ประโยชน์ของกาแฟ นะคร๊าฟ นะคร๊าฟ


กาแฟก็มีประโยชน์นะง๊าบ

 

เรื่องนี้เอาใจคอกาแฟ และผู้ที่หลงใหลใน รสชาติกาแฟโดยเฉพาะ เนื่องจากคุณไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน หรืออ้อมแอ้ม เวลาใครต่อว่า ดื่มกาแฟไม่มีประโยชน์ จะทำให้เป็นอย่างโน้นอย่างนี้ และยังเสพย์ติดคาเฟอีนในกาแฟด้วย เพราะรายงานการวิจัยล่าสุดระบุถึงประโยชน์ของกาแฟ อย่างที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

 

เมล็ดกาแฟที่นอกจากจะมีคาเฟอีนอย่าง ที่เคยรู้ๆ กันมาแล้ว ยังมีกรดแทนนิค โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และวิตามินด้วย และด้วยเหตุที่กาแฟอยู่ในรูปแบบของน้ำ 99% ดังนั้น จึงให้พลังงานต่ำเพียงแก้วละ 3-5 แคลอรี่เท่านั้น

 

คราวนี้ เราจะมาดู ประโยชน์ของสารอาหารในเมล็ดกาแฟ กัน
1. คาเฟอีน เป็นส่วนผสมพิเศษที่สุดของกาแฟ ที่ทำให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร และขับพิษ ในเมล็ดกาแฟ 100 กรัม มีคาเฟอีน 1.3 กรัม

 

2. กรดแทนนิค ในเมล็ดกาแฟ 100 กรัม มีกรดแทนนิคอยู่ 6 กรัม เป็นตัวที่ทำให้กาแฟ มีรสขม แต่ถ้าผ่านการอบนานๆ ความขมจะ เจือจางไปด้วย

 

3. น้ำตาล ในกาแฟมีน้ำตาลเพียงนิดหน่อย
 
แต่พอผ่านการอบแห้ง จะกลายสภาพเป็นกรดแลคติก ทำให้กาแฟมีสีน้ำตาล

 

4. โปรตีน เมื่อกาแฟถูกชงหรือต้มแล้ว โปรตีนแทบจะหายไป ช่วยเพิ่มรสชาติกาแฟ

 

5.ไขมัน เป็นสารที่ช่วยให้กาแฟมีรสชาติดีขึ้น

 

6.เส้นใยอาหาร เมื่อผ่านการอบแล้ว เส้นใยนี้จะกลายเป็นคาร์โบไฮเดรต และกรด แลคติกรวมกัน กลายเป็นสีของกาแฟ

 

ประโยชน์ของกาแฟ

 

1. ป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B มีผู้วิจัยพิสูจน์แล้วว่า กาแฟมีประโยชน์ในการป้องกัน โรคดังกล่าว

 

2. ป้องกันโรคหอบ โรคนี้ คือ อาการ ภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง โดยทั่วไปเมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้น จะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที และคาเฟอีนในกาแฟจะระงับการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง ลดการเกิดโรคหอบ

 

3. ลดการเกิดโรคตับจากสุรา ตามที่นักวิชาการสำรวจแล้วพบว่า กาแฟช่วยลดผลร้ายที่จะมีต่อตับ แต่ยังต้องวิจัยต่อไปว่า สารใดที่มีประโยชน์ดังกล่าว และมีผลต่อสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดโรคตับแข็งหรือไม่ นอกจากแอลกอฮอล์

 

4. ป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิภาพป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะในคาเฟอีนมีกรดอะซิติก ที่ช่วยป้องกันโรค

 

5. ขับไล่ความชรา ออกซิเจนเป็นสารที่ร่างกายต้องการมากก็จริง แต่ถ้ามีออกซิเจนมากไป ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่เร็ว โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้น จะทำให้ออกไซด์แตกตัว ลดการเกิดมะเร็งได้ กระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกาย

 

6. กาแฟลดอัตราคอเลส-เตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ในกาแฟมีนิโคติน แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่ แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด จึงป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดแข็งตัว

 

7. ละลายไขมัน กาแฟที่ทานหลังอิ่มอาหาร ช่วยให้ไขมันแตกตัว และให้พลังงานทดแทนจึงลดความอ้วนได้

 

8. กาแฟเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ตามผลการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ จะมีไขมันชนิด (HDL) เพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไป ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว

 

9. แก้ปวดศีรษะ กาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีนที่ขยายหลอดเลือด ระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวด และยังช่วยขับปัสสาวะ ละลายไขมันในเส้นเลือด และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากเมาสุราได้

 

10. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมอง มีผู้เชี่ยวชาญสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาว่า ความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น นั้นเป็นเพราะกลิ่นกาแฟ ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น

 

11. ดื่มกาแฟเล็กน้อยทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งดีขึ้น ไขมันแตกตัว หากได้ดื่ม กาแฟเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จ คาเฟอีน ในกาแฟจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนเพิ่มขึ้น ไขมันถูกเผาผลาญ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกาแฟ

 

ถ้าจะถามว่าควรดื่มกาแฟวันละมากน้อยเท่าใด คงหามาตรฐานมาตอบไม่ได้ ต้องดูตามความชอบ และสภาพร่างกายผู้ดื่ม โดยทั่วไป ดื่มให้อร่อยหรือพอใจ คงจะเหมาะสม แต่ก็ควรสังเกตลักษณะอื่นๆ โดยละเอียดดังนี้
  • ดื่มกาแฟตอนเย็น ทำให้นอนไม่หลับไหม หลายคนเคยมีประสบการณ์มาบ้าง แต่กาแฟก็มีผลต่อร่างกาย แต่ละคนต่างกัน ถ้ากลัวว่าจะนอนไม่หลับ ให้ดื่มน้อยลง ทว่ากาแฟมีผลในการขับปัสสาวะ อาจทำให้ต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก รบกวนการนอนได้
  • คนมีครรภ์ควรดื่มกาแฟไหม เป็นเพราะว่าคาเฟอีนในกาแฟ จะส่งผลต่ออวัยวะภายในของทารกที่ยังอ่อนแออยู่ จึงไม่ควรดื่ม
  • เด็กเล็กไม่ควรดื่มกาแฟ โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ขวบ
  • หญิงลูกอ่อน ที่คลอดลูกแล้ว 100 วัน และอยู่ในช่วงให้นมลูก ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะช่วง 100 วันนี้ ทารกต้องการน้ำนมบริสุทธิ์จากแม่ การดื่มอะไรเข้าไปจะส่งผลต่อทารกได้ จึงต้องระวัง
  • คนเป็นโรคกระเพาะควรงดกาแฟ เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้น การหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะ จะยิ่งเพิ่มกรดในกระเพาะให้อักเสบมากขึ้น
  • คนเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะคาเฟอีน มีบทบาทในการกระตุ้นหัวใจ ทำให้เลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งกรณีนี้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กวัยรุ่นถ้าดื่มกาแฟ แต่ถ้าเป็นคนชราที่มีโรคหัวใจอยู่ จะทำให้ประสิทธิภาพหัวใจดีเกินไป และหัวใจเสื่อมเร็ว จึงไม่ควรดื่มอย่างยิ่ง

 

หมายเลขบันทึก: 161423เขียนเมื่อ 25 มกราคม 2008 22:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท