หัวข้อวิจัย
รายงานผลการพัฒนาทักษะการอ่าน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
เรื่อง การอ่านแจกลูกสะกดคำ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1
โรงเรียนบ้านสนามสามัคคี สโมสรโรตารี่
2
อำเภอขุขันธ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต
3
ที่เรียนโดยใช้ชุดฝึกผู้วิจัย
นางสมคิด
มงคลปีที่วิจัย
16 พฤษภาคม
- 31
ธันวาคม
2550 บทคัดย่อ วัตถุประสงค์ของการวิจัย1.
เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะการอ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
เรื่องการอ่านแจกลูกสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1 โรงเรียนบ้านสนามสามัคคี
สโมสรโรตารี่ 2
อำเภอขุขันธ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต
3
ปีการศึกษา 2550
ที่เรียนโดยใช้ชุดฝึก 2.
เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
เรื่องการอ่านแจกลูกสะกดคำ
ของเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรง1เรียนบ้านสนามสามัคคี สโมสรโรตารี่ 2
อำเภอขุขันธ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต
3
ปีการศึกษา
2550
ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึก3.
เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนวิชาภาษาไทย
เรื่องการอ่านแจกลูกสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
1 โรงเรียนบ้านสนามสามัคคี
สโมสรโรตารี่ 2
อำเภอขุขันธ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต
3 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา
2550
หลังเรียนโดยใช้ชุดฝึก
วิธีดำเนินการวิจัย
ใช้วิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงทดลอง
มีกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว
มีการสอบก่อนและหลังการทดลอง
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนบ้านสนามสามัคคี สโมสรโรตารี่
2 ปีการศึกษา
2550 จำนวน
28 คน
ซึ่งได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive
Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
ได้แก่ รายงานสภาพปัญหาการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในภาคเรียนที่
1/2550
ชุดฝึกทักษะการอ่านวิชาภาษาไทย
เรื่องการอ่านแจกลูกสะกดคำ
จำนวน 40
เรื่อง
แผนการจัดการเรียนรู้
เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นสำหรับใช้ในการวิจัย
จำนวน 40
แผน แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
จำนวน 40 ข้อ
ใช้ทดสอบนักเรียนก่อนและหลังการพัฒนาผู้เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่าน
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการพัฒนามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05
โดยคะแนนเฉลี่ยหลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนา
และเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้ชุดฝึก
การวิเคราะห์ข้อมูล
การพัฒนาทักษะการอ่านวิชาภาษาไทย
เรื่องการอ่านแจกลูกสะกดคำ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา
2550
โดยใช้ชุดฝึกของนักเรียนก่อนและหลังเรียน
ใช้วิธีการคำนวณหาค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ชุดฝึกของนักเรียนก่อนและหลังการพัฒนา
ใช้วิธีการคำนวณหาค่าที
(t-test) แบบมีกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียว
การวัดความพึงพอใจในการใช้ชุดฝึก
ใช้วิธีคำนวณหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for
Windows Version 11.5
วิเคราะห์ข้อมูล
สรุปผลการวิจัย
1.
ผลการพัฒนาทักษะการอ่านวิชาภาษาไทย
เรื่องการอ่านแจกลูกสะกดคำ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1
โรงเรียนบ้านสนามสามัคคี สโมสรโรตารี่
2 ปีการศึกษา
2550 โดยใช้ชุดฝึก
ก่อนและหลังการพัฒนา พบว่า
ก่อนการพัฒนานักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ
21.32 ของคะแนนเต็ม
ซึ่งอยู่ในระดับผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ
และหลังการพัฒนานักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ93.41ของคะแนนเต็ม
ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด
2.
ผลการเปรียบเทียบการพัฒนาทักษะการอ่านวิชาภาษาไทย
เรื่องการอ่านแจกลูกสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนบ้านสนามสามัคคี สโมสรโรตารี่
2 ปีการศึกษา
2550 โดยใช้ชุดฝึก
ก่อนและหลังการพัฒนา
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05
โดยคะแนนเฉลี่ยหลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนา
เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้
3.
ผลการศึกษาความพึงพอใจการพัฒนาทักษะการอ่านวิชาภาษาไทย
ภาษาไทย
เรื่องการอ่านแจกลูกสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนบ้านสนามสามัคคี สโมสรโรตารี่
2 ปีการศึกษา
2550 โดยใช้ชุดฝึก
ภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 5, S =
0) และในรายข้อพบว่า
นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ คือ
เนื้อหาสาระน่าสนใจ
กิจกรรมเหมาะสมกับเนื้อหา
การร่วมกิจกรรม
การเอาใจใส่นักเรียนของครูผู้สอน
การใช้สื่อประกอบการเรียน
ลักษณะชุดฝึกมีความเหมาะสม (
=
5, 5 , 5,
5, 5,
5,
และ S = 0,
0, 0, 0,
0, 0, )
ปัญหาและข้อเสนอแนะ
ก.
ปัญหา
เรียงลำดับได้ดังนี้
1. ครูขาดความพร้อม
ด้านสื่อ/อุปกรณ์และงบประมาณ
2.
ความขาดแคลนด้านสื่ออุปกรณ์ของนักเรียน
ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ข.
ข้อเสนอแนะ
เรียงลำดับได้ดังนี้
1.
ควรจัดให้มีการพัฒนาครูอย่างน้อยปีละ 1
ครั้ง
จะทำให้ครูได้รับความรู้
ประสบการณ์ในการพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
2.
ควรจัดให้มีการอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาสื่อนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย
เช่นแบบฝึกการปฏิบัติ คู่มือการเรียนการสอน
ตลอดจนสื่อและอุปกรณ์ต่างๆ
3.
ควรสนับสนุนให้ครูได้มีโอกาสศึกษางานวิจัยในชั้นเรียนที่หลากหลาย
เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอด
เป็นวิจัยที่ดีอยากเห็นฉบับเต็มพร้อมชุดฝึกช่วยสงเคราะห์หน่อยได้ไหมคะ