กลุ่มออมทรัพย์สวัสดิการนักศึกษา
ประเภทสวัสดิการ กลุ่มสัจจะออมทรัพย์
ชื่อกลุ่มสวัสดิการชุมชน “ กลุ่มสัจจะออมทรัพย์นักศึกษา”
ศูนย์เรียนรู้สุราษฎร์ธานี
นักศึกษาโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต มรภ.พระนคร
ศูนย์เรียนรู้อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
หลักการและเหตุผล
กลุ่มสัจจะออมทรัพย์สวัสดิการนักศึกษา เกิดขึ้นเมื่อ กรกฎาคม พ.ศ.2550 เป็นกิจกรรมหนึ่งประกอบการศึกษาวิชาการบริหารจัดการสวัสดิการชุมชน เพื่อให้นักศึกษาได้เกิดประสบการณ์ในการจัดตั้งและพัฒนากองทุนและสวัสดิการชุมชนในกลุ่มนักศึกษาด้วยกันเอง เป็นการรวมตัวออมทรัพย์เพื่อเตรียมไว้สำหรับการเข้ารับปริญญาบัตรในอนาคตของนักศึกษาเอง สมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ต้องเข้าใจและยอมรับหลักการของกลุ่ม คือ ความรู้สึกเป็นเจ้าของ, การพึ่งตนเอง – ความซื่อสัตย์ , ความทนอด- ความอดทน, หลักคุณธรรม และหลักการควบคุมกันเอง
ทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การสร้างกองทุนสวัสดิการที่ดีแก่สมาชิกหรือชุมชน ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ยึดเหนี่ยวให้กลุ่มสัจจะออมทรัพย์สามารถดำเนินการได้อย่างลุล่วง คือ การถือสัจจะ โดยที่สมาชิกในกลุ่มจะต้องยึดถือในความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา หากละเมิดกฎ กติกา ก็จะสูญเสียสัจจะ ความเชื่อถือในหมู่สมาชิกด้วยกัน
ทุนชุมชน/แผนที่ชุมชน
ทุนชุมชนที่มี คือ องค์ความรู้ของนักศึกษา การวางแผนและการทำโครงการที่รัดกุม
ระบบการบริหารจัดการที่โปร่งใสสมาชิกตรวจสอบได้ตลอดเวลา
นำหลักวิชาที่ได้จากการเรียนรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อก่อให้เกิดเห็นผลสำเร็จ
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างประสบการณ์ / องค์ความรู้ กระตุ้นให้เกิดกองทุนสวัสดิการที่นักศึกษาทุกคนร่วมกันจัดตั้ง
2. เพื่อสร้างความสามัคคีและปรับความสัมพันธ์ในเกิดการร่วมกลุ่มที่เน้นเฟ้นแข็งแรงเป็นแบบอย่างที่ดีในโอกาสต่อไป
3. เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ในหลักสูตรสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
4. เพื่อให้สมาชิกมีเงินออม มีสวัสดิการ มีเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางและประกอบกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยในวันรับปริญญาบัตรเมื่อจบการศึกษา โดยไม่ต้องไปกู้จากนายทุนภายนอก
5. เพื่อสร้างเสริมความมีวินัย ใส่ใจและการกระตุ้นเตือนให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีคุณค่าและสามารถนำไปใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัวรวมไปถึงการเผยแพร่แก่ส่วนรวม
โครงสร้างองค์กร
กฎกติกาต่าง ๆ ล้วนเกิดจากข้อตกลงที่สมาชิกกลุ่มร่วมกันคิด ปรับเปลี่ยน และแก้ไข สมาชิกจะได้มีส่วนขับเคลื่อนกระบวนการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ โดยคัดสรรผู้รับผิดชอบจำนวน 2-3 คน รวมทั้งปรับเปลี่ยนกฎระเบียบที่ติดขัด เป็นกระบวนการที่ยึดความโปร่งใส ตรวจสอบและสามารถแสดงได้ในทุกกรณี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้สมาชิกเชื่อมร้อยกันเหนียวแน่น เกิดความเป็นอันหนึ่งเดียวกันในองค์กร
กิจกรรม/ขั้นตอนการดำเนินการ
กิจกรรมและขั้นตอนการดำเนินการของกลุ่มเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับกลุ่มดังต่อไปนี้
• คุณสมบัติของสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์
ผู้ที่จะเป็นสมาชิก คือ นักศึกษาโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต หลักสูตร สหวิทยาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มรภ.พระนคร ศูนย์เรียนรู้อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
• การฝากเงิน
สมาชิกจะต้องฝากเงินตามสัจจะที่ให้ไว้กับกลุ่ม คือ ฝากเป็นเดือน ๆ ละ 100 บาท จนกว่าจะจบการศึกษา
ผลการดำเนินงาน
จากผลการดำเนินการ
ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 62 คน
ระยะเวลาดำเนินงาน 3 เดือน
ยอดเงินในบัญชีรวม 17,100 บาท
ค่าดอกเบี้ย 2.83 บาท
ที่ทำได้ไม่ดี
1. กลุ่มไม่สามารถทำให้สมาชิกเคารพกฎระเบียบได้ 100%
2. สมาชิกบางรายไม่ส่งเงินสัจจะตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะไม่ได้เข้าชั้นเรียนซึ่งขาดเรียนเป็นประจำมาแต่วันสำคัญคือ วันสอบ และวันกิจกรรมที่มีมาตรการบังคับที่เข็มงวดโดยคณะอาจารย์
จากการดำเนินงาน ทำให้นักศึกษาได้รู้จักการจัดการระบบกองทุนมากยิ่งขึ้น เมื่อได้จัดตั้งและดำเนินกิจกรรมตามกระบวนการเรียนรู้ในวิชา การบริหารจัดการสวัสดิการชุมชน
ผลประโยชน์ของสมาชิกที่จะได้รับ
1. สมาชิกจะได้รับเงินปันผลซึ่งเป็นดอกเบี้ยจากการการออม เมื่อสิ้นสุดโครงการหรือจบการศึกษา
2. สมาชิกมีสวัสดิการ มีเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางและประกอบกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยในรับปริญญาบัตรเมื่อจบการศึกษา โดยไม่ต้องไปกู้จากนายทุนภายนอก ซึ่งสามารถลดภาระหนี้นอกระบบของสมาชิกได้ดีในระดับหนึ่ง
3. ให้สมาชิกทุกคนมีเงินออม รู้จักการวางแผนจัดสรรเงินเพียงบางส่วนเก็บออมไว้ในอนาคต
ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
• ปัจจัยด้านบวก
1. การบริหารจัดการที่ดี ทำให้ไม่มีปัญหาที่จัดการไม่ได้ สามารถจัดการปัญหาให้คลี่คลายได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว
2. สมาชิกส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กลุ่มกำหนด
3. ความตั้งใจทำงาน ความซื่อสัตย์ของคณะกรรมการกลุ่ม มีความโปร่งใส ตรวจสอบการทำงานได้ทุกเมื่อ แม้ไม่มีค่าตอบแทน
• ปัจจัยด้านลบ
1. ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ทำให้สมาชิกมีปัญหาทางการเงิน จึงส่งผลกระทบต่อการส่งเงินสัจจะไม่ตรงเวลา
2. ปัญหาการขาดชั้นเรียนของสมาชิก ทำให้พลาดข้อมูลข่าวสาร จึงไม่ได้ส่งสัจจะตามกำหนด
3. การนำระเบียบกฎเกณฑ์มาใช้กับสมาชิกยังไม่รัดกุมพอ เนื่องจากยังมีการยืดหยุ่น มีความเห็นอกเห็นใจ จนทำให้สมาชิกบางคนไม่มีสำนึกถึงส่วนรวม มองเห็นแก่ผลประโยชน์ตัวเองจนไม่มีการปรับปรุงหรือแก้ไขนิสัยที่ไม่ดีของตน
4. ผู้นำดำเนินการไม่มีความชัดเจนในการบริหารจัดการเพื่อให้โครงการดังกล่าวนี้สามารถเดินไปได้ในรูปแบบที่มีระเบียบแบบแผนให้สมาชิกได้ปฎิบัติอย่างเคร่งครัด แต่อาศัยความเป็นส่วนตัวซึ่งใช้มาจนชินมาใช้ ทำให้ผู้มีหน้าที่แต่คนละส่วนต้องแบกรับภาระในบางเรื่องที่ตนเองไม่ได้ทำต้องทำการแทนกลายเป็นความไม่เป็น “ระเบียบ”
5. การประสานงานของผู้นำยังไม่เป็นมืออาชีพขาดความพร้อมในการทำงานต้องรอให้บอกกล่าวหรือสมาชิกต้องถามเองว่าเมื่อไหร่จะเก็บเงินสัจจะ
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน
1. การไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกลุ่มโดยสมาชิกบางคน
2. สมาชิกขาดการเข้าร่วมประชุม/ไม่เข้าชั้นเรียนโดยพร้อมเพรียง ทำให้พลาดการรับข่าวสาร ข้อมูลที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงอาจได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชัดเจน อันจะส่งผลกระทบสมาชิกโดยตรง
3. สมาชิกขาดความรู้และความเข้าใจในกฎระเบียบกติกา การบริหารจัดการ กลุ่มสัจจะออมทรัพย์
4. ผู้นำ/ประธานนักศึกษาและคณะกรรมการที่ได้รับการคัดเลือกจากนักศึกษาไม่มีความชัดเจนในการบริหารจัดการเพื่อก่อให้เกิดเป็นระเบียบอย่างมีระบบ
5. ขาดการประชาสัมพันธ์ แต่อาศัยการสอบถามกันเองปากต่อปากทำให้ทราบข่าวสารไม่พร้อมกัน บางครั้งอาจทำให้ข่าวสารคลาดเลื่อน
กลุ่มยังไม่สามารถใช้ระเบียบบังคับกับสมาชิกได้เต็มที่ เพราะยังใช้ความเป็นกันเองในการบริหารจัดการอยู่ จึงพบว่าสมาชิกที่มีความประพฤติเหลวไหล ไม่ตรงต่อเวลา ก็ยังคงไม่ปรับปรุงตนเอง ใช้ความสะดวกส่วนตัวมากกว่าความเป็นส่วนรวม สมาชิกบางคนขาดการมาเรียนพลาดการทราบข่าวสาร
ข้อเสนอแนะ
เพื่อยกระดับคุณภาพ การบริหารจัดการองค์กรสวัสดิการชุมชนในอนาคต เพื่อให้การบริหารจัดการสวัสดิการชุมชนสามารถดำเนินกิจกรรมไปได้ตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งกลุ่ม และมีการพัฒนาที่เป็นระบบอย่างยั่งยืนต่อไป ควรจัดกระบวนการเรียนรู้โดยสมาชิก เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากสมาชิกในชุมชนเอง เกิดเป็นข้อตกลงร่วมกัน และนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติที่มีความสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ควรมีการจัดสรรเงินกองทุนเป็นส่วน ๆ และจัดระบบสวัสดิการที่ชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่
นอกจากนี้ ควรปลูกฝังจิตสำนึกของสมาชิกให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก เพื่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของสมาชิก มีความรักในองค์กร รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของกลุ่มองค์กรร่วมกัน สมาชิกทุกคนควรมีส่วนช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลความประพฤติของสมาชิกที่ปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจนำมาซึ่งความเดือดร้อนเสียหายแก่องค์กรได้
เที่ยวบ้านผมบ้างซีครับ