม่มี เพราะไม่มีเวลาคิด

ขอบคุณที่อ่านชีวิตของคนคนหนึ่ง ที่ไม่เขียนในส่วนไม่ดี ไม่ใช่กลัวคนนินทา เพราะเรื่องที่เรามีนิสัยไม่ดีนั้น ถ้าเปรียบกับคนอื่นที่เคยอ่านแล้ว เรายังไม่ถึงขึ้นนิสัยไม่ดี แต่ที่บ้านไม่ชอบให้เอาเรื่องในบ้านไปเล่าข้างนอก โดยเฉพาะเอาเรื่องข้างนอกมาเล่าในบ้าน พ่อกับแม่ไม่ชอบฟังลูกๆนินทาบ้านอื่น คนอื่นๆ

แต่เราว่าการได้เล่าประสบการณ์สู่กันฟัง น่าจะเป็นการรักษาทางจิตดีอีกทางหนึ่ง ในเมื่อเราไม่อยากไปวัด เราชอบมีเพื่อนเวลาที่ต้องการ และชอบสันโดษเวลาที่ไม่ต้องการใคร ชอบไปไหนคนเดียว ถ้าจะไปกับเพื่อนไม่เคยมีความสุขจริงๆเหมือนกับเราไปกับเพื่อนสนิทมากๆ เพราะรู้ใจกัน ดังนั้น เราจึงมีชีวิตอยู่มาได้โดยไม่ค่อยได้ทำบุญ แต่นานๆครั้งก็ให้ทาน ทำบุญเล็กน้อย เพราะถ้าบอกแม่ทำบุญเยอะๆจะถูกห้ามทันที บอกว่าแม่ทำแทนแล้ว การทำบุญ แม่เราทำแทนเราได้ด้วยหรือ ช่วยตอบหน่อย

ขนาดไปบริจาคร่างกายมา หวังมากอยากเป็นอาจารย์ใหญ่ แต่ถ้าพ่อกับแม่รู้คงโดนด่าไม่รู้กี่ปี มีหวังบอกให้ไปขอใบบริจาคคืนแน่ๆ นี่เราตั้งใจว่า ปีนี้จะไปบริจาคเลือดให้ได้ แม้จะขัดกับแม่ก็ตาม แม่ห้ามบริจาคเลือดมาแต่เล็กๆ แม่ห้ามหลายอย่างมาก เลยคิดว่าหากไม่ได้เป็นอาจารย์ใหญ่ จะขอบริจาคเป็นส่วนๆไปละกัน อยากตายเร็วๆ จะได้ไปเกิดในอีกภพดีๆเร็วๆๆ เราต้องการทำงานดีๆ งานที่ตัวเองชอบและทำอยู่ สร้างตัวเองได้ ออกไปอยู่อพาร์ตเม้นท์เอง ไปไหนกับเพื่อนๆได้โดยไม่ถูกด่าและโทรตาม และจะได้มีเงินให้พ่อกับแม่ใช้ ไม่ใช่อยากได้รับประทานอาหารโรงแรมก็ได้ทาน นึกอยากทานไอศกรีมมีคนเลี้ยง ซื้อมาให้ ไม่ว่าที่บ้านหรือในสังคมทำงานที่เคยสัมผัส และมีอยู่ เรื่องของการนึกอยากรับประทานอะไร เราจะได้เสมอ ทั้งที่ก็ไม่ค่อยทำบุญใส่บาตรอาหารดีๆแพงๆ หรือแม้แต่บ่อย เป็นอย่างนี้มาแต่เด็ก จนเพื่อนมักจะทักว่าธอนี่ยังกับนางฟ้า นึกอยากทานอะไรก็ได้ทาน ถ้าสิ่งนี้ เป็นบุญ เราไม่อยากได้บุญแค่เรื่องนี้

ที่ไม่ค่อยไปเยี่ยมพ่อกับแม่เพราะว่า ยิ่งใกล้ชิด ท่านจะละนิวรณ์ไม่ได้ ทั้งที่พ่ออยากๆได้นิพพานมาก แต่ตัวไม่ขาดเรื่องรักลูกเกินกว่าที่จะพูดว่ารักและห่วง แต่เป็นความหวงที่ถึงขนาดว่าจะไม่ยอมปล่อย จะเลี้ยงลูกจนลูกแปดสิบก็จะเลี้ยง ทำให้กลัวว่าท่านจะทุกข์หนัก เพราะเราเองเราอยากมีอายุแค่ 60 ปีก็พอแล้ว แต่ยมฑูตไม่มาพาเราไปเสียที ระหว่างรอต้องหางานทำฆ่าเวลา ไปปฏิบัติธรรมด้วย สนุกดีไปวัดเงียบๆ อากาศดีค่ะ เวลาอารมณ์ชอบไปวัดระฆังไหว้พระ

ขอแก้คำพิมพ์ผืด "แต่ตัวไม่ขาด " เป็น " แต่ตัดไม่ขาด" กับคำว่า...." มีอายุแค่ 60 ปี " เป็น " มีอายุอย่างมาก...." อีกคำ "อารมณ์ชอบ" เป็น"อารมณ์ดี"

ขอต่ออีกนิด เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะปากเราหรือเปล่า คือ เคยแผ่เมตตาให้คนที่พยายามมาพูดเกาะแกะเราให้รู้สึกแย่ ด้วยความไม่ชอบจึงนึกว่า เธอคนนั้นไม่นานเกินสามเดือนหรอกคงท้องแล้วต้องทำแท้ง.... หลังจากนั้นไม่นาน ที่ผู้ชายที่เรารู้จักเอาแมวมาฝากแล้วพาผู้หญิงไปฟิลิปปินส์ ดูเหมือนจะดี พูดว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่หนึ่งเดือน พอกลับมาจากนั้นบอกว่าเขาทำผู้หญิงคนนี้ท้อง และบอกให้เธอไปทำแท้ง เพราะเขาไม่อยากได้ลูกกับเธอ เพียงต้องการสนุกไปก่อน

ต่อมาเรื่องใหญ่ๆ ที่ 2 คือสามีเพื่อนสนิท ทำเรื่องให้แตกร้าวฉานเองในครอบครัว เราได้รับรู้เพราะในฐานะเพื่อนสนิท แต่ช่วยอะไรไม่ได้ในฐานะทนายความ เพียงแต่รับฟัง บอกว่าให้คิดดูดีๆ ก่อนหน้านี้ เขาคนนั้นใส่ความว่าเพื่อนเรามาคุยกับเราตลอดค่ะ ทั้งที่ความเป็นจริง ก่อนพวกเขาจะตัดสินใจอยู่ด้วยกันหรือไง ไม่เคยได้ข่าวหรือติดต่อมาเป็นปีกว่านับจากได้พบครั้งแรก ซึ่งยังไม่คิดว่าคบกันแล้ว ต่อมาเมื่อเกิดเรื่องทำร้ายกัน

เราแวะไปเยี่ยม เพื่อนบอกให้มารับหน้าเปิดประตูบ้านให้เขาก่อน เขาจะได้ไม่ตกใจ เพราะเขากลัวเราจะตาย .....กลัวหรือ .....พอเขาเห็นเราอยู่ที่หน้าบ้าน นำรถเลี้ยวเข้ามาทั้งที่เห็นเราแล้ว แต่แกล้งขับมาจนจะชน แต่ดีว่าเราหลบทันเพราะเราไม่แน่ใจ ไม่อยากเสี่ยงกับความบ้าของเขา

เราคงโกธแต่ไม่ได้คิดฆ่าอะไรหรอก เพราะสิ่งที่เพื่อนเราเอามาพูดเล่า ล้วนแต่เป็นความเลวร้ายของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เพื่อนเรารู้ดีว่า มันพูดไม่จริงสักเรื่อง เพราะเราไม่เคยได้พบเจอหรือแม้แต่โทรศัพท์กับเธอ จากที่เคยคุยทุกวัน ตอนนั้น เพื่อนกำลังตาบอด เราไม่ยุ่ง ไม่ยุ

แผ่เมตตาของเราไม่ได้แผ่แบบทุกที เราแผ่เมตตาขอให้คุณพระพุทธนำพาเขาไปสู่กรรมที่เขาก่อ หากเขาไม่คิดร้ายกับเราก็ขอให้ไม่มีอะไร แต่ถ้าคิดร้ายกับเรา ขอให้กรรมของเขาทำให้เพื่อนต้องตัดเขาให้ขาด ... จนปีที่สาม เพื่อนถึงตัดสินใจเลิก โดยโทรมาบอกแบบทำให้เราตกใจ เพราะคิดว่าเขายอมรับสภาพเป็นเบี้ยล่างได้ เรื่องลูกด้วยค่ะ ....เราไม่ได้รู้สึกยินดี เราคิดว่ากรรมของเขาเอง ไม่ใช่เพราะปากเราหรอก

เราไม่ต้องการสาปแช่งใคร เพราะเราเป็นคนโกรธยากมากๆๆ ลืมง่ายในบางเรื่อง ไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ เป็นสาวพรหมจรรย์ บวกกับความศรัทธาในองค์ไตรรัตน์ เราจึงเชื่อว่าพลังบริสุทธิ์บันดาลได้ทั้งดีและเลว กฏแห่งกรรมมีจริง กายทิพย์ก็มีจริง เพราะเคยปฏิบัติตอนอายุ 12ปีค่ะ พ่อบอกว่าถ้าปฏิบัติต่อก็จะเป็นแม่มดขาวได้ 555

ขอบคุณสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ คุณ disappear not destroy ... กรรมเป็นของใครของมันครับ โยกย้าย ถ่ายโอนไม่ได้ ทำสิ่งใด ย่อมได้ผลสิ่งนั้น

ผมไม่ใช่ปฏิบัติธรรมสม่ำเสมอนัก เหตุมีกรรมติดตัวอยู่หลายอย่าง เพียงแต่เลือกที่จะไม่เบียดเบียน เลือกให้สิ่งดี ๆ กับลูกศิษย์ครับ

อยากให้กำลังใจมาก ๆ  นะครับ ... ชีวิตเกิดมาเพื่อทำความดีครับ

ขอบคุณมากครับ :)..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท