คู่รัก

อยู่ร่วมกันโดยเป็นสามีภรรยาสังคมเรียกว่าครองคู่

สรรพสิ่งในโลกนี้ยากที่จะเป็นสิ่งเดี่ยว ธรรมชาติสรรสร้างมาเป็นคู่ เช่น กลางคืนกับกลางวัน ความดีกับความชั่ว เป็นต้น คู่นั้นก็มีหลายประเภท เช่นคู่เหมือน คู่ต่าง คู่ตรงข้าม หญิงชายก็ถูกสร้างมาให้เป็นคู่กัน เมื่ออยู่ร่วมกันโดยเป็นสามีภรรยาสังคมเรียกว่าครองคู่ เรียกฝ่ายตรงข้ามว่าคู่ครอง หมายถึงสามีหรือภรรยา และสามีหรือภรรยาในโลกนี้ผู้รู้แบ่งออกไว้ 7 ประเภท คือ

1. สามีหรือภรรยาที่เป็นเสมือนเพ็ชรฆาต มีจิตใจอำมหิต ตบตี แช่งด่า เข่นฆ่ากันและกัน แม้ขณะอยู่ครองคู่กันก็ไม่มีความสุขต้องคอยระวังและหวาดระแวงซึ่งกันและกัน ชิงไหวชิงพริบเพื่อเอาเปรียบกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่สามารถที่จะร้างลาหย่าขาดจากกันได้ อยู่ร่วมกันไปแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตายลงก่อนการอันควรด้วยสาเหตุของอีกฝ่าย หากเป็นฝ่ายหญิงก็จะเรียกว่าคนกินผัว ถ้าเป็นฝ่ายชายก็จะเรียกว่าคนกินเมีย จัดเป็นคู่เวรคู่กรรม

2. สามีหรือภรรยาที่เป็นเสมือนโจร ชอบผลาญทรัพย์ของกันและกัน โดยขโมย ยักยอก หลอกลวงทรัพย์เพื่อความสุขส่วนตนไม่สนใจคู่ครองของตน สร้างหนี้สินให้อีกฝ่ายตามชดใช้แทน ทรัพย์สมบัติต้องลดลงและหมดไปด้วยเหตุของอีกฝ่ายหนึ่ง จัดเป็นคู่ล้างคู่ผลาญ

3. สามีหรือภรรยาที่เป็นเสมือนนาย ชอบแสดงตัวเหนือกว่าอีกฝ่าย ใช้อำนาจกับคู่ครองของตนให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้อยู่เรื่อย ให้คนอื่นเห็นว่าคู่ครองของตนนั้นอยู่ในโอวาท เหมือนลูกไก่ในกำมือ จะชี้จะใช้จะทำอะไรก็ได้ เช่นใช้ซักผ้า กวาดบ้านถูบ้าน ล้างถ้วยชาม เป็นต้น หากไม่ทำตามที่ใช้ ก็จะข่มขู่นานาประการ ขอใช้คำที่แสดงลักษณะอาการด้วยคำเหล่านี้ คือ ควบคุม บังคับ ข่มและขู่ จึงจัดเป็นคู่ข่มคู่ขู่

4. สามีหรือภรรยาที่เป็นเสมือนพ่อแม่ มีความรักความเมตตาต่อกันและกันอย่างไม่มีสิ้นสุด เหมือนพ่อแม่รักลูก แม้คู่ครองของตนเองจะตกต่ำ เจ็บป่วย หรือพิการตลอดชีวิตก็ไม่ทอดทิ้ง คอยดูแลเอาใจใส่อย่างดี ไม่พูดและกระทำสิ่งที่ก่อให้เกิดความสะเทือนใจต่อคู่ครองของตน รักษาน้ำใจ คอยให้กำลังใจ จัดเป็นคู่สร้างคู่สม

5. สามีหรือภรรยาที่เป็นเสมือนน้อง ค่อนข้างเอาแต่ใจตนเอง ทั้งซน ทั้งงอน ทั้งขี้เล่น ขี้ยั่ว และขี้แย ต้องทั้งขู่ทั้งปลอบ ขัดใจกันบ้าง แต่ก็มีความเกรงใจอยู่ในที คือรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา น่ารักน่าเอ็นดู มีความรักยั่งยืน จัดเป็นคู่รักคู่รส

6. สามีหรือภรรยาที่เป็นเสมือนเพื่อน รสนิยม ความชอบเหมือนกัน ถูกคอกัน ไปไหนไปกัน ถึงไหนถึงกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แต่มีความทะนงตัวโดยถือว่าเสมอกัน หากฝ่ายตรงข้ามขาดเหตุผลก็ไม่ยอมกัน ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ดีกันอยู่กันได้ จัดเป็นคู่ชื่นคู่ชม

7. สามีหรือภรรยาที่เป็นเสมือนคนใช้ คอยรับใช้เชื่อฟังตลอด บอกให้ทำสิ่งใดก็ได้ พร้อมที่จะบริการ แม้จะขัดกับความรู้สึกของตนก็ตาม อีกฝ่ายจะดุด่า ขู่ตะคอก ตบตี ก็ไม่ตอบโต้ต่อล้อต่อเถียง กลัว ไม่กล้าแสดงความโกรธออกมา อดทนได้ อยู่ในอำนาจ หากมีอะไรมากก็จะเก็บตัวปิดห้องร้องไห้ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ จัดเป็นคู่ทุกข์คู่ยาก

เขียนใน GotoKnow โดย ไฉน
ใน เพิงชุมพวง

คำสำคัญ (Tags): #คู่ครอง#คู่รัก#สามีภรรยา

หมายเลขบันทึก: 157959เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2008 16:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 22:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (8)

yoursister

เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2008 16:44 น. ()

สวัสดีค่ะ เอ๋ๆๆๆ มาแปลกๆๆนะค่ะวันนี้ มาเรื่องคู่ๆ มีอารายอ่ะเปล่าค้า

ไฉน

เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2008 16:55 น. ()

สวัสดีครับ คุณyoursister

ให้คติสำหรับคนมีคู่งัยครับ

จากคนเกือบมีคู่นะ อิ อิ

ชาวดิน

เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2008 18:37 น. ()

เศร้าจัง......ข้อ1 ถึง 3 มีเกือบครบในคนคนเดียวที่เจอ...นี่หรือคู่รัก.....ทั้งที่เริ่มรักไม่ได้เป็นเช่นนี้ แสงสี อำนาจ...ทำให้เกิดความโลภและหลง...จนไม่อาจหยิบยกเอาคุณธรรมข้อใดมาเหนี่ยวรั้งไว้ได้แม้จะพยายามอย่างที่สุดแล้ว...อ่อนล้า...แต่ก็ต้องอดทน..วันหนึ่งอ่านพบการตอบปัญหาของแม่ชีรูปหนึ่งท่านชี้ทางสว่างให้...และวิเคราะห์ว่า...ผู้ชายอย่างนี้เหมือนข้าวเน่า...ต่อให้พยายามนำมาแก้ไขทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้นได้ เมื่อประคับประคองเต็มที่เพื่อให้มีความรักอยู่ตรงนั้นแล้วยังไม่ได้ ก็ทิ้งมันไป บัดนี้สิ้นสุดการต้องทนครองคู่...รู้สึกเป็นอิสระและนึกชมความกล้าหาญของตัวเอง...ที่กล้าข้ามสีทันดร...แต่จะพ้นหรือไม่.....ไม่รู้...แต่รู้ว่าทุกข์จากการพลัดพรากนั้นทรมานสาหัส.....แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร...ได้แต่คิดและปลอบใจตัวเองว่า...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม