เสน่ห์..ภูกระดึง.. (ตอนที่ 7)


..งานนี้ได้เห็นคนถอดใจ(แม้ไม่ใช่ทศกัณฑ์)เลี้ยวปร๊าดดดดไปทางนั้น แถมหันหน้ากลับมาบอกว่า “พ่อไปทางนี้แล้วนะ กลับดีกว่า ไม่ไหวแล้ว ไม่ดูแล้วพระอาทิตย์ตก กลับไปนอนดีกว่า”

    กว่าจะหลุดจาก น้ำตกเพ็ญพบใหม่ และ ต้น(ใบ)เมเปิล ได้ ก็ใช้เวลา ณ จุดนี้ไปเกือบชั่วโมง กว่าทุกคนจะยินยอมเดินต่อเรื่อยไปจนถึง น้ำตกเพ็ญพบ ที่น้องพีม อดรนทนไม่ไหว ขอเล่นน้ำ...แค่เดินเฉยๆ ยังหนาวแล้ว นี่จะลงเล่นน้ำ โห...ไม่สามารถขัดใจได้ ด้วยเหตุผล..น้องไม่เดิน ถ้าไม่ได้เล่นน้ำ สุดท้ายต้องยอม..ได้เล่นน้ำตก (น้ำเย็นที่อุณหภูมิไม่เกิน 7 องศา) สมใจนึก เล่นเอากลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เดินนำและตามน้องพีมมาตลอด ต้องร้องเพลงเชียร์และชมกันซึ่งๆ หน้า..แต่..ขอบอกว่า..แค่ไม่ถึง 3 นาที ต้องยอมแพ้...บอกแล้วไม่เชื่อนะ..เจ้าตัวเล็ก (หนาวจนปากเขียว)..แต่เป็นหนึ่งเดียวในทริป ที่ได้อาบน้ำ..โอ้..ยอม..

             เดินทางชมความงามของธรรมชาติ พรรณไม้แปลกๆ ที่เจอตรงไหน ต้องได้กดชัตเตอร์เมื่อนั้น..(แอบนินทาพ่อบ้านลึกๆ..นั่นมาเดินชมธรรมชาติ หรือตามรอยนางสีดา..นะนั่นน่ะ  ถามว่ามีอะไรข้างทางบ้าง คงตอบไม่ถูก ด้วยเหตุ..เดินจริงๆ) เอารูปพรรณไม้ที่ว่ามาให้เพื่อนๆ ที่ทำงานดู เพื่อนถามว่า ดอก(ต้น)อะไรเนี่ย.. แบ๊ะๆๆๆ ตอบไม่ได้ค่ะ ไม่รู้เหมือนกัน..มันสวยดี ไม่เคยเห็น..เลยถ่ายรูปมาให้ดู (เดี๋ยวคราวหน้าจะไปถามเจ้าหน้าที่ให้นะคะ เพื่อนๆ..)

             ...ผ่านน้ำตกโผนพบ..ชมธรรมชาติ (แอบมองหา ทาก ข้างทาง เค้าว่ามีเยอะ แต่..ตั้งแต่เดินมาจนถึงเกือบจะครึ่งทางแล้ว..ยังไม่เจอสักตัว คงยังไม่ถึงฤดูการทำงานของเค้ามั้ง)  ผ่านทุ่งหญ้าสะวันนา (ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง) เป็นทางราบ ระหว่างทางเจอชาวต่างชาติ (ฝรั่ง) ขี่จักรยาน สวนไป..และย้อนกลับมา..แล้วสวนไป..นึกชมว่า ขยันจัง ขี่จักรยานเล่นซะหลายรอบ..ที่ไหนได้..หลงทาง ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน..อ้าว

             ถึงทางเรียบทีไร น้องพีม เป็นได้หมดแรงเดินทุกที ต่างจากตอนปีนเขาและเล่นน้ำตก..ที่ทุ่งหญ้าสะวันนา ก็ไม่ยกเว้น..ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอย ตกหนักที่พ่อ(มากที่สุด) แม่(ตามมาเป็นบางครั้ง) และพี่เพชร (เป็นส่วนน้อย ด้วยเหตุ..แค่ตัวหนูเองก็แย่แล้วครับแม่..อืม!! มีเหตุผล ส่วนน้อง      พีชไม่ต้องพูดถึง..เดินแบกเป้ไปแบบนักท่องเที่ยวผู้โดดเดี่ยว ประมาณว่า..เดินล่วงหน้าไปก่อน 100 เมตร) ต้องช่วยกันทั้งแบก ทั้งขี่โก่ง ทั้งขึ้นคอ แถมบางครั้ง..ทุกคนหมดแรง..ไม่ยอมอุ้ม เจ้าตัวเล็ก ก็ไม่ยอมเดินเหมือนกัน นั่งลงมันตรงนี้แหล่ะ..จนพี่ๆ นักศึกษาที่เดินรวมกลุ่มมาด้วยกันบอกว่า..มาอุ้มพี่ไป เอ้ย..พี่อุ้มไป...555 (หมดแรงเหมือนกันล่ะสิน่ะ)

             ระหว่างทางเดินท่ามกลางทุ่งหญ้าสะวันนา เดินไป ชำเลืองมองวิถีของตะวันไป..กังวลในใจ(อย่ากังวลนอกใจให้ผิดสังเกต..เพราะจะถูกคนข้างๆ สมน้ำหน้าได้..บอกแล้วให้ไปทางโน้นนนน) ว่าจะทันได้ดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสักหรือเปล่า เพราะวันนี้ค่อนข้างสภาพอากาศขมุกขมัว ฟ้าเหมือนจะปิด ไม่มีแสงแดดเลย อนุโมทนาขอกับ พ่อปู่ภูกระดึง ตลอดทาง ว่า ขอให้ฟ้าเปิด เมื่อถึงผาหล่มสักเถอะเจ้าประคุ๊ณ จะดูพระอาทิตย์ตกดิน

            ...ผ่านมาได้เกือบครึ่งทางจะถึงผาหล่มสัก เจอทางแยกที่สามารถเดินกลับที่พักได้ (สำหรับผู้ไม่ประสงค์จะเดินต่อไปสระอโนดาต และผาหล่มสัก) งานนี้ได้เห็นคนถอดใจ (แม้ไม่ใช่ทศกัณฑ์) เลี้ยวปร๊าดดดดไปทางนั้น แถมหันหน้ากลับมาบอกว่า พ่อไปทางนี้แล้วนะ กลับดีกว่า ไม่ไหวแล้ว ไม่ดูแล้วพระอาทิตย์ตก กลับไปนอนดีกว่า(อะไรจะขนาดนั้น พระอาทิตย์ขึ้นก็พลาดไม่ได้ไปรับแล้ว จะไม่ยอมไปส่งท่านตอนลับขอบฟ้าอีก โห...) พูดจบ คว้าน้องพีมปั๊บ ใจคงคิดเอาน้องพีมกลับไปด้วย เพราะเห็นท่าเดินของเจ้าตัวเล็กแล้ว คงไม่ไหว ดีที่เค้ามีป้ายเขียนไว้ว่า ห้ามเข้า หลังจากเวลา 15.00 น. เป็นเพราะเป็นบริเวณหากินของช้างป่า และอาจมืดกลางทาง อันตรายอย่างยิ่ง..เลยได้ที มีเหตุผลให้...ไปต่อเถอะ มาถึงขนาดนี้แล้ว ตอนนี้จะ 4 โมงอยู่แล้ว เค้าไม่ให้ผ่าน (เห็นไม๊น่ะ) 555

http://www.slide.com/r/sNgX4rmSyT_r44Qzd3-tAppl4xo257Fo?view=original

หมายเลขบันทึก: 154497เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2007 17:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 20:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท