ข้าวโพดต้มสุก ต้านมะเร็ง


ข้าวโพดสุกต้านมะเร็ง การแทะข้าวโพดหวานต้านโรคมะเร็ง มีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้

             เรื่องที่สี่...ข้าวโพดต้มสุก ต้านมะเร็ง...ลองอ่านดูนะคะ..

 

            ข้าวโพดสุกต้านมะเร็ง การแทะข้าวโพดหวานต้านโรคมะเร็ง มีสารตัวล้างพิษมากกว่าผักผลไม้


> นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐฯ รายงานในวารสารสมาคมเคมี แห่งอเมริกาว่า
> ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้วจะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นได้อย่างเด่นชัด
> เขาเผยว่าผิดกับที่เคยเชื่อกันมาก่อน ว่าผักและผลไม้หากต้มปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหาร
> ลงไป สู้กินดิบๆ ไม่ได้ แต่ข้าวโพดหวานยังคงสามารถเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษคงไว้ได้
> แม้ว่าจะเสียวิตามินซีไป>
> เขาได้พบในการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกันที่
> 10, 25 และ 50 นาที พบว่ายิ่งต้มนานจะทำให้มันมีสารอันเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้นเป็น 22,
> 44 และ 53 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ>
> นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษ ช่วยดับพิษของพวกอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็น
> อันตรายกับเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ทั้งยังมีส่วนเกี่ยวพันกับโรคอันเนื่องมาจากความแก่ชราต่าง ๆ
> อย่างเช่นต้อกระจก และโรคสมองเสื่อมอีกด้วย
> คณะนักวิจัยแจ้งว่าข้าวโพดหวานที่ต้มหรือปิ้งจะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรด เฟรุลิก
> อันเป็นคุณกับร่างกายยิ่งมากขึ้นเมื่อถูกความร้อนสูงขึ้นหรือเวลานานขึ้นกรดเฟรุลิกเป็นพวก
> พฤกษเคมีซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่กลับพบมีอยู่อย่างอุดมในข้าวโพดผสมปนเป
> รวมอยู่กับอย่างอื่น การทำให้มันสุกจึงช่วยทำให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น
> คำแนะนำสำหรับ "สตรีที่กำลังจะถูกข่มขืน (ยังไม่เคยเห็นใครในประเทศไทยแนะนำเลย)

>แต่ต่างประเทศเขาสอนกันตั้งแต่อนุบาลแล้ว

>1. ตะโกนว่าไฟใหม้ ไฟไหม้ ๆๆ แล้วจะมีคนวิ่งมาช่วยแน่นอน>2. ให้เบ่งอุจารระให้ราดออกมาเลย (ไม่ใช่เรื่องตลกแต่ได้ผลจริงๆ) รับรองไม่มีใครข่มขืนคนอุจาระราดได้ลงแน่นอน�>ท่าน  จะยอมเหม็นหรือจะยอมเสียตัวก็เลือกเอา

>3. ให้เบ่งฉี่ให้ราดออกมาเลย รับรองเขาอาจจะข่มขืนไม่ลงว

>4. ให้ล้วงคอให้อ๊วกออกมาราดเสื้อผ้า อีกเหมือนกัน  คือมันข่มขืนไม่ลงหรอก

>ลองทำข้อไหนข้อหนึ่งเมื่อตกในภาวะใกล้ถูกข่มขืน

           ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,

หมายเลขบันทึก: 151558เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2007 15:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 10:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท