การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงของหอผู้ป่วย รวมทั้งศึกษาปัจจัยส่งเสริมและอุปสรรคต่อการพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงในโรงพยาบาลหาดใหญ่ จังหวัดสงลา กลุ่มตัวอย่าง คือ แบบบันทึกการเฝ้าระวังความเสี่ยงของหอผู้ป่วย 17 หอ จำนวน 136 ฉบับ และผู้ให้ข้อมูลหลักประกอบด้วย 1) พยาบาลวิชาชีพและพยาบาลเทคนิค เพื่อเก็บข้อมูลเชิงปริมาณจำนวน 160 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) คู่มือการบริหารความเสี่ยง 2) แผนการดูแลผู้ป่วย 3) แบบบันทึกการเฝ้าระวังความเสี่ยง 4) แบบสอบถามความคิดเห็นของบุคลากรทางการพยาบาลเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยง กระบวนการศึกษาเริ่มจากการศึกษาสถานการณ์ วางแผน ปฏิบัติและสังเกต พร้อมเก็บรวบรวมข้อมูลสะท้อนการปฏิบัติและปรับปรุงแก้ไขโดยใช้กระบวนการวิจัยใน 3 วงจร ประกอบด้วย วงจรการกำหนดมาตรฐาน/แนวทางปฏิบัติ วงจรการปรับวิธีการที่เหมาะสมและพัฒนาคุณภาพงาน และวงจรระบบการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม การสัมภาษณ์เจาะลึก การสนทนากลุ่ม การสังเกตแบบมีส่วนร่วม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์โดยใช้ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการศึกษาพบว่า 1) การใช้คู่มือการบริหารความเสี่ยง และแผนการดูแลผู้ป่วยมีการปรับปรุงให้เหมาะสมทุกวงจร 2) อัตราการเกิดอุบัติการณ์ส่วนใหญ่ลดลง ได้แก่ การได้รับยา/สารน้ำ/เลือดผอด การให้การพยาบาลผอดคน การเกิดอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ การเกิดแผลกดทับระดับ 2-4 การกลับเข้ามารับการรักษาซ้ำในโรงพยาบาลโดยไม่ได้วางแผน การเกิดข้อร้องเรียน และการติดเชื้อในโรงพยาบาล ส่วนอุบัติการณ์ที่ไม่ลดลง ได้แก่ การหนีกลับ และการตกเตียง/ลื่นล้ม 3) บุคลากรพยาบาลมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงก่อนและหลังการศึกษา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .001 4) ปัจจัยส่งเสริม ได้แก่ ภาวะผู้นำทางการพยาบาล ความร่วมมือของบุคลากรในองค์กร การบริหารแบบกระจายอำนาจ บทบาทของผู้บริหารทางการพยาบาลในการวางระบบ ให้การสนับสนุนการบริหารความเสี่ยงของหอผู้ป่วย ส่วนปัจจัยที่เป็นอุปสรรค ได้แก่ จำนวนผู้ป่วยมากและระดับของความเจ็บป่วย ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม และทัศนคติของบุคลากรต่อการรายงานอุบัติการณ์ กลยุทธ์หลักที่ใช้ คือ 1) การทำงานเป็นทีม 2) การประชุมปรึกษาและให้ความรู้ 3) การจัดระบบสนับสนุน 4) การสร้างความเชื่อถือ 5) การพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความเห็น