ฆ่า "ตัว" ตายไม่เป็นบาป


การฆ่าตัวตายมีสองรูปแบบ เลือกดูเองก็แล้วกันว่าจะฆ่าตัวตายอย่างไหน จึงจะเป็นการฆ่าตัวตายที่คุ้มค่าที่สุด...

เนื่องจากที่ผ่านมาได้อ่านวารสาร "แพรว" ในคอลัมน์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือ คอลัมน์ "คลายใจ" ของ ท่าน "ว.วชิรเมธี" ซึ่งพระคุณเจ้าได้มีข้อคิดและสาระการดำเนินชีวิตที่มีค่ายิ่ง อ่านง่าย และเข้าใจได้อย่างลึกซึ่ง ซึ่งเรื่องที่จะนำเสนอให้ทุกท่านทราบคือเรื่อง "ฆ่าตัวตายไม่เป็นบาป" ขอแนะนำว่าให้อ่านจนจบก่อนนะครับก่อนที่จะตัดสินใจหรือรับข่าวสารเข้าสู่สมอง ผมขอคัดลอกทั้งหมดดังนี้

"... 

Q(uestion) การฆ่าตัวตาย บาปมากไหมคะ (วีรวรรณ / กรุงเทพฯ)

A(nswer)

การฆ่า "ตัว" ตาย มีทั้งที่เป็นบาป และ เป็นบุญ

การฆ่าตัวตายอย่างไรเป็น "บาป" และ การฆ่าตัวตายอย่างไรเป็น "บุญ"

การฆ่าตัวตนของเราทั้งที่เป็นๆ ให้ตายไปแล้วก็เข้าโลง จากนั้นขึ้นสู่เมรุ เพราะต้องการหนีปัญหาหรือหนีความทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่ง จัดว่าเป็นการฆ่าตัวตายที่เป็น "บาป"

ที่ว่าเป็นบาป เพราะเป็นการ "สังหาร" ชีวิตของตัวเองให้แตกดับไป เป็นการตัดขั้นตอนการตายตามธรรมชาติ เพราะเมื่อใครคนใดคนหนึ่งฆ่าตัวตายในลักษณะอย่างนี้แล้ว ความทุกข์ของชีวิตก็ไม่ได้รับการแก้ไข ซ้ำยังจะเป็นการสร้างทุกข์อันใหญ่หลวงไว้ให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องมาแบกรับ

เมื่อฆ่าตัวตายไปเพราะต้องการหนีปัญหานั้น กิเลสซึ่งเป็นเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิดยังไม่ได้รับการขจัดให้สิ้นไป ถึงแม้ตัวตายไปแล้วในชาตินี้ แต่ยังจะต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปไม่รู้จบสิ้น

จิตของคนที่ฆ่าตัวตายไปแล้วนั้น กล่าวกันว่า กว่าจะวิวัฒนาการมาเป็นคนได้ใช้เวลานานแสนนาน จนไม่อาจคำนวณเป็นวันเวลาของมนุษย์ได้ ดังนั้น การฆ่าตัวตายจึงเท่ากับเป็นการปฎิเสธอัตภาพแห่งความเป็นมนุษย์ จิตซึ่งสูวอยู่แล้วจึงกลายเป็นจิตที่เสื่อมคุณภาพ เป็นเหตุให้จิตดวงนั้นต้องไปเรียนรู้กระบวนการ "วิวัฒน์" ใหม่อีกหลายล้านชาติภพ เพื่อที่จะได้กลับมาเป็นคนอีกครั้งหนึ่งในชาติภพไหนก็ไม่อาจรู้ได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า จิตของคนที่ฆ่าตัวตายต้องไปเทคคอร์สใหม่เพื่อสั่งสมคุณภาพจิตให้สูงขึ้นมาทีละน้อยๆ จนกว่าจะสูงมากพอที่จะได้เวียนกลับมาเกิดในอัตภาพของมนุษย์อีกครั้ง

ในพระไตรปิฎกของพระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า กว่าที่คนคนหนึ่งจะได้อัตภาพกลับมาเกิดเป็นคนนั้นใช้เวลานานแสนนาน ทรงอุปมาไว้ว่ามีมหาสมุทรแสนกว้างใหญ่ไพศาลอยู่แห่งหนึ่ง มี "เต่า" ตาบอดอยู่ตัวหนึ่ง และเหนือผิวน้ำมหาสมุทรแห่งนั้นมี "ห่วง"อยู่อันหนึ่ง ร้อยปีเต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำครั้งหนึ่ง ถามว่าโอกาสที่เต่าตาบอดจะเอาหัวมาสวมเข้าพอดีกับห่วงยางเป็นไปได้ยากไหม ตอบได้เลยว่า อภิมหายาก แต่ทรงตรัสว่า การได้โอกาสมาเกิดเป็นคนยากกว่านั้นนับล้านเท่า ฉะนั้น คนที่เกิดมาเป็นคนซึ่งถือว่าจิตของคนคนนั้นวิวัฒนาการมาสูงที่สุดแล้วในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย แต่เขากลับทำลายวิวัฒนาการของจิตอันเข้าถึงภาวะสูงสุดนั้นเสียด้วยการทำ "อัตวินิบาตกรรม" จึงมีแต่ต้อง "ดำดิ่ง"ลงไปเริ่มต้น "นับหนึ่ง" ความเป็นคนกันใหม่ แล้วเมื่อไหร่กันเล่าที่จิตซึ่งถูกปฏิเสธไปแล้วนั้นจะสามารถวิวัฒนาการขึ้นมาสู่มนุษยภาวะได้อีกสักครั้งหนึ่ง

การฆ่าตัวตายจีงเป็นบาปมหันต์ เพราะเป็นการตัดโอกาสการทำความดี เป็นการตัดโอกาสการวิวัฒนาการของจิต และเป็นการปลิดชีวิตซึ่งเป็นสิ่งสูงค่าที่สุดกว่าทรัพย์สินทุกชนิดบรรดามีของมนุษย์ และที่บาปมากที่สุดก็เพราะคุณมีสิทธิ์บรรลุภาวะพระนิพพานได้ในชีวิตนี้ แต่คุณปฏิเสธโอกาสนั้นเสีย นี่คือการทำผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ที่คิดฆ่าตัวตาย....."

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว การฆ่าตัวตายแบบแรกคือการปลิดชีวิตตนเองเป็น "บาป" แต่การฆ่าตัวเองที่ไม่เป็นบาปจะฆ่ากันอย่างไร...จะขอนำเสนอต่อไป

หมายเลขบันทึก: 154433เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2007 13:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 18:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท