จะทำอย่างไรให้คุณ ๆ ลูกศิษย์คิดเป็น


คิดได้ คิดเป็น

.....เมื่อเข้ามาที่มุมเล็ก ๆ หลังห้องเรียนทีไร ก้เหมือนได้มาผ่อนคลายหรือได้ระบายความรู้สึก อยากรู้จัง.....ว่าใครเป็นคุณครูที่ต่อมเครียดไม่เคยทำงานบ้างนะ

มีคำถาม 1 คำถาม ที่จะแปะไว้หลังห้องวันนี้  

                      มีวิธีใดบ้างที่จะทำให้ผู้เรียน คิดเป็น     

เผื่อว่าจะมีแนวความคิดที่หลากหลาย ให้ดิฉันได้นำไปใช้กับคุณ ๆ ลูกศิษย์

ลองเข้าไปศึกษากับคำว่า "คิดเป็น" ของนักวิชาการหลาย ๆ ท่านมาแล้ว การคิดเป็นจะเกิดขึ้นได้ต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ

  1. มีความรู้ด้านวิชาการ
  2. มีความรู้เกี่ยวกับสังคมและสิ่งแวดล้อม
  3. มีความรู้เกี่ยวกับตนเอง

คุณครูก็เลยต้องแอบวิเคราะห์คุณ ๆ ลูกศิษย์เพื่อค้นหาองค์ประกอบที่ขาดหายไปจากตัวคุณลูกศิษย์ จะได้เติมเต็มและสร้างชนวนความคิดเป็นให้คุณ ๆ ลูกศิษย์ใช้จุดประกายความคิดเป็นด้วยตนเองในการเรียนรู้และการทำงานในอนาคตต่อไป

สิ่งที่คุณครูแอบเห็นตอนนี้ก็คือ.....คุณลูกศิษย์ที่คิดไม่เป็น ส่วนใหญ่จะไม่เอาใจใส่ต่อการเรียนรู้ นั่นก็หมายถึงขาดองค์ประกอบในเรื่องความรู้ด้านวิชาการ

ไม่ชอบการศึกษาค้นคว้า ไม่สนใจอ่านข่าวหนังสือพิมพ์หรือดูข่าวทีวี ไม่ชอบอ่านหนังสือหรือตำราในห้องสมุด ไม่ชอบสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต (on M อย่างเดียว )

ติดเพื่อนหรือติดแฟน ก็เลยทำให้ไม่มีโอกาสมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่คิดอะไรที่เกี่ยวกับตัวเอง เช่น การศึกษาต่อ การทำงานในอนาคต ก็เลยทำให้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับตัวเอง

ยุทธวิธีสร้างชนวนความคิดของคุณครูอย่างดิฉันก็เริ่มต้น โดยการ

  • ซักถามเป็นรายบุคคล (แบบสุ่มจี้)
  • ทดสอบทุกครั้งเมื่อเรียนจบบทเรียน ทีแรก ก็บอกก่อนล่วงหน้า หลัง ๆ เริ่มแบบบอกก่อนบ้างไม่บอกก่อนบ้าง ทดสอบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
  • การมอบงานต้องบูรณาการสังคมและสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับเนื้อหารายวิชาที่สอน
  • มอบหมายงานให้ศึกษาค้นคว้าแบบรายบุคคลและนำเสนอแบบสุ่มเรียกเพื่อให้ได้โอกาสแสดงความสามารถและแสดงความคิดเห็นส่วนตัว
  • ให้เขียนหรือเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นประเด็นร้อนหรือเหตุการณ์ปัจจุบันบ่อย ๆ

พฤติกรรมการเรียนรู้ของคุณ ๆ ลูกศิษย์เปลี่ยนไป สิ่งที่เห็นได้ชัด คือความเอาใจใส่และตั้งใจเรียนรู้มากขึ้น (ระวังตัวเพราะคงจะกลัวคุณครูเรียกตอบ คุณลูกศิษย์เลยต้องอ่านมาก่อน เรียนรู้มาก่อน) แสดงว่าคุณลูกศิษย์เริ่มจะมีความรู้ด้านวิชาการเพิ่มขึ้น

สิ่งที่ตามมาอีกอย่างหนึ่งก็คือคิดคำตอบเร็วขึ้น คิดเชื่อมโยงความรู้ไปหาสังคมและสิ่งแวดล้อมได้บ้าง คิดถึงสิ่งที่ตนเองจะต้องทำและคิดสร้างสรรค์ผลงานของตนเองด้วยตนเองได้

ซึ่งอย่างน้อยดิฉันก็ดีใจที่คุณ ๆ ลูกศิษย์คิดได้ด้วยตัวเองบ้าง แม้จะต้องช่วยพิจารณาและให้แนวทางของชนวนความคิดที่เริ่มจะยาวออกมาจากเดิม  ว่าจะสามารถจุดติดเป็นประกายได้หรือไม่ได้ก็ตาม

 

 

หมายเลขบันทึก: 158998เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2008 12:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
สวัสดีค่ะ อ. ภณิชญา ชมสุวรรณ ต้องสอนโดยใช้ความรัก และอาศัยความรุ้สึก ความเข้าใจ ค่อยๆบ่มเพาะให้ศิษย์ค่ะ เชื่อว่าศิษยืจะต้องคิดเป็นค่ะ ด้วยความเคารพค่ะ

สวัสดีครับ อาจารย์ ภณิชญา

  • เด็กขาดเป้าหมายของการเรียนว่า เรียนไปเพื่ออะไร เรียนไปทำไม ไงครับ
  • ถ้าเด็กทราบเป้าหมายของตัวเอง เขาจะทราบเองว่า เขาต้องทำอย่างไร โดยให้อาจารย์คอยให้คำปรึกษา
  • แต่ถ้าเด็กไม่ทราบเป้าหมายของตัวเอง ไม่ว่าอาจารย์จะเอาอะไรมาฉุด ก็คงไม่สำเร็จแน่นอนครับ
  • กลายเป็นว่า ทำยังไงก็ได้ให้จบ โกงก็จบ
  • เดี๋ยวนี้มันเป็นเช่นนั้นครับ

ขอบคุณครับ :)

 

เป็น"กัลญานมิตร" ครับ เป็น ทั้ง แม่ เป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษา ฯลฯ

ปล.บังเอิญอ่านเจอข้างฝาอาคารเรียนหนังหนึ่ง โรงเรียนหลังหนึ่ง

          "ลูกใครไม่สำคัญ ศิษย์ของฉันนั้นคือลูก"

บางครั้งก็เป็นทุกอย่างแล้ว....เลือดครูเต็มตัว...เพราะการเป็นครูมากว่า 20 ปี

แต่ลูกศิษย์ก็ยังคิดไม่เป็น...

เพราะลูกศิษย์..ไม่เป็นอย่างที่ครูคิด ก็มีค่ะ

แต่อย่างไร..ซักวันหนึ่ง

ชีวิต...จะทำให้คนเราคิดเป็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท