13 : ปัญหาแทรกแซงใจ



ปัญหาแทรกแซงใจ


มาถึงตอนนี้ ก็ปรากฏปัญหาเข้ามาแทรกแซงความไหลต่อเนื่องแห่งเนื้อเรื่องอีกมากว่า

1.) ในขณะที่กัปป์ถูกทำลายนั้น การทำลายในเบื้องบนเป็นไปสูงถึงเทพเหล่าอัปปมาณาภาอันเป็นพรหมชั้นต่ำถัดจากอาภัสสราลงมา  แล้วการทำลายลงเบื้องล่างนั้น เป็นไปถึงไหน?  พวกเหล่าอสุรกาย เปรต นรกเหล่านี้เป็นอยู่อย่างไร?   ปัญหานี้ก็ตอบยาก เพราะผู้เขียนไม่รู้ว่า อายุขัยของสัตว์ในแต่ละภพภูมิเหล่านั้นมีอยู่มากน้อยเท่าใด จึงไม่อาจลงใจจินตนาการได้   จินตนาการนั้นต้องได้อาศัยสุตตะเป็นฐานอย่างนี้ มิอาจละสุตตะเลย  แต่ก็จะโมเมตอบไปในภายหลัง เพราะว่า จะบรรยายเรื่องลำดับความเจริญความเสื่อมของมนุษย์ให้ครบรอบกัปป์ไปเสียก่อน   ต่อแต่นั้นจึงสรุปลงมานิยามคำว่ากัปป์ แล้วคำนวณตัวเลขคำว่ากัปป์นี้ว่า ประมาณกี่ปีหากคำนวณตามอุปมา  ทั้งยังจะให้สติผู้อ่านรำลึกถึงกฎแห่งความไม่เที่ยงไม่แน่นอนไว้ด้วย  และทุกสิ่งที่คำนวณออกมา อาศัยอินพุทที่มีความแม่นยำไม่มากเลย     ก็เป็นอันว่าเชื่อถือไม่ได้  แต่คำนวณไปก่อน พอเป็นแนวทางพิจารณาสืบกัน   และเขียนออกมาให้อ่านเป็นนิยายทางพุทธวิทยาศาสตร์

2.) แล้วการปรากฏดวงอาทิตย์เจ็ดดวงนั้นจะปรากฏในจักรวาลอย่างไร ปรากฏในตำแหน่งไหนของจักรวาล กล่าวรวมๆก็คือว่า อยากทราบลักษณะอาการของดวงอาทิตย์เจ็ดดวงนั้น  เหตุเกิดดวงอาทิตย์เจ็ดดวงนั้น เหตุให้ดวงอาทิตย์เจ็ดดวงนั้นตั้งอยู่ และเหตุให้ดวงอาทิตย์เจ็ดดวงเหล่านั้นดับไป?

3.) แล้วอาณาเขตของจักรวาลหนึ่งๆนั้น มันกว้างใหญ่ไพศาลแค่ไหน  มันกินอาณาเขตครอบทั้งแกแล็กซี่หรือไม่?

4.) แล้วพวกดาวแดงยักษ์ ดาวแคระขาว ดาวนิวตรอน หลุมดำ เหล่านี้มีความเป็นไปได้ที่จะมีอยู่จริงในอวกาศ ในแกแล็กซี่ต่างๆไหม?

5.) เหตุเกิดของแกแล็กซี่ เหตุที่แกแล็กซี่ตั้งอยู่ เหตุที่แกแล็กซี่ดับไป  อาการเกิด อาการตั้งอยู่ อาการดับไปของแกแล็กซี่เป็นอย่างไร?

6.) แถบจักรวาลที่เอื้อต่อการปรากฏเป็นที่อาศัยของเหล่ามนุษย์ชมพูทวีปนี้ อยู่ในบริเวณใดของแกแล็กซี่  และในแกแล็กซี่หนึ่งๆ จะมีจักรวาลที่มีมนุษย์อาศัยอยู่มากน้อยเท่าใด?

7.) เมื่อแกแล็กซี่ดับไป  หมู่สัตว์ทุกๆจักรวาลในแกแล็กซี่นั้นจะดำรงอยู่ในสภาพไหน? จะสืบต่อภพได้อย่างไร การดับของแกแล็กซี่มีความกระเทือนต่อพวกมนุษย์ทุกจักรวาลภายในนั้นแน่ แต่ว่าแล้วสัตว์ในภพละเอียดทั้งหมด จะดำรงอยู่ได้ถึงไหน  ช่วงนั้นจะมีอายุขัยเป็นอย่างไร  จะมีการอพยพของหมู่สัตว์ข้ามแกแล็กซี่ไหม? แล้วอพยพไปด้วยอาศัยอะไรเป็นเหตุนำไป?

8.) ได้ยินมาว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติในมังคละจักรวาลเท่านั้น และในพุทธเขตคือหมื่นโลกธาตุ จะมีมังคละจักรวาลเพียงจักรวาลเดียว  แล้วในเมื่อแกแล็กซี่ทางช้างเผือกซึ่งมีมังคละจักรวาลในปัจจุบันนี้แตกดับไป  มังคละจักรวาลจะไปปรากฏอยู่ที่ไหนได้  อะไรเป็นเหตุ  แล้วความสืบต่อแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นไปต่อไปได้อย่างไร  ในเมื่อโลกธาตุนี้ล่มสลายลง?

ผมแค่ประมวลปัญหาในระดับกว้างใหญ่ขึ้นไปอีก มาเป็นตัวอย่างให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณากัน   โดยแท้แล้ว ปัญหาไม่ได้มีอยู่แค่นี้  ปัญหาข้อสงสัย มีมากมายกว่านี้เป็นเอนก

แล้วผมจะค่อยๆตอบปัญหาเหล่านี้ด้วยจินตนาการอันฟั่นเฝือ เพื่อให้ผู้อ่านได้อ่านเป็นนิทานสนุกๆ  นิทานเสริมจินตนาการเบิกวิสัยแห่งฤทธิ์และปัญญา   ส่วนว่า มันจะถูกต้องตามนั้นหรือไม่ อย่าได้ไปสนใจมันเลยนะครับ   เราจะรู้หรือไม่รู้ธรรมชาติของโลกธาตุ ของจักรวาลก็ตาม  มันก็ไม่ได้มีส่วนที่จะสามารถหยุดการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง
ของอนันตธาตุในโลกไปได้
  แต่ที่เรารู้ๆ พยายามพิจารณาปัญหาเหล่านี้ ก็เพราะเล็งเอาประโยชน์ในการขยายขอบเขตแห่งจิตตสิกขาและปัญญาสิกขา
ในส่วนพื้นฐานเท่านั้นเอง
 เพ่งที่ประโยชน์ไว้อย่างนี้ แล้วก็อย่าได้ทะเลาะวิวาทกัน
เพราะเหตุที่จะแก่งแย่งกันเป็นผู้ช่ำชองในการแถลงคารมว่า ฉันแสดงได้ถูกกว่าท่าน
มันแสดงได้ตรงกว่ากู หรือว่า เขาและเราเสมอกัน
อันนี้ไม่เกิดประโยชน์แก่สิกขาเลย  มีแต่จะพอกพูนกิเลสตัณหา พอกพูนอวิชชาไปเสียเปล่า อวิชชาจะพอกพูนหรือเบาบาง
มันอยู่ที่มนสิการเฉพาะหน้าอันนี้ จึงไม่พึงประมาทนะครับ
 

ผมจะได้สาธยาย ดำเนินเรื่องการเจริญและเสื่อมของพวกมนุษย์ให้ครบรอบ  แต่นั้นไปจะอธิบายคำว่ากัปป์

แล้วก็จะบรรยายจินตนการเรื่องการปรากฏของเขาสิเนรุ คือ ความเจริญ
ความตั้งอยู่ และความเสื่อมสูญของเขาสิเนรุ พร้อมด้วยหมู่สัตว์ที่เขาสิเนรุนั้น
 ทั้งจะได้จินตนาการถึงธรรมชาตินิสัยของสัตว์บางตำแหน่งในที่แห่งนั้น เป็นไปตามประสาจินตนการอันมีความฟั่นเฝืออยู่มาก 

พึงระลึกถ้อยคำที่ผมกล่าวเนืองๆนี้ว่า ฟั่นเฝืออยู่มากนะครับ จะได้ไม่คิดโต้เถียงเอาชนะผมด้วยความว่าผมแสดงธรรมฟั่นเฝือ  เพราะเนื้อแท้ เรื่องเหล่านี้ แม้แต่เทวดาและพรหม ทั้งพระอรหันต์ทั้งหลายก็รู้ได้ไม่ทั่วถึง   มีเฉพาะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยพลธรรม รู้ทั่วถึง
 ส่วนบุคคลนอกนั้น ธรรมที่แสดงเกี่ยวกับอนันตธาตุนี้ ล้วนมีความฟั่นเฝือเจืออยู่ไปตามส่วน  มากน้อยต่างกัน


หมายเลขบันทึก: 159694เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2008 00:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท