ฉันพยายามสอบถามตนเองตลอดเวลาว่า
ถึงตอนนี้ได้อะไรบ้างจากการมาเรียนต่อในระดับปริญญาเอก?
ฉันคาดหวังว่าจะได้รับอะไรบ้าง ก่อนที่จะตัดสินใจมาเรียนที่นี่?
ฉันได้ค้นพบว่า สิ่งที่ฉันคาดหวังว่าจะได้รับนั้น ฉันต้องใช้เวลาเพื่อค้นหามันด้วยตัวเอง
การที่ได้มีโอกาสลาศึกษาต่อเต็มเวลา จะทำให้ฉันได้มีเวลาสำหรับการคิดค้น และศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่อยากรู้นั้นได้มากขึ้น สิ่งนี้ทำให้ฉันเห็นคุณค่าของเวลาเป็นอย่างมาก “เวลาเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก เวลาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถซื้อขายกันได้ เวลาผ่านไปแล้วผ่านไปเลย เราไม่สามารถที่จะเรียกร้อง ขอต่อเวลา หรือ ขอแก้ไขเวลาที่ผ่านมาได้ สิ่งที่ทำได้คือ ทำเวลา ณ ปัจจุบันให้ดีที่สุด พร้อมทั้งวางแผนที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้เกิดคุณค่าแก่ตนเองได้เท่านั้น”
จากประสบการณ์ที่ฉันได้มาเรียนต่อ ณ ปัจจุบันผ่านไปแล้ว 1 เทอมกว่าๆ โดยที่ยังไม่ทราบว่าผลการเรียนของภาคเรียนที่ผ่านมาได้เกรดอะไร แต่นั่นคงไม่ใช่สิ่งสำคัญไปกว่า ฉันได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม สิ่งที่ฉันมาหา ณ ที่นี่ ฉันได้ตามที่คาดหวังหรือยัง??
เทอมทีแล้ว ลงทะเบียนเรียน 2 วิชา โดยเข้าชั้นเรียนเพียงวันเดียว ซึ่งสำหรับฉันมันเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะว่า ในชั้นเรียนเราจะสามารถได้รับแนวคิดใหม่ๆ เพิ่มเติม และ เวลาที่เหลือจะได้ใช้ศึกษาค้นคว้าในสิ่งที่เป็นตัวตน ที่เราต้องการจะรู้จริงๆ ในเรื่องนั้นๆ แต่ว่าที่ผ่านมาฉันก็ยังไม่ได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้ได้เกิดประโยชน์เต็มที่ตามที่คาดหวัง อาจจะด้วยปัจจัยภายนอกหลากหลายประการ แต่ที่สำคัญคือ ปัจจัยภายในของฉันเองล่ะ ที่มีความพยายาม ความขยันหมั่นเพียรน้อยไปหน่อย จึงทำให้ระยะเวลาที่ผ่านมาตอบไม่ได้เลยความได้ความรู้อะไรเพิ่มขึ้นมา แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฉันได้รับในการลาศึกษาต่อครั้งนี้ในหนึ่งภาคเรียนที่ฉันรู้สึกว่า มันมีค่ามากกว่าความรู้ นั่นคือ ฉันได้เรียนรู้ชีวิต ได้เรียนรู้เรื่องการอยู่ร่วมกัน ได้เรียนรู้ถึงปัญหาอุปสรรค ได้เรียนรู้ข้อคิดในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้เรียนรู้การฝึกตนให้เป็นคนที่มีจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้น การที่เราจะต้องมีจุดยืนของตนเอง แต่การมีจุดยืนไม่ได้หมายถึงว่า ไม่ปรับเปลี่ยน แต่หมายถึงว่าหากเรามีความเชื่อมั่นว่าเป้าหมายที่เราทำคือสิ่งที่ถูกต้องก็ให้มั่นใจและเดินไปในทางนั้น โดยไม่ต้องไปกังวลกับเสียงที่มากระทบจากภายนอก เพราะหากเรามัวแต่สนใจสิ่งภายนอก สิ่งภายในหรือเป้าหมายที่เราต้องการก็จะไม่สำเร็จ
ฉันเชื่อว่า “ทุกคนอยากเป็นคนดี” อยากเป็นคนดีตามความเชื่อและความคิดเห็นของตน ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ตนได้รับรู้มา ฉันก็เช่นเดียวกัน ฉันเป็นคนหนึ่งที่อยากเป็นคนดีตามประสบการณ์ที่ตัวเองได้รับรู้มา ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิดนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องตัดสิน เพราะการตัดสินนั้นมันเป็นเรื่องของอนาคต สิ่งที่ประสบมันจะตัดสินตัวมันเอง ไม่จำเป็นต้องไปใช้ความคิดไปวิพากวิจารณ์
วันนี้ได้หยิบหนังสือ การออกแบบการเรียนการสอนมาอ่าน ด้วยเหตุที่ตนเองถึงแม้ว่าจะเป็น “ครู” และมีประสบการณ์การสอนมา 7-8 ปี ก็ตาม แต่ก็ยังรู้สึกว่า ตนเองยังขาดความรู้เรื่องเทคนิคและวิธีการสอนที่ดี และยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเรียนการสอนสักเท่าไรนัก แต่คงจะมีเพียงใจ ใจที่รักที่จะสอนและให้ความรู้นักศึกษา ด้วยมุ่งหวังว่าเราจะช่วยเหลือลูกศิษย์ สร้างให้เขาเป็นคนดีมีความรู้ความสามารถที่จะนำไปใช้ในการช่วยเหลือตัวเองและพัฒนาสังคมได้
จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานที่วิทยาลัยพลศึกษาเมื่อปี 2542 ฉันได้เห็นเพื่อนซึ่งเรียนจบทางสาขาครู วิชาเอกคอมพิวเตอร์ศึกษา จากสถาบันราชภัฏเพชรบุรี เขาเป็นครูที่มีเทคนิคการสอนที่ดี ทำให้นักศึกษาเข้าใจง่าย (จากคำบอกกล่าวของศิษย์) และเมื่อฉันได้สนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเขา ก็ทำให้รู้ว่าเขามีกระบวนการคิดที่เป็นระบบ ทำเรื่องที่ยากให้เป็นเรื่องที่ง่ายได้ คุยแล้วจะสบายใจ ฉันจึงคิดไปว่าการที่เขาเรียนทางสาขาครู น่าจะมีส่วนในการขัดเกลากระบวนการคิดของเขา เพราะกระบวนการคิดมันเป็นสิ่งที่สร้างกันได้จากประสบการณ์ในการรับรู้ ดังนั้น ฉันจึงเชื่อว่าศาสตร์แห่งการสอน หรือ ความเป็นครู เป็นศาสตร์ที่มีคุณค่าต่อกระบวนการคิดที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาผู้ตนเองและผู้เรียน หากเราได้ศึกษาเรียนรู้อย่างจริงจัง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นอันหนึ่งที่ทำให้ฉันสนใจศาสตร์แห่งการสอน
เมื่อฉันได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ในสาขาการศึกษาวิทยาศาสตร์ (คอมพิวเตอร์) ซึ่งก็มีความเกี่ยวพันกับการสอน ก็เริ่มมีความคิดในเชิงการสอนวิทยาศาสตร์มากขึ้น และเมื่อได้มีโอกาสทำวิทยานิพนธ์ เรื่อง บทเรียนการสอนผ่านเว็บเรื่องอินเทอร์เน็ต จึงทำให้ตนเองได้มีโอกาสค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งค้นคว้าต่างๆ ทำให้ได้มีโอกาสไปศึกษาความรู้ประกอบการค้นคว้าจากสาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษามากมาย ทำให้ตัวเองได้เห็นว่า ศาสตร์แห่งเทคโนการศึกษานี้มันกว้าง และลึก มีอะไรในเราได้ค้นว้าเพื่อพัฒนาการศึกษาได้มากมาย และอีกประการหนึ่งจากที่ได้อ่านงานวิจัยของ ดร.ไพฑูรย์ ศรีฟ้า ซึ่งพัฒนาการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อโรงเรียนไทย และได้มีโอกาสขอคำแนะนำและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากท่าน ทำให้รู้สึกทึ่งและประทับใจมากในความรู้ ความคิดของท่าน จากจุดนี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันมีความสนใจที่จะเรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยีทางการศึกษา เมื่อมีโอกาสเรียนต่อจึงเลือกที่จะเรียนต่อในสาขาดังกล่าว และก็หวังว่าตนเองจะสามารถมาขัดเกลาความรู้และซึบซับความเป็นนักเทคโนโลยีการศึกษาที่มีคุณภาพจากคณาจารย์ หรือจากทุกท่านที่มีความรู้ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
“ฉันได้เรียนรู้ว่า แรงกระตุ้นจากการได้เห็นแบบอย่างของบุคคลที่เราชื่นชอบจะมีส่วนสำคัญในการเรียนรู้”
ด้วยรัก,