ได้มีโอกาสนั่งทบทวนเหตุการณ์..เมื่อสองสามวันที่ผ่านมา..ก็เกิดความคิด และความรู้สึกหลายๆ อย่างผสมปนเป กันไป กับภาระกิจหน้าที่ของความเป็นพ่อคน ก็แน่หละ..ต้องเป็นพ่อคนอยู่แล้ว (ไม่ใช่พ่อลิงแน่นอน) แต่พอดีมีลูกที่มีลักษณะนิสัย ที่คล้ายลิง...5 5 5 5 คือเป็นประเภทอยากรู้ อยากเห็น อยากทำในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยทำ ถ้าคิดอีกแง่หนึ่งก็ดีนะ..จะได้ประสบการณ์ดี แต่ในบางครั้ง ในความที่ไม่เคยรู้ และ ไม่เคยเห็นของเด็ก..ก็ทำให้เป็นเสมือนดาบสองคมเหมือนกัน.?
ก็..เจ้าลูกชายตัวดี ของผมอีกนั่นแหละ...ที่เคยเล่าให้ฟัง ถึง..วีรกรรมหลายๆ อย่าง ที่เค้าได้ทำลงไป และ ในครั้งนี้อีกเช่นกัน ก็มีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกจนได้ นะครับ ...
เคยสังเกตุไม๊ครับ...กับอากัปกริยาของลูกเรา..
...""เล่นเกมส์ ที่บ้านก็ได้นะลูก"" ก็เป็นสิ่งที่ผมได้พยายามบอกลูกผมเสมอ แต่ ก็สังเกตุเห็นได้ว่า ลูกชายจะไม่ค่อยรู้สึกสนุกเท่าไร...เล่นก็ประเดี๋ยวประด๋าว...เหมือนจำใจ เล่นไปอย่างนั้นแหละ (อันที่จริงแล้ว ผมก็ สัมผัสได้ว่า ตัวเค้าเอง อยากเล่นมาก ...แต่..ทำไมเค้า..ถึงเล่นไม่สนุก..ก็ไม่รู้นะ..?)
แต่....ย้ำนะครับ..ว่า..แต่...ครั้งใด เมื่อผมอนุญาต ให้ไปเล่นที่ร้าน.โอ้ โห...ตื่นเต้น..มาก..แทบอยากจะบึ่งไปตอนนั้นเลย...
เมื่อสองสามวันที่แล้ว..ก็สังเกตุเห็นได้ว่า..ดู เค้ารู้สึกไปเล่นเกมส์ที่ร้านแล้วกลับมาดู หงอยๆ พิกล.....ก็พยายามถาม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ...
เรื่องมาแดง..ก็ตรงที่..แม่เค้า..ได้สอบถามถึงสาระทุกข์สุกดิบ ไปโรงเรียนได้กินอะไรบ้าง ใช้จ่ายไปเท่าไร ยังไง..ด้วยความปรารถนาดี กลัวว่าลูกจะกินไม่อิ่ม เงินไม่พอ อะไรทำนองนี้ แต่ลูกตอบไม่ค่อยเคลีร์ย แม่ก็เลยขอดูกระเป๋าสตางค์ โอ้ย..เจ้าลูกชาย..หน้าถึงกับถอดสีเลย รุกรี้รุกรน ( ขอเท้าความนิดนึงนะครับ เจ้าลูกชายผม ในช่วงวันหยุดก็จะแม่ของเค้า ที่ร้านฯ ซึ่งเป็นร้านขายข้าวขาหมูและอาหารตามสั่ง เค้าก็ช่วยเก็บร้าน ล้างจาน และช่วยจิปาถะ แม่เค้าก็ให้เงิน ค่าแรง 100 บ้างในช่วงวันหยุด หรือ20 -40 บ้าง ในช่วงเลิกเรียน) ก็สนน รวมเงินในกระเป๋าของเค้า เมื่อสองสามวันที่แล้ว ก็รวมแล้วประมาณ 500 -600 บาท ทางแม่เค้าก็คิดว่าน่าจะคงยังเหลืออยู่ใกล้เคียงประมาณนั้น คงไม่ต่างไปเท่าไหร่...แต่เจ้าลูกชาย เมื่อแม่ถามหากระเป๋าสตางค์ นอกจากหน้าถอดสี แล้ว แหม่?ยังหาไม่เจอซะอีก...ทำเป็นหาแถวข้างทีวีบ้าง ข้างเบาะบ้าง แม้กระทั่งไปพลิกหา แถวใต้หนังสือ สมุด ผมก็แอบขำในใจ..เพราะโดยปกติแล้วเค้าจะพกติดตัวตลอด อาการอย่างนี้ส่อพิรุธ แน่นอน...ผมต้องใช้ไม้ตาย..ถ้าไม่เจอในเวลา นับ 1 -10 จะโดนทำโทษหนัก...แหม่! ปล่อยให้ผมนับไปถึง 9 แนะ ถึงจะยอมเอาออกมา...
พระเจ้าช่วย...Oh my God! เงินไม่เหลือแม้แต่สะตางค์แดงเดียว..4 ห้าร้อย หายเกลี้ยง...
คาดคั้น..ไปก็ได้ใจความว่า..เอาเงินไปซื้อบัตรเติมเงิน เล่นเกมส์ SF อะไรนี่แหละ..เป็นเกมส์ออนไลท์ เล่นไป 1 ชั่วโมง ซื้ออาวุธ หลากชนิด ซ่อมอาวุธ ก็ต้องใช้เงินในเกมส์ทั้งน้าน...1 ชั่วโมงผ่านไป เงิน 500 ก็หายเกลี้ยง...(เงินจริงๆ นะครับ ไม่ใช่เงินในเกมส์) ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอกครับ เรื่องอย่างนี้...ก็งง ๆ อยู่พอสมควร..
ก็ได้พยายพูดคุย..กับลูก ทำโทษพอประมาณ ในฐานที่เค้าไม่เห็นคุณค่าของเงิน...ก็พยายามอธิบายเหตุผล ให้เค้าด้วย ก็ดูแล้วเค้าก็เริ่มผ่อนคลายลง และเริ่มร้องไห้..สำนึกผิด
ผมก็ได้บอกลูกว่า.."พ่อขอโทษนะ ที่พ่อไม่ได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาที่ดีของลูก....ทำให้ลูกต้องลองผิด ลองถูกเอง..มีเพื่อนเป็นที่ปรึกษา...." ซึ่งก็สัญญากัน ว่า เราพ่อลูก พร้อมที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง...เราให้สัญญา กัน...
ซึ่งผมก็คาดหวังไว้นะครับว่า...ถ้ามีพี่น้องเวปเรามีข้อคิด ที่จะแนะนำผมในเรื่อง เด็ก กับ เกมส์ ผมยินดีรับคำแนะนำ ครับ เพราะผมค่อนข้างเป็นห่วงลูกผมนะครับ ว่าเค้าอาจจะติดใจในรสชาดของเกมส์หรือเปล่า แล้วเค้าจะแอบไปเล่น ในที่ๆ ผมไม่รู้ ...ผมอยากได้คำแนะนำครับ เพื่อที่จะรับมือกับพฤติกรรม ของลูกชายผมครับ...ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ
สวัสดีครับ
เด็กเล่นเกมส์ที่บ้านไม่สนุกเท่าเล่นที่ร้าน เพราะเวลาเล่นที่ร้านเขามีเพื่อน เกมส์บางเกมส์เขาเล่นแบ่งฝ่ายกับพวกอื่น พวกที่อยู่ในร้านก็เป็นพวกหนึ่ง มีการกำหนดว่าใครเป็นหัวหน้า และเวลาจะตลุมบอนกับฝ่ายตรงข้ามก็ต้องสรรหาอาวุธมาสู้กัน ถ้าของเพื่อนมีอาวุธดีๆเราไม่มีก็สู้เขาไม่ได้ จึงต้องซื้อในเกมส์ สมมุติว่าต้องซื้ออาวุธเป็นเงิน ๔,๙๐๐ เหรียญ ก็จะจ่ายเงินจริง ๔๙ บาท
การให้ลูกเล่นเกมส์เล่นได้แต่ควรกำหนดประเภทของเกมส์ ให้เล่นเกมส์ประเภทใช้ความคิด วางแผน อย่าให้เล่นเกมส์ประเภทยิงฆ่าตัดคอ เพราะจะทำให้เด็กก้าวร้าวครับ
ขอบคุณครับ..ท่าน "อัยการ" หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น ผมก็พยายาม..ทำความรู้จักกับเจ้าเกมส์นี้มากขึ้น และก็พยายามทำความเข้าใจ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่...
ท่านครับ..หลังจากนั้น จะสังเกตุได้ว่า เขาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครับ เมื่อเค้าอยากเล่นเกมส์ ก็บอกและขออนุญาติผม และในบางครั้งผมก็ได้ไปกับเค้าด้วย ในช่วงเวลาประมาณหนึ่งชม.ที่อยู่ด้วยกัน ผมพบว่ายังมีอีกหลายมุมมอง ..ที่ผมยังไม่เคยสังเกตุลูกชาย..แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้น ก็คือ...ลูกชายของผม กล้าที่จะไว้ใจผมได้มากขึ้น กล้าที่จะปรึกษามากขึ้น ผมก็ได้แนะนำ วิธีการเล่น โดยที่ไม่ต้อง..สูญเสียเงินทอง กับกับดักต่างๆ ในเกมส์ ...ก็ถือได้ว่า..ผมได้ใกล้ชิดลูกมากขึ้น และ ก็ดีใจนะครับ..ที่ได้มีโอกาส..ได้ศึกษา..ชีวิตของลูกมากขึ้นครับ