เวลา 12.35 น.หลังจากเท้าได้สัมผัสสนามบินนครศรีธรรมราชแล้ว คณะ สรส.และภาคีที่ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว ได้เดินทางมารับคณะเราเพื่อพาไปในพื้นที่ แต่เราไม่ได้ทราบรายละเอียดอะไรมากนัก ทราบแต่ว่าเดี๋ยวจะพาไปทานข้าวที่พื้นที่และดูงานไปพร้อมกัน สายฝนโปรยปรายมาเป็นระยะ รถตู้พาเราเฉียดตัวเมืองบ้าง แล้วมุ่งหน้าไปทางอำเภอพระพรหม (ทราบภายหลังว่าอำเภอนี้แยกออกมาจากอ.เมือง) จากถนนใหญ่เลี้ยวเข้ามาไม่ไกลนักประมาณ 1 กม. เห็นจะได้ ภาพแรกที่ปรากฏคือ ป้ายสะดุดตา “ โรงเรียนชีวิต” เมื่อรถจอด จึงเห็นป้าย “กลุ่มสร้างสุข ชุมชนบ้านไสต้นทง” ประตูรถเปิดออก ก็ได้กลิ่นแกงใต้โชยมา (ประสาทสัมผัสทางจมูกทำหน้าที่เต็มพิกัด) ชายวัยกลางคน คนหนุ่ม แม่บ้าน เด็ก ๆ ประมาณ 4-5 คน เชื้อเชิญด้วยไมตรี
“เชิญทานข้าวก่อนครับ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ประโยคนี้เชื่อว่าโดนใจคณะเราทุกคน (บางคนบอกหิวจนจะกินคนได้ทั้งคนแล้ว) จะพูดพร่ำทำเพลงกันอยู่ใย เดินเข้าคิวไปตักข้าวกิน บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลย ใครตักแล้วอยากไปนั่งตรงไหนก็ตามสะดวก กับข้าวมื้อแรกที่นครฯ วันนี้ ต้องบอกว่าประทับใจทุกคนเพราะเป็นอาหารพื้นบ้านรสจัดจ๊านสุด ๆๆ อาหารท้องอิ่มเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาของการเติมอาหารสมอง ต้องบอกว่าถ้าอาหารท้องมีคุณค่าทางโภชนาการแล้ว อาหารสมองก็มีคุณค่าความคิดและจิตใจไม่แพ้กันเลย เป็นอย่างไรจะได้มาเล่ากันในบันทึกหน้า “ชุมชนบ้านไสต้นทง” ประทับใจสุดดด
กลุ่มสร้างสุขชุมชนบ้านไสต้นทง
ปลาทูทอด ผัดผักรวมใส่กุ้ง น้ำพริกมะขาม ผักสด และ "แกงส้มปลาจีน" (ไม่ใส่ผัก เนื้อปลาเต็ม ๆ )