สัมผัสบำบัดลดความวิตกกังวลในผู้ป่วยก่อนผ่าตัด
จากงานประจำที่เป็นวิสัญญีพยาบาลมีหน้าที่ให้ยาระงับความรู้สึกแก่ผู้มารับบริการผ่าตัด โดยการให้คำแนะนำผู้ป่วยก่อนและหลังให้ยาระงับความรู้สึกเป็นกิจกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญสูง เนื่องจากผู้ป่วยทุกคนต้องความพร้อมของผู้ป่วยทั้งร่างกาย และจิตใจ ทางด้านร่างกายเราสามารถประเมินได้ง่ายกว่าด้านจิตใจ ซึ่งบ่อยครั้งที่เราเข้าไม่ถึงความรู้สึกด้านจิตใจของผู้ป่วย มารู้อีกทีก็ร้องให้ไม่ยอมเข้าห้องผ่าตัด หรือบางรายก็งดผ่าตัดเนื่องจากความดันโลหิตสูงเกิน ถ้าดมยาก็จะเกิดอันตรายถึงพิการหรือตายได้
วันหนึ่งได้มีโอกาสคุยกับอาจารย์ รศ.ดร.พิมพ์จรัส อยู่สวัสดิ์ เรื่องการดูแลผู้ป่วยอย่างเอื้ออาทร ซึ่งอาจารย์มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ อาจารย์ได้สอนวิธีการ ให้ลองไปปฏิบัติจริงและตัวเองได้ไปศึกษาและค้นคว้าจากเอกสารงานวิจัยเพิ่มเติม จึงได้รูปแบบที่จะนำไปใช้
เมื่อได้มีโอกาสนำไปใช้จริงมีความรู้สึกว่า ใช่เลยที่เรายังขาดในการดูแลผู้ป่วยที่เราชอบพูดแบบองค์รวม ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีของดิฉันที่ได้มีโอกาสมอบสิ่งที่ดีๆให้กับผู้ป่วย
ช่วงแรกได้นำใช้กับผู้ป่วยที่คลอดบุตรทางหน้าท้อง โดยใช้ในกระบวนเยี่ยมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด การให้ข้อมูลที่เดิมทำอยู่แล้ว แต่เพิ่มการสัมผัสในขณะที่ให้ข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้ การสัมผัสบำบัดสามารถลดความวิตกกังวลในผู้ป่วยหลังผ่าตัดได้ และผู้ป่วยมีความพึงพอใจในการรับการบริการมากขึ้น
การสัมผัส คือ การใช้มือแตะต้อง หรือลูบไล้ผิวหนัง ของผู้สัมผัสซึ่งมีผลทำให้เกิดความสุขสบายและ ผ่อนคลายเมื่อใช้ในการพยาบาลการสัมผัสเป็นการติดต่อสื่อสารทางกาย และแสดงความหมายของการดูแลเอาใจใส่ ความห่วงใย ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ การปลอบโยน การให้กำลังใจ และการก่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย (ขณะดำเนินกิจกรรมพยาบาลต้องมีจิตที่นิ่ง และมั่นคง โดยใช้สมาธิในการฝึกตนเอง
สิ่งที่ได้นอกจากใช้ในการดูแลผู้ป่วย คือการนำไปใช้กับคนรอบข้าง แต่ต้องดูความเหมาะสมหน่อยนะค่ะ
ไม่มีความเห็น