มันกลับมาอีกแล้ว พร้อมความโหดร้ายและรุนแรง

เมื่อต้นเดือนนี้ ได้มีแมลงตัวเล็กๆ หลายตัว...บุกเข้ามาถึงที่ห้อง

มันสร้างความรำคาญให้กับเจ้าของห้อง (เรานี่แหละ) เป็นอย่างมากไม่เพียงเท่านั้น มันยังปล่อยสารที่ให้ผิวหนังของเราเกิดการละคายเคืองอีก และก็มีอาการเจ็บๆแสบๆ ผ่านไปหนึ่งวันอาการของมันเริ่มเด่นชัดขึ้น มันเริ่มปวดแสบปวดร้อนและผุผองขึ้นมา เราก็หาทุกวิธีทางเอายาที่ได้จากโรงพยาบาลและสารพัดยาเพื่อบรรเทา แต่มันก็ไม่ทุเลาลงเลย มันทั้งเจ็บและตึงไปหมดใส่เสื้อผ้าก็ลำบาก ผ่านมา 7-8 วันอาการอาการถึงจะดีขึ้น และก็คันตอนแผลใกล้จะหาย มันทำให้แขนของเราเป็นแผลเป็นด้วยด้วย

(แผลเป็นที่เกิดจากแมลง)

และเมื่อ 3วันที่ผ่านมา มันก็ออกมาอาละวาดอีกครั้ง ทีนี้มันมาทำลายขาอ่อนที่สวยงาม ทีแรกมันขึ้น จุดแดงๆๆ แล้วเราก็รู้สึกได้ว่ามันจะต้องเป็นเหมือนเดิมแน่นอน เราก็นำแซมบัด ยาทาสำหรับแมลงกัดต่อยมันก็ไม่ได้ผล ไม่เพียงแค่จุดนี้เท่านั้นนะคะ พอเรานั่งขัดสะมาดโดยที่เราไม่รู้มาก่อน พอเนื้อชนเนื้อจากที่โดนแมลงกัดมันเกิดอาการติดต่อกัน เป็นรอยที่เกิดจากเนื้อแนบกันเลย ทีนี้เป็นผื่นขนาดใหญ่มาก ขาทางด้านซ้ายตึงมาก ปวดแสบมากเลย จนทีนี้เราทนไม่ไหวแล้ว ก็ไปซื้อทาที่ร้านขายยา พี่ที่ขายยาก็เลยแนะนำยาตัวหนึ่งให้ บอกว่าตัวนี้ใช้วันเดียวก็หาย นิสิต ม.นเรศวร มาซื้อใช้กันเยอะมาก ขายดี เพราะนิสิตที่โดนแมลงนี้เป็นประจำ เราต้องทนต่อไป หื้อๆๆๆ เลยขอฝากทุกคนต้องระวังแมลง

ชนิดนี้ด้วยนะคะ เอาภาพอาการที่เกิดขึ้นมาฝากด้วย

(อาการแรกมันก็จะเป็นเพียงแค่ผื่นเล็กๆสีแดงเท่านั้น)

จากนั้นมันก็จะเกิดอาการผอง และแสบๆๆ

อาการผองของผิวหนังทำให้เกิดอาการตึง ตึงไปทั้งขาเลย

ขาล่าง เกิดจากการติดเชื้อจากต้นขาบน

จากสารที่แมลงหลั่งออกมา ดูสิ พิษมันร้ายขนาดไหน

การรักษาที่แท้จริง

ปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดการอักเสบมี 2 แบบคือ

แบบแรก เกิดเหมือนการอักเสบที่เกิดจากผิวหนังสัมผัสสารที่มีฤทธิ์ระคายเคือง แต่มีแสงแดดเป็นตัวเหตุให้เกิดปฏิกิริยาเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป ไม่เกี่ยวกับภูมิแพ้ แม้ถูกสารนั้นเป็นครั้งแรกก็เกิดได้ เมื่อสารที่สัมผัสมีความเข้มข้นสูงพอและถูกแสงที่แรง และนานพอ

สารที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาแบบนี้ได้แก่

1. ยารับประทาน เช่น ยากลุ่มซัลฟา, ยาเตตราไซคลินบางชนิด, ยาขับปัสสาวะบางชนิด, ยาฆ่าเชื้อราบางชนิด, ยากล่อมประสาทกลุ่มบาร์บิทูเรต เป็นต้น

2. ยาทา เช่น ยาที่มีส่วนผสมของน้ำมันดิน

3. สารจากพืชบางชนิด อาจเป็นยาของพืชหรือน้ำมันระเหย เช่น จากผิวสัม ผิวมะกรูด ผิวมะนาว ยางหัวแครอท หรือจากหญ้าบางชนิด เป็นต้น

4. สีอินทรีย์บางชนิด เช่น อีโอซิน ฟลูออเรสซิน อะคริดีน

อาการอักเสบ

ผิวหนังบริเวณที่โดนแสงจะเป็นรอยคล้ำ แดง บวม คล้ายผิวหนังไหม้จากแสงแดด

ถ้าปฏิกิริยารุนแรงจะพองเป็นตุ่มน้ำใสๆ ขึ้นมา คล้ายถูกน้ำร้อนลวกหรือไฟลวกเลยทีเดียว

ผิวหนังบริเวณที่เป็นเมื่อหายจะมีสีคล้ำอยู่หลายวันกว่าจะกลับเป็นปกติ

อ้างอิงจาก http://www.elib-online.com/doctors3/skin_dermatitis03.html