1. มีผลเลือดบวกแล้วซ้ำยังเป็นโรคหัวใจด้วย


ผลเลือดบวก ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ

สาวน้อย (อายุยังไม่มาก)   ได้รับเชื้อจากสามีที่พึ่งแต่งงานได้ 3 ปี  โดยที่สามีีไม่บอกว่าตัวเองมีเชื้อ  โดยให้เหตุผลว่า ถ้าบอกก็จะไม่ได้แต่ง (จะดีใจหรือเสียใจดีที่เขารักเราขนาดนี้)

 อดีต สามีเป็นหม้ายเมียตาย  เลี้ยงลูก 2 คน  ไม่รู้ว่าเมียตายด้วยสาเหตุอะไร

อยู่มา รู้สึกเหนื่อยมาก  ผอมลง  ทั้งๆที่เดิมเคยแข็งแรง เล่นกีฬาได้  ไปโรงพยาบาล 

ตรวจพบว่า เป็นลิ้นหัวใจรั่ว กับลิ้นหัวใจตีบ พร้อมกับที่พบว่าเลือดบวก (ที่ทำให้ชีวิตติดลบ)

 เมื่อถามสามีบอกว่ารู้ตัวเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว  ตอนนี้สามียังแข็งแรงดี  ยังไม่ต้องใช้ยาต้าน  เพราะเขาเล่นกีฬา

    สาวน้อยไปพบแพทย์เสมอ ปัจจุบันยังไม่ต้องใช้ยาเพราะ CD4  ประมาณ 400    แม่รู้ข่าวเลยรับกลับมาอยู่ด้วย เพื่อจะได้ดูแล เพราะวางแผนไว้ว่าจะต้องผ่าตัดแก้ไขลิ้นหัวใจ  สามีก็ดี ให้ค่ารถพร้อมกับค่ากินอยู่จำนวนหนึ่ง พร้อมกับบอกว่า เมื่อดีขึ้นแล้วถ้าอยากกลับไปก็จะมารับ  

       แม่พามาโรงพยาบาล มีเงินมาประมาณ 3000บาท จ่ายค่าเหมารถ 1500 บาท จ่ายค่ายานอกบัญชีประมาณ  1200 บาท  ที่เหลือคือค่ากินอยู่ขณะที่เฝ้าลูก  ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้อยู่ต่ออีกกี่วัน  โดยทั่วไปถ้าไม่มีปัญหาแทรกซ้อนเกิดขึ้น  หลังผ่าตัดจะได้อยู่โรงพยาบาลประมาณ 5-7 วัน

   จะขอพ่อ พ่อก็ไม่มีรายได้มากพออยู่พอกินไปวันๆ   สามีก็มีภาระเลี้ยงลูกไปเดือนๆ  คิดว่าจะรบกวนเมื่อขอค่ารถกลับบ้าน แม่เลยใช้วิธีกินอยู่อย่างประหยัด    จะทำอย่างไรดี

  พวกเราเลยบอกต่อกันว่า  เมื่ออาหารสำหรับผู้ป่วยขึ้นมา  ขอให้แจกเผื่อแม่ด้วย  (ปกติเราจะสั่งเผื่อ 1 ที่ สำหรับผู้ป่วยที่จะมาใหม่อยู่แล้ว )  อย่างน้อยช่วยแม่ประหยัดเงินได้บ้าง  มีกำลังใจในการดูแลลูกสาวต่อไป

หมายเลขบันทึก: 148822เขียนเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2007 10:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2013 20:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)
  • สวัสดีค่ะ
  • บางสิ่งบางชีวิตบางวิถี ไม่คิดว่าจะมีในโลกนี้ ก็มักมีได้เสมอ
  • อ่านแล้ว ก็สลดใจค่ะ
  • มีหนทางช่วยอย่างอื่นได้อีกรึป่าวคะ

เป็นเรื่องเล่าที่ดีมากค่ะ

ขอต้อนรับสู่โลกแห่งการเรียนรู้แห่งใหม่ คือ G2K ค่ะ

ใครมีประสบการณ์เรื่องผู้ป่วยผลเลือดบวก ขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยค่ะ 

มีโอกาสดูแลช่วงก่อนผ่าตัด  เท่าที่ฟัง น้องเขาพร้อมที่จะสู้  กำลังใจยังดี  พี่ชาย พี่สาวที่อยู่ต่างจังหวัด ก็เข้าใจ  แต่บังเอิญว่าแต่ละคนก็อยู่แบบช่วยเหลือตัวเอง  เลยไม่สามารถช่วยค่าใช้จ่ายไม่ได้มาก  พ่อรู้ว่าเป็นโรคหัวใจไม่กล้าบอกเรื่องผลเลือดให้พ่อรู้ กลัวพ่อเสียใจ และกลัวใจพ่อ (แม่บอกว่าเกรงว่าพ่อจะไปมีปัญหากับลูกเขยด้วย)  เพื่อนบ้านยังไม่มีใครรู้ เพราะกลัวเขารังเกียจ 

ตอนนี้ช่วยที่เท่าโอกาสเอื้อ คือ ให้น้องคิดบวกไว้  ชี้ประเด็นที่ยังไม่ต้องใช้ยา  แม้ว่าเวลาจะผ่านมา 3 ปีแล้ว  แสดงว่าน้องมีการรักษาสุขภาพได้ดี  สิ่งที่ผ่านมาแก้ไขไม่ได้  แต่ทำปัจจุบันให้ดี (บอกตัวเองด้วยที่มัวแต่ขึ้เกียจ)

หลังผ่าตัดแล้วน้องต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นจากเดิม  เพราะน้องต้องกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดตลอดชีวิต เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน  ต้องป้องกันการติดเชื้อ (เดิมต้องระวังอยู่แล้ว)  เพราะถ้าร่างกายได้รับเชื้อ  โอกาสที่ลิ้นหัวใจเทียมจะติดเชื้อก็มีมากขึ้น  แต่คิดว่า  คงไม่ยากสำหรับน้องที่มีการดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว  เป็นกำลังใจให้น้องต่อไป

 สวัสดี พี่แก้วค่ะ

เห็น blog พี่แก้วแล้ว น่าสนใจมากค่ะ  หนูจะพยายามเรียนรู้ต่อไป  (มือใหม่หัดเขียน)

แวะมา CPR บล็อกให้สดชื่นค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่กระติก เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆๆๆ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ฝากบอกว่าอย่าท้อแท้ ให้ดูนุ่มนิ่มมเป็นตัวอย่างค่ะ

  • ถ้าเขารักเรามากขนาดนี้ น่าเสียใจจังค่ะ
  • แต่เรื่องความรัก มักไม่มีเหตุผลเสมอค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้กับพี่ด้วยนะคะ

แวะมาอ่านและเยี่ยมบันทึกแรกค่ะ

มีความสุข ในทุกๆวัน นะคะ

ขอบคุณค่ะ

P

9. @..สายธาร..@
เมื่อ อา. 21 ธ.ค. 2551 @ 07:33
1020718 [ลบ]

แวะมาอ่านและเยี่ยมบันทึกแรกค่ะ

มีความสุข ในทุกๆวัน นะคะ

ขอบคุณค่ะ

สำหรับกำลังใจที่มีให้

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท