ความรัก วัยรุ่น และธรรมะ
วันนี้ขึ้นหัวข้อเรื่อง ความรัก วัยรุ่น และธรรมะ เพราะเห็นว่าใกล้ตัว เป็นเรื่องของเด็กๆ ลูกศิษย์ที่ครูสอนอยู่ทุกวันนี้ เด็กสมัยนี้โตเป็นสาวไวเด็กเล็กๆ 9-10 ขวบ นมตั้งเต้าแล้ว อาจเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัว ไหนจะอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ แถมสารเคมีที่เร่งการเจริญเติบโตเร็วของสัตว์บางชนิดที่ตกค้างในเนื้อสัตว์เลยเป็นผลพลอยได้ของเด็กที่กินอาหารชนิดนั้นไป
คราวนี้มาพูดถึงวัยแรกรุ่นเด็กมัธยมศึกษาปีที่ 3 -4-5-6 จนถึงระดับมหาวิทยาลัย ที่มีปัญหาความรักในวัยเรียน (บางรายมีปัญหาตั้งแต่อยู่ประถม 6 ถึง มัธยม 1 เลยก็มี แต่เรียกว่ามีน้อย ) ที่อยากจะพูดถึงคือเด็กระดับมัธยมเพราะสัมผัสใกล้ชิดทุกวัน นักเรียนหญิงหรือชายที่มีรักในวัยนี้มักเหม่อลอย แยกตัวจากเพื่อน ขาดเรียนบ่อย โกหกเก่ง คนที่เป็นพ่อแม่ควรเฝ้าระวังดูแลลูกให้ใกล้ชิดหน่อย สังเกตดูจะแต่งเนื้อแต่งตัวเนี๊ยบ รักสวยรักงาม บางทีก็โกหกทางบ้านว่ามีกิจกรรมในวันหยุดเพื่อจะหาโอกาสไปพบแฟน ( เป็นลักษณะที่ควรสังเกตเบื้องต้น )
ผู้ปกครองบางคนอาจจะเถียงว่าลูกฉันอยู่มหาวิทยาลัยแล้วยังไม่เห็นมีแฟนหรือเพื่อนต่างเพศกับเขาเลย ครูมาว่าเด็กมัธยมมีแฟนแล้วหรือ มีแน่นอน แต่ไม่ทุกคน แล้วก็โชคดีที่ลูกคุณยังไม่มีแฟนหรือเพื่อนต่างเพศ เพราะทุกวันนี้เด็กที่พ่อแม่ส่งมาอยู่หอพักไม่ได้อยู่กับเพื่อนเพศเดียวกัน แต่กลายเป็นอยู่กันแบบสามีภรรยาแบบชายจริงหญิงแท้ หรือประเภทฉิ่งคู่ หญิงกับหญิงไป เพราะเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติมากขึ้น ไม่เห็นความสำคัญของความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ว่าจะพูดถึงเด็กมัธยม เลยไปถึงเด็กมหาวิทยาลัยไปเสียนี่ เด็กมัธยมทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องชู้สาวมากพอสมควร ตบตีกันแย่งผู้ชาย หรือชกต่อยทะเลาะวิวาทกันเรื่องแย่งหญิง มีเกือบทุกโรงเรียนเพียงแต่จะเป็นข่าวหรือไม่เท่านั้น การที่จะดึงเด็กที่มีรักในวัยเรียนกลับมาเรียนได้นั้นครูต้องเป็นหูเป็นตา คอยช่วยเหลือให้การสนับสนุนบางครั้งรู้ก็ต้องทำเป็นสนับสนุน ให้กำลังใจ เธอเป็นแฟนเขาเธอต้องช่วยติวหรือช่วยเหลือเพื่อนให้เรียนจบ หรือเวลามีกิจกรรมอะไรก็เปิดโอกาสให้เข้าร่วมกิจกรรมที่เขาเหล่านั้นได้แสดงบทบาทหรือได้แสดงออกบ้าง ให้โอกาส อย่าไปดุด่า หรือทุบตีอย่างเดียว เรียกว่าต้องใช้ทั้งศิลป์และศาสตร์ ให้เขาได้รู้ดี รู้ชั่ว แบบรักกันก็ต้องเป็นกำลังใจกัน ดึงกัน ช่วยเหลือกัน จนเรียนจบแล้วค่อยคิดเรื่องชีวิตคู่ เพราะมีหลายคนตอนเรียนรักกันจนเรียนจบ แล้วทำงานเก็บเงินได้จึงแต่งงานชีวิตก็จบแบบมีความสุขสมบูรณ์ น่านำเป็นแบบอย่าง
ผู้เขียนก็มีลูกสาว 2 คน อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก็ไม่เชิงสอดส่องจู้จี้แต่ก็คอยดูบ้างไม่ปล่อย และต้องรู้ว่ากลุ่มเพื่อนลูกเป็นใครบ้าง ให้มาเที่ยวบ้านบ้าง เวลาเขาอยากได้อะไรหรือไปไหนก็ควรสนใจให้คำปรึกษา แล้วก็พูดเป็นเชิงปรามไว้ เพราะมีเพื่อนๆที่เขามีลูกหญิงที่เสียคน ต้องออกโรงเรียนมานั่งเลี้ยงลูกไม่มีพ่ออยู่บ้านเป็นบทเรียนเล่าให้ลูกๆฟัง ถึงความล้มเหลวในชีวิตวัยรุ่น วันนี้เลยอยากเชิญชวนเยาวชนที่มีความรักในวัยรุ่นลองเขียนเรื่องสั้น เรียงความ บทร้อยกรอง หรือผลงานในรูปแบบซีดีแอนนิเมชั่นและละครสั้น อย่างใดอย่างหนึ่งในหัวข้อ ความรัก วัยรุ่น และธรรมะ ส่ง เข้าร่วมชิงรางวัลกันได้ ภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ดูรายละเอียดจาก โครงการยุวโพธิชน โทรศัพท์ 0-2437-7201
เกือบลืม ....ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม ที่ครูหลายท่านดูแลเอาใจใส่ทบทวนเพิ่มความรู้ให้กับนักเรียนจนสามารถสอบข้อเขียนเข้า ม.นเรศวรในปี 51 ได้มากขึ้น ปีนี้มีผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ 13 ราย ต้องขอบคุณ ท่านผู้อำนวยการชนะ สุ่มมาตย์ที่มีวิสัยทัศน์เยี่ยม ผลักดันโครงการให้เด็กมีความกล้าที่จะก้าวเข้าสู่ เส้นชัยเพิ่มขึ้น ขอปรบมือดังๆให้อีกครั้งกับก้าวแรกของเด็กๆ
สวัสดีครับคุณครูสกาย
ความเป็นครูที่อยู่กับนักเรียนมายาวนานนั้นเปรียบได้กับหมอดู เพราะจะรู้และสัมผัสกับนักเรียนมากหน้า หลายพันธุ์ และวิเคราะห์อนาคตได้แม่นยำ แม้ว่าอาจผิดคาดบ้างก็เล็กน้อย..ครูเองก็หมายมั่นว่าจะให้ความรู้อย่างมิปิดบัง พร้อมดูแลเรื่องคุณธรรม จริยธรรม เพิ่มทักษะชีวิต สร้างภูมิคุ้มกัน แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปัญหาวัยรุ่นนั้นสารพัดล้วนแล้วแต่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม วิถีชีวิตผู้คน..ตอนนี้ขอเพียงแต่ทำอย่างไร นักเรียนในอ้อมกอดของพ่อแม่ และครูมีภูมิคุ้มกันที่ดีก็พอแล้ว
ขอบคุณนะครับกับความรู้ดีๆ สวัสดีครับ
ขอบคุณ...ทุกท่านที่เข้ามาทักทายแสดงความคิดเห็นร่วมกัน อย่างที่หลายคนกล่าวไว้ว่า โอกาส มีให้สำหรับคนที่รู้จักก้าวเข้าไปหา อย่าถอยหนี แล้วสักวันหนึ่งความสำเร็จก็จะมาถึงตัวคุณที่มีความพยายามและความมุ่งมั่น