การพัฒนาระบบธนาคารสวัสดิการชุมชน


วันที่ 9 ธันวาคม 2550 เป็นวันที่ทางเครือข่ายออมบุญวันละหนึ่งบาท ได้เริ่มฝึกการใช้ระบบบริหารงานชุมชน ที่ทางเครือข่ายมีความเห็นร่วมกันว่า กลุ่มที่มีความพร้อมในการใช้โปรแกรมบริหารงานชุมชนที่ต้องการปรับปรุงการทำงานที่รวดเร็วขึ้น ถูกต้องจะพร้อมกันอบรมเข็มให้กับกลุ่มทุกกลุ่มที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันและมีความสนใจก็ เชิญเข้าร่วมทางกลุ่ม,องค์กรชุมชนเครือข่ายออมบุญต้องการเผยแพร่ ให้ทุกชุมชนเข้ามาศึกษาเรียนรู้ร่วมกันนะคะ

ทางกลุ่มองค์กรชุมชน "ออมบุญวันละหนึ่งบาทชุมชนบ้านดอนไชย" ได้เริ่มการฝึกฝนให้ชุมชนได้มี โครงการทำกินทำใช้ ให้ผู้ที่สนใจที่จะเข้ามาเรียนรู้ในโครงการนี้ เพื่อที่จะให้ชุมชนได้ลดรายจ่ายในครัวเรือนของตนเอง และส่งเสริมให้มีการออมเพื่อเป็นหลักประกันให้กับสมาชิกด้วย เมื่อมีการทำกิจกรรมร่วมกันสิ่งที่ได้คือการทำงานที่มีความหลากหลายทางความคิดต้องมาเรียนรู้ร่วมกันได้

สิ่งที่ทางกลุ่มจะทำต่อคงจะเป็นอีกหลายเรื่องที่ทางกลุ่มองค์กรชุมชนตั้งใจที่จะสอดแทรกการเรียนรู้ร่วมกันให้กับคนในชุมชน

การพัฒนาครั้งนี้เป็นการพัฒนาที่ทุกคนให้ความร่วมมือกันดี มาตลอดจึงได้มีการจัดอบรมกันขึ้นมาเพื่อให้กลุ่มทดลองมาก่อนและทำได้มาเป็นพี่เลี้ยงให้กับกลุ่มที่จะพัฒนาต่อ ในส่วนของกลุ่มที่กำลังเกิดขึ้นใหม่คงจะให้มีการเรียนรู้ร่วมกันได้ โดยเน้นการทำงานที่มีความหลากหลายแต่สามารถทำงานให้มีการปฏิบัติและรายงานให้มีความสอดคล้องกันได้

เครื่องคอมพิวเตอร์กลุ่มไหนที่ต้องการทางเครือข่ายออกทุนให้โดยให้ทางกลุ่มใช้คืนในราคาที่ซื้อมาไม่มีการคิดดอกเบี้ยนะคะ

เพราะทางเครือข่ายต้องการเห็นการพัฒนาที่ทุกกลุ่มมีการพัฒนาไปพร้อมๆ กันคงจะเห็นการทำงานที่มาจากหลากหลายชุมชน แต่มาทำงานร่วมกันบางครั้งก็คงจะต้องทำใจบ้าง

วันที่มีการอบรมคงจะมีวิทยากรหลักคืออาจารย์ที่ปรึกษาของเครือข่ายและน้องที่เป็นสมาชิกในกลุ่มชุมชนบ้านดอนไชยแต่มีความสามารถในการดูแลระบบบริหารงานชุมชนแทนอาจารย์ดิเรกได้บ้าง คงจะหาโอกาสแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะหาคนที่เข้ามาช่วยทำงานกับชุมชนที่ไม่หวังผลตอบแทนคงจะมีน้อยมากที่ทำจากใจที่เป็นสาธารณะ จิตอาสา ตอนที่เขียนเล่าเรื่องนี้ ได้จับเวลาการพิมพ์เล่มคู่ฝากธนาคารสวัสดิการชุมชน ในแต่ละเล่มจะใช้เวลาต่อเล่ม ประมาณ 50 วินาที สมุดคู่ฝากจะใช้งานได้ประมาณ 15 ปีต่อเล่ม และลดค่าใช้จ่ายในการใช้ใบเสร็จต่อเดือนประมาณ 600 บาทต่อเดือน ภายใน 1 ปี ต้องใช้เงินในการซื้อใบสำคัญรับเงินประมาณ 7,200 บาทต่อปี

ฉะนั้นข้อมูลที่ได้ในการวิเคราะห์ครั้งนี้ จุดที่พวกเราต้องการพัฒนาและลงทุนคือใช้เงินในการพัฒนาคงจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในเวลาประมาณ 5 ปี คงจะมีสิ่งที่ดีๆ จากการพัฒนาในครั้งนี้ด้วยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะถ่ายทอดความรู้ที่เลขาจำเป็นได้เรียนรู้กับการทำงานให้กับชุมชนมา

คำสำคัญ (Tags): #การพัฒนาไอที
หมายเลขบันทึก: 151291เขียนเมื่อ 4 ธันวาคม 2007 12:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ช่องทางในการลดรายจ่ายในการบริหารจัดการที่คุณนกคิดคำนวณให้ดูน่าจะเป็นแนวทางให้คณะกรรมการเครือข่าย/กลุ่มช่วยกันเสนอ แล้วจัดกลุ่มกันศึกษาวิเคราะห์ว่าจะเป็นไปได้อย่างไร? รวมทั้งเรื่องการเพิ่มรายได้ และรูปแบบการพัฒนาอื่นๆ ผมคิดว่า การกระตุ้นให้เกิดการจับกลุ่มคุยงานจัดการภายในเครือข่าย ภายในกลุ่มและลงลึกในระดับสมาชิกอย่างต่อเนื่องคือการจัดการความรู้ที่สำคัญ โดยที่แนวทางใดนำเสนอแล้วน่าสนใจก็ทดลองดูหรือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมนำมาทดลองดำเนินการ สรุปผลให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทำให้เป็นนิสัยเป็นวัฒนธรรมของกลุ่มก็จะกลายเป็นกลุ่ม/เครือข่ายเรียนรู้ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนงานให้มีคุณภาพครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท