ใครจะนึกบ้างว่าฝรั่งเศสเคยเข้ามาเอี่ยวเป็นเจ้าอาณานิคมในดินแดนหนึ่งที่อยู่ทางภาคใต้ของอินเดียคือเมืองปอนดิเชอรี (Pondicherry~Puducherry) แต่ดูชื่อก็ออกแนวฝรั่งเศส เราคงผ่านหูผ่านตาสมัยเรียนประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมมาบ้าง ตอนที่ฉันไปเจนไน เพื่อนบอกจะพาไปเมืองนี้ก็ทำให้ตื่นเต้นที่จะได้ไปเพราะความที่ชื่อคุ้นหู แต่ไม่ทราบว่าเคยเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศส
เมืองปอนดิเชอรีตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลห่างจากเจนไนประมาณ 160 กิโลเมตร ถนนหนทางดีมาก ฝรั่งเศสเข้ามาปกครองปอนดิเชอรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1673 ฟรองซัว มาร์ตินได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองตามสนธิสัญญาริสวิก (Ryswick) เมืองนี้มีความเงียบสงบมาประมาณ 250 ปี จนกระทั่งถึงปี 1742 เมื่อโจเซฟ ฟรองซัว ดูเปล็กซ์ เป็นผู้ปกครองของฝรั่งเศสอินเดีย ในช่วงเวลาเดียวกัน เกิดสงครามระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษ สถานการณ์ในยุโรป และความทะเยอทะยานของดูเปล็กซ์ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างอังกฤษ-ฝรั่งเศสในอินเดีย ตลอดเวลา 70 ปี ปอนดิเชอรีดำรงอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของมหาอำนาจทั้งสอง ท้ายสุด ปอนดิเชอรีตกเป็นของฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1814-1954 ซึ่งเป็นช่วงที่อินเดียได้รับเอกราช และในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสได้เผยแพร่ความเป็นฝรั่งเศสในด้านต่างๆ ไว้ซึ่งยังคงหลงเหลือมาจนปัจจุบันนี้ เช่น อาคาร สวน โรงแรม เครื่องแบบตำรวจจราจร เป็นต้น
เมืองนี้มีอาศรมชื่อ ศรี โอโรบินโด (Sri Aurobindo) ตั้งขึ้นในปี 1926 ซึ่งทำให้เมืองชายทะเลแห่งนี้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ อาศรมนี้เป็นสถานที่ผสมผสานระหว่างจิตวิญญาณ โยคะ และวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ซึ่งเป็นที่นิยมในอินเดียและต่างประเทศ
เมืองปอนดิเชอรีมีเทศกาลต่างๆจากเมืองอื่นๆ ของอินเดีย เช่น เทศกาลหน้ากากที่ผู้คนแต่งกายหรูหราเต้นรำไปตามถนนพร้อมทรัมเป็ตและแอคคอร์เดียน จัดในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ช่วงวันส่งท้ายวันบาสตีล (Bastille Day) ทหารที่เกษียณแต่งชุดทหารเดินพาเหรด ร้องเพลงชาติฝรั่งเศสและเพลงชาติอินเดีย ภาษาฝรั่งเศสยังพูดกันอย่างกว้างขวาง วิลลาที่อยู่ตามชายหาดและถนนปูด้วยหินทำให้รำลึกถึงทางใต้ของฝรั่งเศสมากกว่าทางใต้ของอินเดีย
(www.pondicherry.com/?history, 1/12/2550)(www.pondicherry.com/english/histoire.htm, 1/12/2550)
สวัสดีครับ
เป็นเมืองหนึ่งที่อยากจะไปครับ คณะมรดกใหม่ของครูช่างเคยไปแสดงพระอภัยมณีที่นั่น ทราบว่าคนชื่นชมและสนใจกันมาก
ขอบคุณครับ