โลกาภิวัตน์ เป็นโลกที่ทุกประเทศสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้หมด ทั้งทางด้านข้อมูล ข่าวสาร และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จึงส่งผลให้โลกใบนี้ดูแคบลงไปถนัดตา ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีวัสดุ และ นาโนเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเหล่านี้ ส่งผลให้การใช้ชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์นั้นไม่ง่ายอย่างที่เป็นมา
มีคำกล่าวว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” เฉกเช่นเดียวกัน การใช้ชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์ การรู้เพียงเราอย่างเดียวโดยไม่รู้เขาเลยนั้น หากต้องเข้าสู่สมรภูมิการแข่งขัน โอกาสที่จะชนะนั้นแทบไม่มี ดังนั้น จึงก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า ทำอย่างไรเราถึงจะรู้เขาได้ และมีวิธีการอย่างไรที่จะเอาข้อมูลเขามาให้ได้ และในขณะเดียวกันรู้เขาเพียงอย่างเดียวโดยไม่รู้เรา คือ ไม่รู้เรื่องของตนให้ถ่องแท้นั้น ก็ไม่มีฐานะที่จะประคองชีวิตอยู่ในโลกนี้ให้มีคุณค่าและมีความสุขได้
ดังนั้น รู้เขา และ รู้เรา เพื่อสร้างภูมิต้านต้านในการดำรงชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์อย่างเท่าทัน และเท่าเทียม พร้อมทั้งตระหนักถึงคุณค่าต่อความเป็นมนุษย์ของตน
รู้เขา คืออะไร แล้วเราจะได้ข้อมูลเขานั้นได้อย่างไร?
รู้เขา ในที่นี่ หมายถึง การรู้ถึงสภาพความเป็นไปอย่างแท้จริงของโลก รู้สภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เราจะต้องเกี่ยวข้องด้วย ในสภาวะที่มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยีและ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ เหล่านี้เป็นต้น
ข้อมูลต่างๆ จะได้มาก็ต่อเมื่อเรามีการศึกษา ค้นคว้า บันทึก รวบรวม จัดเก็บ อย่างเป็นระบบ และข้อมูลจะกลายเป็นสารสนเทศที่ทรงคุณค่าก็เมื่อผ่านกระบวนการวิธีวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตามขั้นตอนกระบวนวิธีที่ถูกต้องเท่านั้น สำหรับในยุคที่เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเจริญก้าวหน้านี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า เครื่องมือ หรือเทคโนโลยี เหล่านี้มีคุณค่ามหาศาลในการให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีสารสนเทศในกระแสโลกาภิวัตน์ที่แพร่หลายมาในรูปแบบต่างๆ กัน ทำให้ข้อมูลมหาศาลเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนดาบสองคม หากเป็นข้อมูลที่ดีมีประโยชน์เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ ก็สามารถที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้แก่โลกได้ต่อไป ในทางตรงกันข้าม หากข้อมูลที่เผยแพร่ไปนั้น เป็นข้อมูลที่บิดเบือน หรือ เป็นโทษ หากผู้รับเสพรับข้อมูลโดยขาดวิจารณญาณ ญาณปัญญาในการพิจารณาคัดสรรส่วนที่เหมาะแก่ตนแล้ว ก็จะเป็นภัยต่อตน สังคม และประเทศชาติได้ ดังนั้น การที่จะได้ข้อมูลสารสนเทศที่ทรงคุณค่าได้นั้น จำเป็นที่จะต้องผ่านกระบวนการคิด วิเคราะห์ อย่างมีวิจารณญาญ หรือใช้การคิดพิจารณาอย่างแยบคาย (โยนิโสมนสิการ) ก่อน
รู้เรา คือ รู้อะไร เป็นอย่างไร ทำอย่างไร?
การรู้เรานับว่า เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ตาม การที่จะดำรงชีวิตให้มีคุณค่าและมีความสุขนั้น หากปราศจากการรู้จักตนแล้วก็จะห่างไกลความสุขที่แท้จริงออกมาทุกที การรู้เรา ก็คือ การรู้จักตัวเอง รู้ว่าเราเป็นใคร เราจะไปที่ไหน มีความต้องการอะไร อะไรคือเป้าหมายของชีวิต อะไรคือสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับตนเอง พิจารณาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อค้นหาตนเอง ไม่ง่ายนักที่จะหาตัวตนที่แท้จริงของตนเองได้เจอ เพราะ ความเปลี่ยนแปลงมันเกิดได้ทุกขณะ การค้นหาตนเองจึงอาจทำได้ยากสำหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งก็เหมือนกับการค้นหาอะไรสักอย่าง เราก็ต้องทุ่มเท แรงกายแรงใจ เต็มที่เพื่อที่จะค้นหามัน เช่นกันการค้นหาตนเองก็ต้องอาศัยการกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ระยะเวลา และความเพียรจะเป็นตัวพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ แต่อย่างไรก็ตามการเรียนรู้ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ขึ้นกับเหตุปัจจัยที่แต่ละคนได้กระทำมา แต่หากไม่มีจุดเริ่มต้น ก็ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด ผลลัพธ์จะได้มาเมื่อมีการกระทำเท่านั้น
สรุป อย่างไรก็ตาม เพียงต้องการจะแสดงให้เห็นว่าการใช้ชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์นี้ เราจำเป็นจะต้องอาศัยความรู้ หรือ ปัญญาเป็นฐานในการตัดสินใจ “รู้เขารู้เรา” เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่คาดการณ์ถึงและคาดการณ์ไม่ถึง หากเรามัวแต่ก้าวตามความเจริญก้าวหน้าเทคโนโลยีวัตถุ โดยไม่คำนึงถึงความเจริญก้าวหน้าของจิตวิญญาณและไม่ใช้ปัญญาประกอบการคิดพิจารณาแล้ว การดำรงชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์ก็คงจะเป็นชีวิตที่แสนโหดร้ายและอันตรายเป็นแน่แท้
ไม่มีความเห็น