ครั้งแรกเมื่อถีบชีวิต


ความเรียงถึงความประทับใจแรกของชีวิต ยามได้ปั่นจักรยานให้ออกโลดแล่นไป พร้อมด้วยหัวใจและคำตอบบางประการ ความรื่นเริงตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจ ในความเปลี่ยนแปลงของชีวิต จากเพียงได้ปั่นจักรยานทำให้เราได้รับคำตอบ และการเรียนรู้ใดบ้าง

ครั้งแรกเมื่อถีบชีวิต

อ้างอิง - ภาพ http://burabhawayu.multiply.com/photos

ครั้งแรกของชีวิต

เมื่อเราถีบจักรยานให้โลดแล่นไป

เรารู้สึกเช่นไรต่อการกำกับอิสระของชีวิต

ยามที่เราปั่นบันไดถีบ พยุงร่างประคองตัวให้จักรยานสมดุลย์ กระทั่งสามารถบังคับให้โลดแล่นไป เราบังเกิดคำตอบใดในใจกันบ้าง รู้สึกเช่นไรถึงอิสระมากมายอันท่วมท้น หรือรับรู้ถึงพลังบางอย่างในตนเอง ภายใต้ข้อสรุปเช่นไร

ว่าเราสามารถเคลื่อนที่ไปได้

ในท่ามกลางความลื่นไหลของปลายเท้า

ตื่นเต้นและตื่นตาเพียงใด

มีหลายครั้งเคยนั่งถามไถ่เพื่อนฝูง ว่าระหว่างการปั่นจักรยานถีบโซ่ล้อได้ครั้งแรกของชีวิต กับการหัดขับรถครั้งแรกนั้น รู้สึกเช่นไรบ้าง ส่วนใหญ่พบว่าวัยเด็กของการจดจำ รอยแผลพกช้ำและรอยยิ้มขณะปั่นจักรยานได้ สร้างความยิ่งใหญ่อย่างน่าประหลาด ต่างจากการหัดขับรถ

เพราะแม้ตื่นเต้นที่กำกับเครื่องยนต์ได้

แต่ก็ยังไม่ยิ่งใหญ่เท่าเมื่อครั้งปั่นจักรยาน

ไม่ใช่เพราะอายุแก่ลงจึงเฝ้าถาม

แต่เพราะอารมณ์คนละแบบ หรือความตื่นเต้นคนละแนว ที่เป็นโจทย์ในใจ ในการค้นพบพลังบางอย่าง จากการควบคุมของตนเอง ขณะประคองตัวเลื่อนไหลไปกับโซ่นั้น ได้เก็บซ่อนความรู้สึกมากมายเอาไว้ จึงอยากรับรู้ว่า ผู้คนแต่ละคนที่ต่างก้าวผ่านวัยเด็ก ต่างรับรู้เรื่องราวเช่นนี้อย่างไรบ้าง

บางคนบอกว่า

การปั่นจักรยานครั้งแรก

อาจเทียบกับการว่ายน้ำเป็นครั้งแรก

ทั้งตื่นเต้นชุ่มช่ำใจ เฝ้าคอยวนเวียนเพื่อกระโดดลงสระเพื่อว่ายเวียนอยู่บ่อยครั้ง หรือกระทั่งรอให้เวลาเย็นมาถึงเร็วไว เพื่อจูงจักรยานออกไปถีบเล่น จนสามารถต่อรองให้สามารถปั่นได้ข้ามวันข้ามคืน วนเวียนที่จะปั่น เที่ยวจะขอออกไปโลดแล่นท่ามกลางจักรยานกับตัวเรา

บางคนคะนองปาก

ยิ่งเปรียบครั้งแรกกลับเปรยไปถึงครั้งแรกของหนุ่มสาว

เพียงบอกถึง อารมณ์ตื่นเต้นจากครั้งแรกในชีวิตเรา

ล้วนตื่นไปด้วยใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เหงื่อชุ่มหลังฉ่ำมือ เก้งกังไม่รู้จะทำประการใดดี ยามจักรยานไปไม่ตรงทาง ทั้งยินดีตื่นเต้นและหวั่นใจในแต่ละก้าวของครั้งแรก เหมือนปั่นจักรยานได้ แต่ยังไม่กล้าปั่นออกถนนใหญ่ หรืออยากปั่นไปเท่าที่ใจต้องการ แต่ก็ยังไม่กล้าปั่นพอจะไปไกลเกินรัศมีบ้าน

 

กระทั่งบ่นปนขำว่า

ครั้งแรกของชีวิต ประกอบด้วยบาดแผลและรอยยิ้ม

ขึ้นอยู่กับการกำกับ จากครูผู้สอนสั่งครั้งแรก

เช่นครั้งปั่นจักรยาน ว่าเริ่มต้นจากรถปั่นคันใหญ่ ต้องโก่งตัวยืนเหยียบบันได หรือเป็นจักรยานคันงาม โซ่ล้อนุ่มเท้าในทุกครั้งเมื่อกดเท้าลง เมื่อหมุนมือจับยิ่งกระชับ หรือกระทั่งเป็นรถเด็กจักรยานคันเก่า ที่เพียงถอดล้อสำรองสองข้าง ไม่ต้องมีล้อพี่เลี้ยง เล่นล้อจริงสองล้อให้เต็มที่

ครั้งแรกของจักรยานในชีวิต

ต่างหลากหลายกันไปตามแต่สภาพชีวิต

บ้างเริ่มต้นจักรยานคันแรกด้วยน้ำตา

บ้างเริ่มต้นคันแรกด้วยรอยยิ้ม มีหลายคนเฝ้ารอคอยคืนวันของฝัน กว่าจะเห็นจักรยานถอดจากร้าน ตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อยิ้มร่ามองจักรยานจอดอยู่ มีหลายคนรอคอยจักรยานนานนับสิบปี กว่าตัวเองจะเก็บตังค์ซื้อได้ หลังจากที่ผ่านมาเฝ้าง้องอนของยืมจักรยานเพื่อนขี่

ไม่ว่าจะเป็นรสรักครั้งแรกในการปั่นจักรยานเช่นไร

บาดแผลและรอยยิ้มของการถีบได้

คือสิ่งฝังใจ

ซึ่งไม่มีใครจะพรากไปจากชีวิตเราได้ ยกเว้นความทรงจำเสื่อม หรือสมองฟั่นเฟือน รอยหยักและรอยยิ้มของครั้งแรกกับจักรยาน จึงกลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวบอกเล่า เพื่อเชื่อมโยงเราจากวัยเต็มตัวหวนกลับสู่วัยเด็ก

เหมือนรอยแผลย้อนบันทึกชีวิต

บอกเล่าผ่านการประคองซ้ายประคองขวา

เพียงเพื่อเลี้ยงสองล้อให้ตรงทาง

กระทั่งเติบโตขึ้นเพื่อรับรู้ว่า การประคับประคองชีวิตให้ตรงทางนั้น ยากลำบากกว่าการปั่นจักรยานหลายเท่านัก ทักษะในวัยเริ่มแรกของจักรยาน ที่จำต้องอาศัยความกล้าบ้าบิ่น หรือคะนองหัวใจ

อาจหดหายไป

ท่ามกลางบาดแผลที่เพิ่มขึ้นของชีวิต

เพิ่มขึ้นในแต่ละระยะลมหายใจ

ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร อารมณ์ตื่นเต้นเพื่อประคองมือและเท้า ให้ปั่นจักรยานแล่นไปได้ ก็บอกสอนตำนานมากมายในชีวิตเรา เหมือนเรากะเทาะเปลือกไข่ กางปีกหัดบินให้โลดแล่นลม เพียงให้ได้รู้ว่า ปีกที่งอกออกมาในชีวิต สามารถรับลมได้มากกว่าเก็บไว้ข้างตัว

ยิ่งเมื่อถีบขาออกไป

เราทุกคนต่างรู้ดีว่า เราไม่ได้ถีบเพียงบันไดจักรยาน

แต่เรากำลังถีบชีวิตของเราให้โลดแล่นไป

หมายเลขบันทึก: 147018เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2007 01:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท