การผลิตปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง หมู่ที่ 1 ตำบลหลุมเข้า อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี
นางประภัสสร โปริสบ้านเลขที่ 12/1 หมู่ที่ 1 ตำบลหลุมเข้า อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี เกิดเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2498 เบอร์โทร. 086-9252276 ปัจจุบันอายุ 53 ปี
คติพจน์ในการดำรงชีวิตแบบพอพียง
พออยู่พอกิน หนี้สินไม่มี อยู่ดีมีสุข ไร้ทุกโรคภัย
ใช้จ่ายอย่างมีสติ คิดอย่างมีปัญญา นำพาความพอเพียง
เริ่มทำการประกอบอาชีพ
โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อปี พ.ศ. 2537
กิจกรรมในฟาร์ม
1. นาข้าว 45 ไร่
2. น้อยหน่า 0.5 ไร่
3. ผักต่าง ๆ 0.5 ไร่
การทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เป็นการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรได้โดยการทำใช้เองซึ่งการใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพยังเป็นการฟื้นฟูสภาพของดินให้ร่วนซุยเหมาะกับการปลูกพืช ลดการสูญเสียของหน้าดินจากการใช้ปุ๋ยเคมีติดต่อกันเป็นเวลานาน และยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของทางราชการ ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย หวังว่าเอกสารวิชาการเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจในการที่จะนำไปเป็นคู่มือสำหรับการทำปุ๋ยน้ำหมักใช้เอง
การผลิตปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ เร่งต้นเร่งดอก
การผลิตปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพเป็นการนำวัสดุต่าง ๆ เช่น เศษวัสดุเหลือใช้ ต้นพืช ผลผลิตพืช หอยเชอรี่ ซึ่งวัสดุเหล่านี้สามารถหาได้ในพื้นที่อยู่แล้ว มาหมักจนกลายเป็นปุ๋ย และใช้เป็นอาหารของพืช ซึ่งในกระบวนการหมักไม่ยุ่งยาก โดยในที่นี้ จะเป็นการสอนการผลิตปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ สำหรับการเร่งลำต้นเร่งดอก
วัสดุอุปกรณ์
1.ถังหมักพลาสติก ขนาด 200 ลิตร จำนวน 1 ถัง
2.หน่อกล้วย จำนวน 1 หน่อ
3.กากน้ำตาล จำนวน 1 กิโลกรัม
4.หัวเชื้อจุลินทรีย์ จำนวน 1 ลิตร
5.ยอดผักต่าง ๆ จำนวน 1 กิโลกรัม
6.ผลไม้สุก ต่าง ๆ จำนวน 1 กิโลกรัม
7. น้ำสะอาด จำนวน - ลิตร
วิธีการทำ
1. เก็บยอดผักต่าง ๆ เช่น ผักบุ้ง ตำลึง ให้เก็บในช่วงก่อนที่พระอาทิตย์ขึ้น เพราะธาตุอาหารของพืชเมื่อได้รับแสงแดดจะเปลี่ยนสภาพ ถ้านำมาหมักแล้วจะไม่ได้สารอาหารที่เราต้องการ
2. นำหน่อกล้วยมาหั่นและสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ นำไปลงถังหมัก
3. ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์ กากน้ำตาลและน้ำคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
4. หมักทิ้งไว้ 30 วันโดยเก็บถังไว้ในที่ร่มไม่ให้โดนแสงแดด
วิธีการใช้
1. นำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ทำขึ้นมา 2 ช้อนแกง ผสมน้ำสะอาด ได้ 20 ลิตร
2. นำไปฉีดพ่นในแปลงข้าว พืชผัก ไม้ผล พืชไร่ ต่าง ๆ เพื่อเป็นการเร่งให้ลำต้นแข็งแรง เร่งการสร้างดอกให้สมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ติดผลได้มากขึ้น ทำให้ขั้วเหนียวไม่หลุดล่วงได้ง่าย
3. ควรพ่นปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ในช่วงเวลาเช้า เพราะปากใบของพืชจะเปิดรับอาหารได้
วิธีการเก็บรักษา
1. การเก็บรักษาควรเก็บไว้ในที่เย็น ไม่โดนแสงแดด
2. เมื่อเก็บไว้ประมาณ 3 เดือน ให้เติมน้ำมะพร้าว เพื่อเป็นการเติมสารอาหารให้กับจุลินทรีย์ ซึงจะเป็นการรักษาปริมาณความหนาแน่นของจุลินทรีย์
3. ไม่ควรเก็บน้ำหมักชีภาพนี้ไว้นานเกิน 6 เดือน เพราะจุลินทรีย์ไม่มีอาหารกินก็จะตายในที่สุด
วิเชียร
โดย....สะแกกรัง
ไม่มีความเห็น