เมื่อวานไปสัมมนาวิชาการ การสอนสอดแทรกคุณธรรม ที่ม.กรุงเทพ วิทยาเขตกล้าวน้ำไท ออกมาห้าโมงเย็น คนขับเข้าเลนผิดพลาดนิดเดียว มาขึ้นทางด่วนไม่ได้ ต้องไปติดอยู่กลางเมืองกรุงยาวนาน หลบไปแยกไหนก็ติด ติด ติด เพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงานกลับบ้าน ยิ่งรถติดคนก็ยังออกรถเอามาจอดติดเครื่องกันบนทางวิ่ง เพราะคิดว่าสะดวกกว่านั่งรถเมล์ ติดก็อยู่ในรถของเรา ติดก็ติดไปใจอย่าทุกข์ น้ำมันขึ้นอีกก็อย่าทุกข์ใจ ต้องรับให้ได้กับความเปลี่ยนไปของสังคม
กลับมาถึงที่พักก็ปาเข้าไปสองทุ่มพอดีดี ไม่เปลี่ยนชุดลงจากรถส่วนกลางเอารถส่วนตัวออกไป มสธ. แม้จะรู้ว่าช้า สาย ไม่ควรจะไปแล้ว แต่ใจหนึ่งก็ออกมาประกาศก้องว่า ไม่ได้ ท่านอาจารย์ขจิตขึ้นชื่อแล้วว่าเป็นหนึ่งที่จะไปร่วมเสวนา ช้า สายก็น่าจะดีกว่าไม่ไป โทรศัพท์ตามท่าน นม. แห่งกระท่อมน้อยปลายนา ซึ่งก็รออยู่ ออกรถไปขึ้นทางด่วนธรรมศาสตร์ ไปลงเมืองทองธานีเข้า มสธ. ไปถามเจ้าหน้าที่ ไม่แน่ใจ ขอเบอร์อาจายร์ขจิตจากสมาชิกเครื่อข่ายมาโทรหาท่าน และเข้าไปในงานเลี้ยงซึ่งอิ่มเอมกันแล้ว และกำลังมอบสิ่งของกัน ก็เข้าไปไหว้ท่านครูบาสุทธินันท์ ท่านอาจารย์แสวง แลท่านอื่นๆอีกหลายท่าน ยืนอยู่ห่างห่างสักพัก ก็ออกจากห้องมรกต กลับ
ต้องขอโทษท่านอาจารย์ขจิตด้วย ที่ไปช้ามากๆๆๆๆ และเป็นครั้งแรกที่ไปพบเครือข่าย จึงขาดๆ อะไรบางประการ ผมประทับใจบุคคลในเครือข่ายหลายๆ ท่านมาก หากคราวหน้าจัดอีก จะไปให้ทันตามเวลาที่กำหนด ได้ยินผู้ที่เกิดก่อนพูดไว้ว่า ตื้อเท่านั้นที่จะสำเร็จ ตื้อเท่านั้นครองโลก เกรด A จะได้มาก็ต้องตื้ออ่านหนังสือ
สวัสดีครับครู
ไม่แน่ใจครับว่าเห็นหรือไม่ แต่ก็เห็นหลายท่านครับ แต่ทักทายไม่กี่ท่าน
ยินดีครับครู ที่ให้ความคุ้นเคย แม้จะยังเป็นเพียงตัวอักษร หากมองลึกไปถึงเจตนาหรือเจตจำนงค์ (good will ) ก็เป็นเรื่องที่ดี ตามหลักการของคานท์
ยินดีและดีใจที่ได้พบนะค่ะ อ.ขจิตตามหาอาจารย์และเพื่อน พี่ไม่ทราบว่าอาจารย์จะกลับก่อนก็เลยไม่ได้แจ้งอ.ขจิตทราบ หาไม่พบจึงเข้าใจว่ากลับแล้ว คงมีโอกาสได้พบกันอีกต่อ ๆ ไปนะค่ะ