แวะมาอ่านและเยี่ยมบันทึกแรกค่ะ
มีความสุข ในทุกๆวัน นะคะ
เป็นเรื่องเล่าที่ดีมากค่ะ
ขอต้อนรับสู่โลกแห่งการเรียนรู้แห่งใหม่ คือ G2K ค่ะ
ใครมีประสบการณ์เรื่องผู้ป่วยผลเลือดบวก ขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยค่ะ
มีโอกาสดูแลช่วงก่อนผ่าตัด เท่าที่ฟัง น้องเขาพร้อมที่จะสู้ กำลังใจยังดี พี่ชาย พี่สาวที่อยู่ต่างจังหวัด ก็เข้าใจ แต่บังเอิญว่าแต่ละคนก็อยู่แบบช่วยเหลือตัวเอง เลยไม่สามารถช่วยค่าใช้จ่ายไม่ได้มาก พ่อรู้ว่าเป็นโรคหัวใจไม่กล้าบอกเรื่องผลเลือดให้พ่อรู้ กลัวพ่อเสียใจ และกลัวใจพ่อ (แม่บอกว่าเกรงว่าพ่อจะไปมีปัญหากับลูกเขยด้วย) เพื่อนบ้านยังไม่มีใครรู้ เพราะกลัวเขารังเกียจ
ตอนนี้ช่วยที่เท่าโอกาสเอื้อ คือ ให้น้องคิดบวกไว้ ชี้ประเด็นที่ยังไม่ต้องใช้ยา แม้ว่าเวลาจะผ่านมา 3 ปีแล้ว แสดงว่าน้องมีการรักษาสุขภาพได้ดี สิ่งที่ผ่านมาแก้ไขไม่ได้ แต่ทำปัจจุบันให้ดี (บอกตัวเองด้วยที่มัวแต่ขึ้เกียจ)
หลังผ่าตัดแล้วน้องต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้นจากเดิม เพราะน้องต้องกินยาต้านการแข็งตัวของเลือดตลอดชีวิต เพื่อป้องกันลิ่มเลือดอุดตัน ต้องป้องกันการติดเชื้อ (เดิมต้องระวังอยู่แล้ว) เพราะถ้าร่างกายได้รับเชื้อ โอกาสที่ลิ้นหัวใจเทียมจะติดเชื้อก็มีมากขึ้น แต่คิดว่า คงไม่ยากสำหรับน้องที่มีการดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว เป็นกำลังใจให้น้องต่อไป
สวัสดี พี่แก้วค่ะ
เห็น blog พี่แก้วแล้ว น่าสนใจมากค่ะ หนูจะพยายามเรียนรู้ต่อไป (มือใหม่หัดเขียน)
แวะมา CPR บล็อกให้สดชื่นค่ะ
สวัสดีค่ะ พี่กระติก เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆๆๆ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ฝากบอกว่าอย่าท้อแท้ ให้ดูนุ่มนิ่มมเป็นตัวอย่างค่ะ
ตามมาอ่านครับ
แวะมาอ่านและเยี่ยมบันทึกแรกค่ะ
มีความสุข ในทุกๆวัน นะคะ
ขอบคุณค่ะ
แวะมาอ่านและเยี่ยมบันทึกแรกค่ะ
มีความสุข ในทุกๆวัน นะคะ
ขอบคุณค่ะ
สำหรับกำลังใจที่มีให้