"...ความหมายที่แท้ของประชาธิปไตย..."


"...ชีวิตของประชาชนไม่ใช่เกมของใคร แต่มันคือความจริง...และที่สำคัญประชาชนทุกคนคือการเมือง..."

ใครที่กำลังเบื่อการเมืองระวังให้ดี ใครที่กำลังคิดหรือคิดอยู่ว่าพรรคการเมืองทั้งหลายเหล่านั้นคือตัวแทนของประชาชนหรือประชาธิปไตยแล้วละก็ ขอให้เข้าใจกันเสียใหม่ว่า ระบบพรรคการเมืองนั้นมิใช่ประชาธิปไตย และไม่ใช่ความหวังของประชาธิปไตยเลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งมิใช่ทั้งหมดของประชาธิปไตยด้วย

พรรคการเมืองเป็นได้ก็แต่เพียงตัวแทนของกลุ่มอำนาจใดหนึ่งเท่านั้น เกิดขึ้นมาเพื่อการปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจนั้นๆเป็นสำคัญ มิได้เป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ ซึ่งพรรคการเมืองตัวแทนเหล่านั้นไม่มีปัญญาทำได้ ฉะนั้นที่ว่าการเมืองต้องมีค่าใช้จ่ายนั้นก็เพื่อการปกป้องผลประโยชน์ของของกลุ่มเป็นหลัก และผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนเป็นรอง(มาก)

ฉะนั้น เราจึงได้เห็นตัวแทนของกลุ่มทุนต่างๆเดินเชิดหน้าลอยตาอยู่ในระบบการเมืองเป็นส่วนใหญ่(ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่านี่คือการเมืองชั้นอาจมเก๋ากึ๊ก) ประชาชนที่แท้จริงจึงมิสามารถเข้าไปเป็นผู้แทนฯได้เพราะประชาชนจักปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักมิใช่เพื่อกลุ่มทุน (และจากการทำให้เชื่ออย่างผิดๆเสมอมาด้วยว่าคนที่ร่ำรวยแล้วจะสามารถช่วยอะไรตาสีตาสาได้ซึ่งมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพในสังคมวัตถุทุนนิยม)

หากคิดว่าการเมืองมันเป็นแค่เกม นั่นเป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ แล้วชีวิตปากท้องของประชาชนเป็นเกมหรือเปล่า ชีวิตของประชาชนไม่ใช่เกมของใคร แต่มันคือความจริง-- ความจริงที่ว่าเราไม่ได้กินดินเป็นอาหาร มันคือชีวิตจริงของคนทั้งประเทศไม่ใช่แค่ภาคใดหนึ่งเพียงภาคเดียว(กรุณาอย่าพยายามแบ่งแยก) ทั้งมิใช่เพียงแค่กลุ่มบุคคลใดหนึ่งเหล่านั้นด้วย

ซึ่งหากประชาชนเบื่อการเมือง แล้วปัดความรับผิดชอบไปให้นักการเมืองเสียทั้งหมด มันก็เท่ากับว่าเอาชีวิตไปแขวนไว้กับเส้นด้าย เอาจมูกคนอื่นมาหายใจ ซึ่งมันไม่ถูกต้องอย่างที่สุดในระบอบที่เราเชิดชูกันนักหนาว่ามันคือประชาธิปไตย

ฉะนั้น หากจักให้เข้าใจตรงกันมากที่สุดว่าความหมายของประชาธิปไตยที่แท้นั้นคืออะไร ก็ขอตอบว่าประชาธิปไตยก็คือประชาชนทุกตัวคน ตั้งแต่เด็กเกิดใหม่ยันคนแก่ใกล้ตายนั่นแหละ และที่สำคัญประชาชนทุกคนคือการเมือง เราทุกคนคือการเมือง จำไว้ให้ดี ไม่ใช่แต่บรรดานักการเมืองเหล่านั้นเพียงฝ่ายเดียว เราคือผู้แทนตัวเอง และนโยบายของทุกพรรคที่ออกมานั้น ถึงแม้ว่าจะไม่เอาออกมาเชิดชูเป็นนโยบายก็ตามที มันก็ถือว่าเป็นหน้าที่อันพึงกระทำทั้งนั้น มิใช่เป็นไปเพื่อการหาเสียงเท่านั้น

การเมืองจึงเป็นเรื่องของสาธารณะชน มิใช่เป็นเพียงของกลุ่มบุคคล คณะรัฐมนตรี หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรี หากใครที่กำลังเบื่อการเมือง ก็ขอให้คิดพิจารณาไตร่ตรองดูให้ดีว่า ตั้งแต่เช้ายันเย็น ตื่นไปจนกระทั่งหลับอีกหน ไม่ว่าจะกิน นอน ท่องเที่ยว หรืออะไรก็ตามแต่ มีเรื่องอะไรบ้างที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง แม้แต่การเข้าส้วมไม่ว่าจะเป็นส้วมส่วนตัวหรือส้วมสาธารณะก็ตาม มันเกี่ยวเนื่องถึงกันหมดไม่เว้นแม้แคนที่ไม่สมประกอบก็ยังต้องอาศัยการเมือง !

หากประชาชนทุกคนยังไม่เข้าใจในความหมายข้อนี้เป็นอย่างดี เราก็จะต้องเผชิญกับสภาวะการพายเรือวนอยู่ในอ่างอย่างนี้กันต่อไป การเมืองก็ยังคงย่ำอยู่ที่เดิมเหมือนที่เคยเป็นมาอย่างไรก็อย่างนั้น แล้วจะมาบ่นว่าเบื่อได้อย่างไร ก็ในเมื่อเราทั้งนั้นที่ทำตัวเองกัน ฉะนั้น หากประชาชนคนใด เผ่าใด ชาติใดก็ตาม ต้องการให้การเมืองในชาติของตนก้าวหน้า ต้องการให้คุณภาพชีวิตของตนดีขึ้น เขาหล่านั้นก็จำเป็นต้องทำตัวเองให้เป็นการเมืองเสียก่อน มิใช่จ้องแต่จะใช้การเมืองมือสองอยู่ร่ำไป คิดพึ่งพาอาศัยนักการเมืองเพียงอย่างเดียว อย่างนี้พวกนักการเขี้ยวยาวทั้งหลายมันจะได้ใจ ซึ่งมันมิใช่เรื่องที่ถูกต้อง

อย่าให้ 75 ปี ของประชาธิปไตยในผืนแผ่นดินนี้ต้องสูญเปล่า !!!

_____________________________________

หมายเลขบันทึก: 148791เขียนเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2007 05:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 20:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • น้องณัฐคะ...อิอิ..เริ่มนับญาติ
  • เห็นด้วยค่ะ..เที่ยวนี้ต้องโก่งราคา..อ้าว...พูดเล่น
  • อย่าพึ่งคว้าไม้หน้าสามสิค่ะ..แห่ะๆ
  • แล้วคนอื่นเค้าคิดยังไงกันนะ
  • เอ..หรือว่ามีแต่พี่กับน้องนี่ละที่แปลกกว่าคนอื่น(หาพวก...น้องไม่แปลกแต่พี่แปลก)
  • พี่กลัวว่า...เที่ยวนี้คนจะนอนอยู่บ้านเยอะ
  • เพราะได้หยุดตั้ง 3 วัน...แต่พี่จะกลับบ้านไปเลือกตั้งคะ
  • เลือกใคร..อิอิไม่บอก
  • ออกมาเถอะค่ะ..พี่ๆน้องๆ...ลุงป้าน้าอา...ปู่ย่าตายาย...
  • ออกมาใช้สิทธิ์ของท่านให้ประชาธิบไตยของไทยแบ่งบาน

ท่านพี่ naree suวรรณ สบายดี

ไม่เป็นไร นับญาติก็นับกัน แต่ขอแค่อย่าให้เป็นญาติข้างโอ่งก็แล้วกัน เพราะมันพองตัวได้ด้วย(แฮะ)

โอ้ๆๆ...ท่านพี่ ถ้าจะโก่งราคานะ ก็เอาแบบว่าตั้งตัวได้เลยดีมั้ย เอาแบบที่ว่าให้บรรดากระสือพวกนั้นหมดตัวเลยยิ่งดี แล้วก็ลอยแพพวกมัน หรือเอาไปปล่อยเกาะเลยก็ได้เดี๋ยวจัดเรือให้เลย ที่พัทยานี่คงหาได้ไม่ยากหรอกครับ

อ้ะอ้าวววว จะกลัวไปใยล่ะขะรับ แค่ไม้หน้าสามนุ่มๆอันนิดเดียวเอง เอาไว้เตือนสติไงว่าทางที่เดินไปน่ะ มันถูกหรือเปล่า ไม่ต้องกลัวขะรับ ไม่ได้ต้อนอย่างวัวหรือกระบือ แต่ยิ่งกว่านั้น !!! อิอิ

จะว่าแปลกมันก็คงไม่แปลกกระมังครับ แต่ว่ามันออกจะล้ำหน้าความเป็นไปในปัจจุบันมากกว่านั้นหน่อยหนึ่ง ก็เท่านั้นเอง คนอื่นเขาก็คงคิดแบบที่เราคิดนี่แหละมั้ง(หาพวก มั่งขะรับ) เพียงแต่ว่าไม่กล้าคิดออกมาดังๆ หรือไม่ก็ ช่างมันเถอะ เอาไว้ก่อน หรืออะไรทำนองนี่แหละมั้ง น่ากลัวนะขะรับ ความคิดแบบนี้น่ะ  ถือว่าอันตรายมากในระบบประชาธิปไตย ไอ้คำว่าช่างมันเถอะเนี่ย

เรื่องของเรื่องก็คือ เรา(หมายถึงคนอื่นๆน่ะขะรับ เอ...หรือว่าเราด้วย?)มักจะตายด้านไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ จากความเคยชินมันเลยกลายเป็นความเย็นชา จากความเย็นชามันเลยตายด้าน นี่มันไม่เป็นผลดีเลยสักนิดเดียว น่าหนักใจมาก

น่ากลัวว่าถ้าหากรัฐออกพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเรื่องการเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานกันใหม่ เห็นทีเราคงต้องลางานกันหมดทั้งประเทศแหง๋ๆ แล้วก็เข้าห้องเรียนไปเป็นนักเรียนโข่งกัน นั่งสะกด คำว่า ปอ รอ สระอะ ประ -ชอ สระอา ชา-ธอ อิ ปอ ธิป- ตอ ยอสระไอ ไตย มันหมายความว่า...การปกครองที่ว่าด้วย...เฮ้อ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วขะรับท่านพี่

อ้อๆๆ ท่านพี่ขะรับท่านพี่รู้หรือไม่ว่า เพียงแค่การบอกว่า 'การออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง' นี่ยังไม่ค่อยมีคนเข้าใจเลยนะครับว่ามันหมายความว่าไง ความหมายที่แท้ของมันคืออะไร ทั้งๆที่ปากก็บอกว่า พวก เรา เคอ ปรา เทด ปรา ชา ธิ๊ป ไตย (กรุณาอ่านออกเสียงยานๆแบบเด็กอนุบาลด้วยนะครับ)

แล้วผมเลือกใคร..? เอ้อ...นั่นสิเลือกใคร ?

หลังจากที่ดูก็ล้ว วนไปมาหลายรอบก็แล้ว ก็ทำหน้าเบ้ ตาหยี ทำหน้ายุ่งๆเหมือนคนเหม็นฉี่ หรือไม่ก็โดนจับเอามะนาวบีบใส่ปากทั้งลูก แล้วก็ตระหนักได้ว่าผมควรที่จะเลือก..(.X.)..เบอร์...กามอท เอาไว้ใช้หลังเลือกตั้ง เพราะช่วงหลังจากนั้นจะมีอาการขนร่วง เอ๊ย ผมร่วงเป็นระยๆขะรับกระพ้ม เหอะ เหอะ เหอะ หึหึ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท