สวัสดีคะ....
เข้าหน้าหนาวแล้ว อากาศเริ่มหนาวเย็น คิดถึงทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อากาศหนาวเย็นค่อนข้างทารุณมากโดยเฉพาะคนยากคนจนที่ไม่มีเครื่องกันหนาว ....
ทำให้นึกถึงเรื่องน่าประทับใจที่พี่คนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังเมื่อนานมาแล้วสมัยที่พี่เค้าทำงานอยู่ทางภาคเหนือว่าเคยไปร่วมใน "ประเพณีตาลต้อด" (ไม่ทราบว่าเรียกแบบนี้หรือถูกหรือไม่) ประเพณีที่ทำกันในช่วงหน้าหนาวปีละครั้ง เป็นการดูแลคนเฒ่าคนแก่โดยเฉพาะ "แม่ฮ้าง แม่หม้าย" (หมายถึงหญิงที่เป็นหม้าย แก่ชรา ไม่มีคนดูแล อยู่ตัวคนเดียวตามลำพัง ไม่มีคนดูแล) คนสมัยก่อนเล่าว่าทำกันมาทุกปีแต่มาระยะหลังได้ขาดหายไป เหตุการณ์ที่พี่เค้าไปพบนั้นเป็นการรื้อฟื้นประเพณีนี้ขึ้นมาอีกครั้งของคนในหมู่บ้าน
วิธีการก็จะง่ายๆคะ เป็นการบอกกันแบบปากต่อปากในหมู่บ้านว่าจะทำการนี้โดยมีแกนนำที่เป็นผู้นำหมู่บ้านอาจเป็นผู้ใหญ่บ้าน นำถุงไปตามบ้านในหมู่บ้าน บ้านนั้นๆ ก้อจะตักข้าวสารในบ้านใส่ในถุงตามแต่จะให้ ขัน 2 ขัน ก็แล้วแต่ หรือให้ของใช้ในชีวิตประจำวันบ้านละชิ้น 2 ชิ้น ทุกหลังคาเรือน รวบรวมใส่ไว้ในรถเข็น
พอถึงคืนเดือนมืด จะมีคนไปสอดแนมที่บ้านเป้าหมายซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่โดดเดี่ยวท้ายหมู่บ้าน พอปิดไฟเข้านอน ก็จะมาบอกพวกที่รออยู่ที่หมู่บ้าน พากันเข็นรถที่ใส่ของไปกันเงียบๆ (คนทั้งหมู่บ้านเลยนะ) พอไปถึงพวกผู้ชายจะทะยอยขนของไปวางที่ชานเรือน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะออกมารวมกับพวกที่ซุ่มอยู่รอบๆ บ้านในความมืด
จากนั้นก็จะจุดประทัดเสียงดัง รอ สักครู่จะมีแสงไฟตะเกียงวับๆ แวมๆ คนเฒ่าก้อจะเปิดประตูออกมาจากในบ้าน เมื่อเห็นของก็เหมือนจะเป็นที่เข้าใจได้ แกก็จะทรุดตัวลงนั่งพร้อมทั้งยกมือไหว้ส่งเสียงงึมงำ เดาว่าคงให้ศีลให้พรตามประสา ก่อนจะค่อยๆ ลาก ยกสิ่งของเข้าบ้านไป คนที่นำของไปให้ก้อจะเริ่มทะยอยเดินกลับไปในหมู่บ้านอย่างเงียบๆ (ทุกขั้นตอนจะเงียบมาก..ยกเว้นตอนจุดประทัดปลุกแม่เฒ่านั่นแหละ)
ตอนนั้นฟังแล้วรู้สึกประทับใจจนถึงเดี๋ยวนี้ คนโบราณนี่ช่างมีความละเอียดอ่อน ช่างเข้าใจ..นึกถึงใจเค้าใจเรา รู้และให้เกียรติซึ่งกันและกันทั้งผู้ให้และผู้รับ ผู้รับไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นการดูแลเกื้อกูลกันในชุมชน จบพิธีการแล้วจะไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ปล่อยให้เงียบไป ไม่ต้องประชาสัมพันธ์ ไม่ต้องแถลงการณ์ถึงความสำเร็จ
แหม พวกที่ชอบไปให้โน่นให้นี่แล้วยืนแอ็คชั่นถ่ายรูปน่าจะได้ดูเป็นตัวอย่างบ้างนะ หรือไปเรียกคนมารวมกันเข้าแถวยาวเพื่อรอรับของบริจาคเนี่ยมันก็ดูแปลกๆนะ คนเรามีศักดิ์ศรีมิใช่ขอทาน
ว่าแล้วนึกถึงคำพูดพระชาวธิเบตว่า "การให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย" ... อ่ะบ้านเราการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ยากลำบากทำไมต้องถ่ายรูปด้วย... (*-*)
เรื่องเล่านี้มันก็นานพอสมควรแล้ว ไม่รู้ว่าปัจจุบันยังมีการสืบสานประเพณีนี้กันอยู่อีกหรือเปล่านะ ถ้าใครสนใจก็สามารถที่จะไปสอบถามข้อมูลได้ที่ "ศูนย์สังคมพัฒนาเขตพะเยา "นะคะ ที่นั่นน่าจะให้ข้อมูลได้มากกว่านี้....
สวัสดีค่ะน้อง..
ขอบคุณค่ะ ได้อ่านเรื่องที่ดีมากค่ะ
สวัสดีครับ
สวัสดีคะ..คุณsuksom
สวัสดีคะ...พี่สิริพร
สวัสดีคะ...เกษตรยะลา