ประชุมคณะกรรมการบริหาร บวท.
การประชุมคณะกรรมการบริหาร บวท. (บัณฑิตยสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย) เมื่อวันที่ ๑๗ ธ.ค. ๕๐ ทำให้ผมมีความสุขมาก เพราะได้เห็นว่าองค์กรที่พวกเราได้ควักกระเป๋าลงขันกันตั้งเป็นมูลนิธิ เพื่อเป็นฐานในการร่วมกันทำงานวิชาการเชิงอาสาสมัครเพื่อประโยชน์ของสังคม เริ่มมีความมั่นคงในด้าน (๑) คุณค่าต่อสังคม ทั้งในด้านผลงานและการยอมรับ (๒) ความมั่นคงทางการเงินเพิ่มขึ้น (๓) นักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นยอดของประเทศนิยมเข้ามาร่วมกันทำงานอาสาสมัครให้แก่สังคมภายใต้ บวท. (๔) มีการริเริ่มสร้างสรรค์โครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งแรกของประธานคณะกรรมการบริหารคนใหม่ คือ ศ. ดร. มรกต ตันติเจริญ ซึ่งรับงานต่อจาก ศ. ดร. ยอดหทัย เทพธรานนท์ ผมดีใจที่มีเลือดใหม่หลายคนเข้ามารับใช้โดยเป็นกรรมการ บวท. รับช่วงต่อจากผู้อาวุโส ที่ขยับแนวราบไปเป็นที่ปรึกษาแทน
ผมชอบโครงการ “ผู้ช่วยงานวิชาการฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนงานฝ่ายนิติบัญญัติ” ที่เสนอโดย ดร. กอปร กฤตยากีรณ ท่านบอกว่าได้แนวความคิดมาจาก Congressional Fellow ของ American Physical Society โดยอ่านมาจากวารสาร Physics Today ผมมองว่าโครงการนี้จะช่วยเป็นกลไกเชื่อมโยงระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายวิชาการได้อย่างแยบยลมาก จะช่วยสร้าง synergy ระหว่างระบบนิติบัญญัติ กับระบบ ว&ท ช่วยให้ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ข้อมูลและความรู้ทาง ว&ท ในการปฏิบัติหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ จะเกิดคุณูปการแก่สังคมไทยอย่างมหาศาล
โครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการทำความคิดหรือหลักการให้ชัด แล้วจึงปรึกษาหารือกับฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป
นอกจากนั้น ยังมีโครงการความร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อทำหน้าที่ศึกษาสถานภาพของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศด้านต่างๆ ปีละ ๑ – ๒ ด้าน และมีวงจรของการศึกษาแต่ละด้านห่างกัน ๓ ปี มีรายงานและข้อเสนอแนะต่อสาธารณชนพิมพ์จำหน่ายเพื่อเผยแพร่ เป็นการทำหน้าที่ขององค์กรวิชาการที่เป็นกลาง ไม่มี hidden agenda แต่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งของระบบ ว&ท และเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำความรู้ด้าน ว&ท ไปใช้ประโยชน์แก่สังคมไทย นี่ก็เป็นแนวทางสร้างสรรค์ที่จะต้องเจรจาความร่วมมือระยะยาว เพื่อให้กระทรวงวิทย์ตั้งงบประมาณเงินอุดหนุนประจำปี ปีละ ๑ – ๒ ล้านบาทเพื่อการนี้
วิจารณ์ พานิช
๑๗ ธ.ค. ๕๐
ไม่มีความเห็น