วันในสัปดาห์กับการตั้งชื่อของชาวพม่า
ชาวพม่ามักเชื่อว่า
วันเกิด หรือ มเวเนะ (g,:tgoh)
ในสัปดาห์มีความสำคัญต่อชีวิต
และมักผูกเกี่ยวกับการตัดสินใจในหลายเรื่อง อาทิ การตั้งชื่อ
นิยมกำหนดเริ่มด้วยอักษรประจำวันเกิด หรือแม้การเลือกคบคนให้ต้องชะตา
ไม่ว่าในฐานะเพื่อน คู่ครอง หรือ คู่ค้า อาจต้องเทียบวันเกิด
และในทำนองเดียวกับไทย
พม่าก็มีข้อห้ามตัดผมในวันที่ตรงกับวันเกิดของตน
อีกทั้งควรเว้นตัดผมในวันจันทร์และวันศุกร์
และเชื่อว่านามวันเกิดยังช่วยกำหนดวันโชคลาภอีกด้วย
นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าวันเกิดจะบ่งบอกลักษณะนิสัยของแต่ละคน
กล่าวคือ ผู้เกิดวันอาทิตย์จะเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว
เกิดวันจันทร์จะเป็นคนใจน้อยแถมขี้อิจฉา เกิดวันอังคารจะเป็นคนซื่อตรง
เกิดวันพุธจะเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว เกิดวันพฤหัสบดีจะเป็นคนอ่อนโยน
เกิดวันศุกร์จะเป็นคนช่างพูด
และหากเกิดวันเสาร์จะเป็นคนมีอารมณ์ฉุนเฉียว
จากการที่ชาวพม่าชอบพึ่งโชคชะตา
ความเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับวันเกิดจึงเป็นความจำเป็นพื้นฐานต่อ
การดำเนินชีวิตของชาวพม่าทั่วๆไป
การเรียกชื่อวันในสัปดาห์ หรือ เนะ (goh) ในภาษาพม่า
กำหนดเรียกตามดาวพระเคราะห์ หรือ โจ่ (18bsN) เช่นเดียวกับไทย
แต่เรียกต่างกัน ดังนี้
อาทิตย์
9o8§gO:
ตะนีงกะนเหว่
จันทร์
9o]§k
ตะนีงหล่า
อังคาร
v8§j
อี่งก่า
พุธ
r6m¸s^t
โบ๊ะดะฮู
พฤหัสบดี
Edklxg9t
จ่าดะบะเด
ศุกร์
glkEdk
เต้าก์จ่า
เสาร์
0go
สะเหน่
วันในสัปดาห์จะมีความเกี่ยวข้องกับทิศทั้ง ๘ โดยเพิ่มพระราหู หรือ
ยาฮุ (iks6)
เป็นดาวสำหรับผู้เกิดในวันพุธเฉพาะช่วงเที่ยงวันถึงเที่ยงคืน
ทิศประจำวันกำหนดไว้ดังนี้
อาทิตย์
ตะวันออกเฉียงเหนือ
vgiahge,kdN
อะเชะ-มเย่าก์
จันทร์
ตะวันออก
vgiah
อะเชะ
อังคาร
ตะวันออกเฉียงใต้
vgiahg9k'N
อะเชะ-ต่อง
พุธ
ใต้
g9k'N
ต่อง
ราหู
ตะวันตกเฉียงเหนือ
vgokdNge,kdN
อะเน่าก์-มเย่าก์
พฤหัสบดี
ตะวันตก
vgokdN
อะเน่าก์
ศุกร์
เหนือ
ge,kdN
มเย่าก์
เสาร์
ตะวันตกเฉียงใต้
vgokdNg9k'N
อะเน่าก์-ต่อง
ชาวพุทธพม่านิยมไปไหว้พระประจำวันเกิดที่ตั้งอยู่รายรอบพุทธเจดีย์ตามทิศดังกล่าวมานั้น
และที่ฐานพระประจำวันจะมีรูปสัตว์ประจำดาวพระเคราะห์ ดังนี้
อาทิตย์
ครุฑ
8>7oN กะโหล่ง
จันทร์
เสือ
dykt จา
อังคาร
สิงห์
e-gl§H ชีงเต๊ะ
พุธ
ช้างมีงา
C'N สี่ง,
เสี่ยน
ราหู
ช้างไร้งา s6b'Nt
ฮาย
พฤหัสบดี
หนู
Ed:dN
จแวะ
ศุกร์
หนูตะเภา
x^t ปู
เสาร์
นาค
o8jt
นะกา
ตำราโหราศาสตร์ของพม่ายังกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างวันกับชาติพันธุ์
๘ เผ่าไว้ด้วย
และถ้าหากวาดเป็นแผนภูมิให้เห็นตำแหน่งของพระประจำวันเกิด
สัตว์ประจำวันเกิด และชาติพันธุ์ทั้ง ๘ ให้สอดคล้องกับทิศ
อันมีพระเกตุ หรือ เก๊ะ (db9N) เป็นศูนย์กลางแทนด้วยองค์พุทธเจดีย์
จะเป็นดังนี้
ตะวันตกเฉียงเหนือ
ราหู
ช้างไร้งา
(จีน)
|
เหนือ
ศุกร์
หนูตะเภา
(แต๊ะ)
|
ตะวันออกเฉียงเหนือ
อาทิตย์
ครุฑ
(ยวน)
|
ตะวันตก
พฤหัสบดี
หนู
(พม่า)
|
พระเกตุ
(องค์เจดีย์)
|
ตะวันออก
จันทร์
เสือ
(ไทใหญ่)
|
ตะวันตกเฉียงใต้
เสาร์
นาค
(แขก)
|
ใต้
พุธ
ช้างมีงา
(กะดู)
|
ตะวันออกเฉียงใต้
อังคาร
สิงห์
(มอญ)
|
ความเข้าใจเกี่ยวกับวันที่สัมพันธ์กับทิศทั้ง ๘
นับเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเข้าใจวิถีชีวิตของชาวพม่า
ซึ่งส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา
และมักข้องเกี่ยวกับโหราศาสตร์ไม่มากก็น้อย ในการตั้งชื่อก็เช่นกัน
ชาวพม่าจะอาศัยวันเกิดมากำหนดชื่อ พม่าไม่ใช้ชื่อสกุล
หากจะมีแต่ชื่อตัวเท่านั้น ดังนั้นพ่อ แม่ ลูก และพี่น้อง
จึงไม่มีนามบ่งชี้ความสัมพันธ์ ภรรยาจึงไม่ต้องเปลี่ยนนามสกุลตามสามี
แต่ชื่อจะต้องมีความหมายเป็นมงคล หรืออาจบ่งบอกรูปลักษณ์
และที่สำคัญชื่อมักมีอักษรขึ้นต้นสัมพันธ์กับวันที่เกิด
ชื่อที่นิยมใช้จะประกอบด้วยคำออกจะไพเราะ อาทิ
หม่อง
(g,k'NX
“หนุ่ม”
นุ
(O6)
“อ่อน,นุ่ม”
อ่อง
(gvk'N)
“ชนะ”
หนั่ย
(O6b'N)
“สามารถ”
จ่อ
(gdykN)
“โด่งดัง”
โฉ่
(-y7b)
“หวาน”
ขิ่ง
(-'N)
“รัก,สนิท”
หละ
(]a)
“สวย”
ข่าย
(-6b'N)
“ทน”
เส่ง
(0boN)
“เพชร”
ฉเว่
(gU)
“ทอง”
มยะ
(e,)
“มรกต”
เตง
(lboNt)
“แสน”
ตัน
(loNt)
“ล้าน”
เอ้
(gvt)
“เย็น”
หนี่
(ou)
“แดง”
ผยู่
(ez&)
“ขาว”
จี่
(EdPN)
“แจ่มใส”
ทูน
(5:oNt)
“รุ่งจรัส”
อู
(Ft)
“แรก,ต้น”
ชาวพม่านิยมชื่อที่ให้ความหมายอันน่าภาคภูมิ แสดงความมั่งมีศรีสุข
และแฝงด้วยเสน่ห์ เช่น นายยันอ่อง (ioNgvk'N) แปลว่า “ชนะศัตรู”
นายเมตตาอ่อง (g,9µkgvk'N) แปลว่า “ได้เมตตา” คือมีนัยว่า “ชนะใจ”,
นายตันฉ่วย (loNtgU) แปลว่า “ทองเป็นล้าน”, นายเตงหนั่ย
(lboNtO6b'N) แปลว่า “แสนชัย”, นายจ่อเตงเด (gdykNlboNtg{t) แปลว่า
“ร่ำรวยเงินแสนระบือนาม”, นายเนลีงแทะ (go]'Nt5dN) แปลว่า
“คมแสงตะวัน”, นางตันตีง (loNt9'N) แปลว่า “เทิดล้าน”, นางโฉ่โฉ่หละ
(-y7b-y7b]a) แปลว่า“หวานสวย”, นางมยะโมหนั่ย (e,,6btO6b'N) แปลว่า
“ได้ชัยฝนมรกต” และนางนุนุ (O6O6) แปลว่า “นิ่มนวล”
ผู้หญิงพม่านิยมชื่อที่ให้ความหมายอ่อนโยนน่ารัก
ในขณะที่ผู้ชายนิยมชื่อที่มีนัยเข้มแข็ง มั่งมีและชาญฉลาด
ในสมัยพุกาม มีการตั้งชื่อด้วยคำว่า ตี่ง (l'N)
เป็นคำเก่าที่มีนัยว่า “อิสระ” และอาจหมายถึง “ผู้ประเสริฐ” หรือ
“ภิกษุ” ปัจจุบันเป็นคำสรรพนามหมายถึง “ท่าน” มีการสันนิษฐานไว้ว่า
คำนี้น่าจะนิยมใช้ในสมัยนั้น
ก็เพื่อต้องการจำแนกตัวเองให้ต่างจากผู้ตกเป็นทาส
โดยเฉพาะทาสพุทธเจดีย์ ที่เรียกว่า พะยาจู่น (46iktd°oN) คำว่า จู่น
(d°oN) นั้นหมายถึงทาส และคำว่า พะยา (46ikt) หมายถึงพุทธเจดีย์
การเป็นทาสพุทธเจดีย์ถือว่ามีฐานะต่ำต้อย
อันที่จริงคำว่าจู่นที่แปลว่าบ่าวหรือทาสนั้น
ได้ใช้เรื่อยมาเป็นคำสรรพนามอย่างสุภาพ ในคำว่า จู่นด่อ (d°oNg9kN)
แปลว่า “กระผม” หรือ “ข้าหลวง” และ จู่นมะ (d°oN,) แปลว่า “ดิฉัน”
หรือ “ข้าหญิง” การเรียกตนเองเป็น “ข้า”
ในภาษาพม่ากลับดูสุภาพในปัจจุบัน ส่วนคำว่า ตี่ง อาจใช้ว่า อะตี่ง
(vl'N) ในความหมายว่า “คุณท่าน” ได้เช่นกัน
ในการตั้งชื่ออาจตั้งตามลำดับผู้เกิดก่อนหลัง เช่นหากเป็นลูกคนโต
จะใช้คำว่า อู (Ft) แปลว่า “แรก,ต้น” หรือ จี (Wdut) แปลว่า “ใหญ่”
ประกอบชื่อ หากเป็นคนกลางจะมีคำว่า ลัต (]9N)
และถ้าหากเป็นคนสุดท้องจะมีคำว่า แหง่ ('pN) เล (g]t) หรือ
ทเวหรือทวย (g5:t) เช่น พระนางสุพยาลัต (06z6ikt]9N)
เป็นพระธิดาคนกลางของพระนางอะเลนันดอ มเหสีของพระเจ้ามินดง
พี่สาวของพระนางสุพยาลัตมีพระนามว่า สุพยาจี (06z6iktWdut)
และน้องสาวของพระนางมีพระนามว่า สุพยาแหง่ (06z6ikt'pN)
คนพม่ามักเชื่อเรื่องโชคลาง เด็กบางคนจึงอาจมีชื่อเล่น
เป็นชื่อทำนองให้ผีชัง เช่น เจ้าหมา ('g-:t) เจ้าดำ (',PNt)
เจ้าขี้เหร่ (U6xNC6bt) เจ้าขี้แมว (gEdk'Ng-yt)
ชื่อเหล่านี้ตั้งเรียกเพียงชั่ววัยเด็กเท่านั้น
ชื่อบางคนมีความหมายพิเศษ เช่น คนที่รอดพ้นจากภัยเกือบต้องสิ้นชีวิต
อาจชื่อว่า แต๊ะเปี่ยง (ldNexoN) แปลว่า “คืนชีพ,ฟื้น” หรือ
คนที่พี่ตายไปก่อน อาจชื่อว่า หม่องจ่าง (g,k'NdyoN) แปลว่า
“นายเหลือ”
นอกจากนี้การตั้งชื่อของชาวพม่า ยังนิยมตั้งตามวันที่เกิด
โดยกำหนดอักษรประจำวันเป็นอักษรตัวแรกของชื่อ ดังนี้
วันอาทิตย์
เริ่มด้วยอักษร
อ(v)
วันจันทร์ เริ่มด้วยอักษร
ก(d)
ข(-)
ค(8)
ฆ(S) ง(')
วันอังคาร
เริ่มด้วยอักษร
จ(0)
ฉ(C)
ช(=)
ฌ(G) ญ(P)
วันพุธ
เริ่มด้วยอักษร
ย(p)
ร(i)
ล(]) ว(;)
วันพฤหัส เริ่มด้วยอักษร
ป(x)
ผ(z)
พ(r)
ภ(4) ม(,)
วันศุกร์
เริ่มด้วยอักษร
ส(l) ห(s)
วันเสาร์
เริ่มด้วยอักษร
ต(9)
ถ(5)
ท(m)
ธ(T) น(o)
พม่าเชื่อว่าวันที่เกิดจะช่วยบ่งบอกลักษณะนิสัย
จึงมักนำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลือกคู่ครองว่ามีดวงสมพงศ์กันหรือไม่
และเชื่อว่าหากทราบอักษรตัวแรกของชื่อก็พอจะคาดเดานิสัยใจคอได้
แต่ถ้าไม่ทราบชื่อก็ให้สังเกตตอนไปไหว้พระเจดีย์
เพราะชาวพม่านิยมไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดซึ่งตั้งอยู่ประจำรายรอบพระเจดีย์นั้น
วิธีนี้เป็นเพียงข้อชี้นำคร่าวๆ
สำหรับคนที่เชื่อถือดวงชะตา
ปัจจุบัน
ชาวพม่ามักยังให้ความสำคัญกับการตั้งชื่อให้สอดคล้องกับวันที่เกิด
โดยจะปรึกษาหมอดู หรือ พระสงฆ์
บางคนอาจตั้งชื่อโดยไม่ปรึกษาผู้รู้ดังกล่าว
แต่ก็มักจะขึ้นต้นชื่อด้วยตัวอักษรที่กำหนดไว้สอดคล้องกับวันเกิด
ส่วนการเปลี่ยนชื่อนั้นจะเปลี่ยนกันบ้างในขณะที่อายุยังน้อยอยู่
มีน้อยคนที่จะเปลี่ยนชื่อเมื่ออายุมากแล้ว นอกจากนี้ ในอดีต
ชาวพม่าจะมีการจารดวงชะตาไว้บนใบลาน
อีกทั้งบนใบลานจะมีคำอวยพรให้กับเจ้าของวันเกิดอีกด้วย
ส่วนมากจะขอให้อายุยืนยาวถึง ๑๒๐ ปี
เจ้าของวันเกิดจะต้องเก็บใบลานนั้นไว้อย่างดี
ส่วนมากจะวางไว้บนหิ้งพระพุทธรูปในบ้าน หากใบลานเสียหาย
อาจด้วยถูกหนูปลวกกัดแทะ หักงอ หรือ ไฟใหม้ จะถือว่าไม่ดี
อย่างไรก็ตาม
ปัจจุบันความนิยมในการจารดวงชะตาไว้บนใบลานได้ลดน้อยไปมากแล้ว
และหันมาบันทึกดวงชะตาไว้บนกระดาษแทน
วิรัช
นิยมธรรม