การค้นพบหลักฐานการสร้างบ้านแปรงเมืองในสมัยรัชกาลที่ 1 นั้น เกิดขึ้นเมื่อทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต้องการที่จะสร้างอาคารธรรมศาสตร์ 60 ปี ก่อนการก่อสร้างอาคารได้มีการขุดค้นทางโบราณคดีปรับผืนดินในบริเวณดังกล่าว การดำเนินงานเริ่มตั่งแต่ เดือนมิถุนายน 2540 แล้วเสร็จเดือน สิงหาคม 2541
ในการขุดค้นครั้งนั้นได้พบหลักฐานทางโบราณคดีมากมาย ได้แก่ฐานกำแพงพระนครสมัยสร้างเมืองในรัชกาลที่ 1 ฝั่งด้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ปืนใหญ่ 1 กระบอก ลูกปืนใหญ่ 12 ลูก และเศษจานชามกระเบื้องมากมาย
จากการค้นพบในครั้งนั้น ประกอบกับเอกสารที่มีการบันทึกเอาไว้ทำให้ทราบว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ขึ้นครองราชย์เป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ในพ.ศ. 2325 ในปีถัดมาพระองศ์ทรงโปรดให้สร้าง พระนครใหม่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ทรงให้มีการขุดลองรอบกรุงแล้วก่อสร้างกำแพงล้อมรอบตามแนวคลองดังกล่าว และให้สร้างป้อมปราการตามแนวกำแพงเมือง 14 ป้อม แต่ละป้อมห่างกัน 400 เมตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อยู่ระหว่างป้อมพระจันทร์กับป้อมพระอาทิตย์ ปัจจุบันทั้งสองป้อมได้ถูกรื้อไปแล้ว
กำแพงเมืองรอบกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบันแทบจะไม่มีให้เห็นอีกแล้วเพราะถูกรื้อทำเป็นตึกรามบ้านช่องกันหมด ที่จะเห็นเป็นเพียงรากฐานตามบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และในบางจุดที่มีแต่เพียงช่วงสั้น ๆ รอบพระนครเท่านั้น ส่วนปืนใหญ่กับลูกปืน 12 ลูกที่ทำการขุดค้นพบนั้น ปัจจุบันตั่งว์อยู่ที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั่นเอง
ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นคนที่สนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ รู้สึกเสียดายกำแพงเมืองและป้อมปราการต่าง ๆ อย่างมาก ไม่ใช่เฉพาะในเมืองหลวง แต่ยังมีอีกหลายที่ในประเทศไทย ยังดีที่เชียงใหฒ่ยังอนุรักษ์กำแพงเมืองของเขาเอาไว้ได้ ถือว่าเป็นที่เชิดหน้าชูตาได้ เพราะในประเทศทางแถบยุโรปและประเทศต่าง ๆ ในโลก เขาจะมีการอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างเหล่านี้เอาไว้ และผมพลอยได้ก็คือเงินตราที่จะไหลเข้ามาในเชิงท่องเที่ยว และสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์นั้นคนในประเทศเขาจะมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก เสียดายที่คนไทยรู้ถึงคุณค่าในสิ่งของเหล่านี้น้อยยิ่งนัก กว่าจะรู้ว่าแค่เศกำแพงเมืองหรือเศษอิฐเก่า ๆ ว่าเป็นของมีค่า เราก็ได้ทำลายสิ่งเหล่านี้ไปเสียแล้ว
ที่มา : 100 มุมมองใหม่กรุงเทพ
โดย : กรุงเทพมหานคร
เรียบเรียง : วาทิน ศานติ์ สันติ
ไม่มีความเห็น