สมานฉันท์
มูฮัมมัด วรนันท์ รอมฎอน บุนนาค

คุตบะห์(ธรรมบรรยาย)วันศุกร์ของมัสยิดหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น(สมานฉันท์เพื่อสันติสุข)


"แท้จริงอัลลอฮ(ซ.บ)จะไม่ทรงเปลี่ยนแปลงกลุ่มชนใด จนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียก่อน" พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน อันจำเริญ พระพจนาถในบทที่ 11 อัรเราะอ์ดุ

          มุสลิมผู้ที่นับถือศาสนา(วิถีการดำเนินชีวิต)แบบอิสลามทุกคน มีหน้าที่ต้องแนะนำ สั่งสอนกันให้ทำความดีและมีหน้าที่ต้องห้ามปราม และยับยั้งจาการทำชั่ว ละต้องประนีประนอมคนในท้องถิ่นชุมชนว่า การพัฒนาท้องถิ่นหรือชุมชนถือเป็นภาระกิจร่วมกันสำหรับเราทุกคน เราต้องช่วยกันดูแลท้องถิ่นชุมชนของเราให้ปลอดภัยจากปัญหาสังคมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด การดื่มสุรา การเล่นการพนัน การโกหก ลักขโมย โดยเฉพาะพฤติกรรมการก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามหลักศาสนาแล้ว พระผู้เป็นเจ้า พระองค์อัลลอฮ (ฃ.บ)สอนให้เรามีหน้าที่ต้องดูแลท้องถิ่นของเราให้มีระเบียบวินัยและมีความสงบสันติสุข ความเสื่อม และเหตุร้ายต่างที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเสื่อมโทรมทางด้านสิ่งแวดล้อม การแย่งชิงทรัพยากรจากชาวบ้าน การตัดไม้ทำลายป่า การลักลอบฆ่าสัตว์ในเขตป่าสงวน ทางสังคมการก่ออาชญากรรมและการก่อความไม่สงบในรูปแบบต่างๆ พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า "ความเสื่อมอันปรากฎบนบก และในทะเลล้วนเป็นไปโดยน้ำมือของมนุษย์เองทั้งสิ้น เพื่ออัลลอฮ(ฃ.บ)จะได้ให้พวกเขาลิ้มรสบางอย่าง ของสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้ เพื่อพวกเขาจะได้คืนกลับ" พระพจนาถ อัลกุรอาน อัรรูม 41 ผู้ก่อความไม่สงบทั้งหลายท่านพึงทราบไว้ด้วยว่า ไม่มีใครเห็นชอบเห็นดีเห็นงามกับพวกท่านที่ได้กระทำ โดยเฉพาะหากว่าท่านป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม นี่คือการบ่อนทำลาย การเข่นฆ่าผู้บริสุทธ์ การวางระเบิด ขับไล่พี่น้องต่างศาสนิก ฆ่าเด็ก ผู้หญิง คนชรา นี่เป็นฝีมือพวกอมนุษย์ พวกนอกคอก ไร้ศาสนา ที่ไม่ใช่การกระทำของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นมุสลิม ซึ่งมีแบบอย่างที่ดีเลิศของท่านศาสดามูฮัมหมัโ (ฃ,ล)เป็นแบบอย่าง และมีพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานเป็นวิถีทางนำ การสาบาน(ซุมเปาะ)ที่ท่านสาบานและได้กระทำการเข่นฆ่าผู้คนเป็นสิ่งเลวสิ้นดี ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ฃล)ได้กำชับเหล่าซอฮาบะห์(สาวก)ของท่านอย่างหนัแน่นในการต้องทำสงครามกับผู้รุกรานทำลายล้างอัลอิสลามว่า "ในการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ(ซ.บ)พระผู้เป็นเจ้า พวกท่านอย่าฆ่าเด็ก อยาฆ่าผู้หญิง อย่าฆ่าคนชรา ที่อ่อนแอ และอย่าฆ่านักบวชในศาสนาอื่น อย่าตัดต้นไม้และอย่าทำลายบ้านเรือน" แต่ที่ผ่านมาพวกผู้ก่อความไม่สงบ กลายเป็นเยาวชนคนหนุ่ม ที่แอบอ้างว่านับถือศาสนาอิสลามทำลายเข่นฆ่าผู้คนที่บริสุทธ์ไม่เลือหน้าแม้แต่พระสงฆ์ และพยายามทำให้ผู้คนทั้งหลายเข้าใจว่าผู้ก่อความไม่สงบนั้นเป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ก่อให้เกิดความเกลียดชังศาสนาและคนที่นับถือศาสนาอิสลามอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ  ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องมุสลิมทุกคนต้องออกมาประณามและต่อต้านพวกก่อความไม่สงบที่ออกมาทำร้ายผู้คนอย่างไร้ความเมตตาปราณี และเป็นผู้สร้างความเสื่อมเสียบนหน้าแผ่นดินนี้ และจะต้องต่อต้านพวกเขาเหล่านั้นที่บิดเบือนหลักการที่ดีของศาสนาให้ได้รับความหม่นหมอง ท่านศาสดามูฮัมหมัด (ซล)มีวจนะว่า"ผู้ใดจากพวกท่านที่ได้พบเห็นสิ่งที่เลวทราม ให้เขาจงทำลายมันด้วนมือของเขา ถ้าหากเขาไม่มีความสามารถให้เขาจงใช้คำพูดเพื่อยุติมันและถ้าหากเขาไม่มีความสามารถจะใช้คำพูดให้เขาจงใช้จิตใจปฏิเสธและไม่เห็นด้วยกับความเลวทรามที่เกิดขึ้นนั้นและนั่นคือ อีหม่าม(ศรัทธา)ที่อ่อนแอ" ดังนั้นขอเรียำร้องให้ผู้นำชุมชน อิหม่าม คดเต็บ บิหลั่น กรรมการมัสยิดทั่วประเทศ กรรมอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ ประชาชนมุสลิมภาคใต้ทั้งหมด ลุกขึ้นมาจัดการกับการบิดเบือนศานาครั้งนี้ คืนความสงบร่มเย็นให้กลับคืนมา น่านิ่งเฉย น่าผ่อนปรน อย่าเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ มันหมดยุคนิ่งเฉยดูคนเลวฆ่าคนบริสุทธ์แล้ว ขอเอกองค์อัลลอฮ(ซ.บ)จงลงโทษพวกบอกเบือนศาสนาพวกนิ่งเฉย และขอให้พระองค์ทรงลงโทษพวกที่เข่นฆ่าผหู้บริสุทธ์ด้วนนรกยาฮันนัม ด้วยเถิด อามีน

 

 

หมายเลขบันทึก: 161685เขียนเมื่อ 27 มกราคม 2008 14:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 09:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท