เล่าสู่กันฟังเรื่องเมืองลาว


สิ่งที่ประทับใจ

 

วันที่ 26-27 ตุลาคม 2550 ได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศลาว เป็นครั้งที่3 
ครั้งที่ 1 ไปลาวเมื่อปี 2535 ซึ่งครั้งนั้นยังไม่มีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว  เลยต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขง  ที่ด่านท่าเสด็จ จ.หนองคาย
สมัยนั้น ที่เวียงจันทร์ จะเห็นแต่รถจักรยาน(ลาว เรียก รถถีบ)  ส่วนรถมอเตอร์ไซด์(ลาว เรียก รถจักร) มีน้อย  รถยนต์ก็มีน้อยมากแทบไม่เห็นเลย  ตอนนั้นเรานั่งรถตู้มีไกด์ลาว นำเที่ยว รู้สึกประทับใจทั้งไกด์และคนขับรถ  เขามีน้ำใจมาก  พูดคุยกันสนุกเพราะทีมที่ไปด้วยส่วนมากเป็นเพื่อนจาก จ.หนองคาย  ซึ่งเขาคุยภาษาเดียวกันอยุ่แล้ว

ครั้งที่ 2 ไปลาวเมื่อปี 2540 ครั้งนั้น สะพานมิตรภาพไทย-ลาว  สร้างเสร็จแล้ว ก็เลยนั่งรถ 2 แถวข้ามสะพานไปฝั่งลาว แล้วก็ไปนั่งรถตู้ที่ฝั่งลาวพร้อมไกด์นำเที่ยวอีก โดยไม่ได้พักค้างคืนที่ลาว 

ครั้งที่ 3 ได้มีโอกาสเที่ยวประเทศลาวอีก  นานถึง 10 ปี  จากครั้งที่ 2  มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะ รถจักรยานไม่รู้หายไปไหนหมด มีแต่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ ได้ถามไกด์ ไกด์บอกว่ารถถีบเขาเอาไปใช้ถีบขายไข่ปิ้ง  ครั้งนี้มาด้วยกันหลายคนชาว สพท.นศ.3 ประมาณ 70 คนใช้รถบัส 2 คัน จากนครศรีธรรมราชเช้า 24 ต.ค.50  สู่สุพรรณบุรี และข้ามแม่น้ำโขงมาถึงประเทศลาว  26 ต.ค.50 ตอนเย็น  นำเที่ยวโดย เอิรธ์ 2006 ทัวร์ พร้อมไกด์ลาว พักค้างคืนที่ลาว 1 คืน  ส่งที่ประทับใจในครั้งนี้ก็มีมาก พอจะจำได้ก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ

*  ประทับใจในคำเว๊า คำจาของเพิ่น รู้สึกประทับใจหลาย กับคำพูดที่ใสซื่ออีหลี นี่คือเสน่ห์อย่างนึงที่พี่น้องชาวลาว และมักจะเป็นเรื่องที่หาสัมผัสได้ยาก 
 * เคยไปลาวมาแล้ว  2  ครั้งยังหลงมนต์เสน่ห์ของลาวไม่หายเลย  ทั้งวัฒนธรรม   ธรรมชาติ   วิถีชีวิต  จนไม่รู้สึกในความเป็นสังคมนิยมของเขาเลย  ที่ประทับใจคือลาวเขารักษาวัฒนธรรมที่ดีๆไว้ได้ดีกว่าไทยมาก  ขนาดเขาเคยตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศษ  เขายังไม่ยอมให้วัฒนธรรมฝรั่งเข้าครอบครองประเทศ  
*
เป็นดินแดนที่มีมนต์เสน่ห์มิคลายในความรู้สึกเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของลุ่มน้ำโขง รักษาวัฒนธรรมได้ดีมักมาก (รักษาสิ่งที่ดีงามสละซึ่งสิ่งที่ไร้วัฒนธรรม) ถ้าประเทศไทยรักษาไว้ได้อย่างนี้คงจะดีมิน้อย   เราไปลาวเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว รู้สึกอบอุ่นมาก ๆ ไม่มีความรู้สึกว่าอยู่ต่างประเทศเลย มันเหมือนกับว่าเราย้อน..อดีตประเทศไทยไปเมื่อ  40 ปีที่แล้ว  เราพูดกับคนลาวโดยไม่ต้องใช้ล่ามเลย เพราะเราฟังภาษาไทยอีสานรู้เรื่อง   คนลาวพูดอะไรมาเราก็รู้เรื่องและเข้าใจหมด ประเทศลาวเป็นประเทศที่น่าอยู่..น่าท่องเที่ยวมาก ถ้าคุณต้องการความสงบ ใช้ชีวิตย้อนอดีตเมืองไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน ไปที่ลาวไม่ผิดหวังครับ..เราก็ขอให้คนลาวรักษาวัฒนธรรมอันดีงาน นี้ให้คู่กับแผ่นดินลาวตลอดไป...มีโอกาสเราจะไปที่ลาวอีกครั้ง
*..
ข้อมูลนี้จะทำให้เรารู้จักประเทศลาวกันมากขึ้น
1.เวียงจันทร์อยู่ห่างจากหนองคายแค่ 25 กม.เอง
2. น้ำ 1 แก้วเรียกว่า 1 จอก
3. ก๋วยเตี๋ยว(เฝอ) 1 ชาม เรียกว่า 1 ถ้วย ไม่งั้นเค้าจะเอาใส่กาละมังมาให้
4. ปั๊มเชลล์ เรียกว่าปั๊มหอยใหญ่ หรือปั๊มแซน
5. บริษัท PEPSI ชื่อ บริสัด น้ำหวานลาว จำกัด (ที่ลาวไม่มีโค้ก)

6. ปตท. เรียกว่า ชฟล. หรือ เชื้อไฟลาว
7. มีบริสัด เบียร์แห่งเดียวในลาวชื่อ เบียร์ลาว
8. รถยนต์ลาวพวงมาลัยขับฝั่งซ้าย และวิ่งชิดขวา , ป้ายรถยนต์บุคคล ใช้สีดำพื้นเหลือง
9. ระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่นี่ เรียกว่า TANGO ใช้สีส้มคล้ายออเร้นจ์
10. ไฟแดงมีให้เห็นน้อยมาก ไฟแดง เรียกว่า ไฟอำนาจ,ไฟเหลืองเรียกว่า ไฟวัดใจ และไฟเขียวเรียกว่า ไฟเสรี,  โค้งอันตราย เรียกว่า  งอเป็นตะย่าน
 11. รถจักรยานยนต์   ลาวเรียกว่า  รถจักร ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากจีน และไทย ราคาต่างกันมา จากไทย คันละ 60,000 บาท ส่วนจากจีน 18,000 บาท คุณภาพก็ตามราคา แต่มีคำเตือนว่า ถ้าซื้อรถจักรจีนไม่เตือนว่า ถ้าซื้อรถจักรจีนมาใหม่ๆ ห้ามเบิ้ลแรง ไม่งั้นน๊อตหลุดหมดทั้งคันแล้วจะหาว่าไม่เตือน
12. หนังไทยเวลาเข้ามาฉายที่นี่ เค้าต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เข้าใจง่ายๆ เช่น หวานมันฉันคือเธอ เป็น หวานจ้อยข้อยกับเจ้า หรือ เด็กกำพร้า เป็น เด็กน้อยบ่มีพ่อบ่มีแม่ อันหลังนี่ถ้าไม่เปลี่ยนชื่อละก็ คนลาวจะคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กตัวน้อยวิ่งถือมีดพร้าไล่ฟันชาวบ้าน (เด็ก-กำ-พร้า นั่นเอง)
13. ที่ลาวมีมหาวิทยาลัย 3 แห่ง จบแล้วได้วุฒิปริญญาตรี (แต่วุฒิที่ได้ เทียบเท่ากับอนุปริญญา ในประเทศไทย )
14. ตลาดเช้าหรือศูนย์การค้าที่นีไม่มีแอร์ เป็นพัดลม มี 2 ชั้น 3 อาคาร ส่วนใหญ่ขาย ผ้าถุง,เครื่องเงิน,เครื่องใช้ไฟฟ้า, มือถือมีน้อยมาก เพราะยังไม่แพร่หลาย
15. ถ้ากล้าต่อสินค้าก็จะได้ถูกแบบไม่น่าเชื่อเหมือนกัน เครื่องคิดเลข ราคาที่นี่ หากซื้อจะต้องไม่เกิน 50 บาท,นาฬิกา อาจเดินได้ที่นี่แต่ไม่เดินที่บ้านเรา,กล้องส่องทางไกล ราคาไม่เกิน 200 และแว่นตากันแดดที่ซื้อกันถล่มทลายอันละ 40 บาทนั้น รบกวนช่วยตรวจสอบอักครั้งว่าน๊อตอยู่ครบทุกตัวหรือไม่
16. โรงพยาบาล เรียกว่าโรงหมอ,ห้องคลอดเรียกห้องประสูติ,ห้องผ่าตัดเรียกว่า ห้องปาด ,และ ICU เรียกว่า ห้องมรสุม 
17. ชมผู้ หญิงสวยให้พูดว่า สวยตายห่า ,ถ้าจะชมผู้ชายหล่อมาก ให้พูดว่า หล่อฉิบหาย ,รักจริงๆให้ดิ้นตาย พูดว่า  ฮักคัก ๆ ซักแง็กๆ
18. ผ้าเย็นที่นี่เค้าเรียกว่าผ้าอนามัยนะ ส่วนผ้าอนามัยของจริงเค้าเรียกว่า ผ้ายันต์กันโลหิต
19. เวลาเค้าจะถ่ายรูปหมู่กันเค้าเรียกว่า มาแหกตาสามัคคี
20.  ลาวสาว  หรือไม่สาว  เรียกนางหมด  ต้องขอดูที่บัตรประชาชนลาว  เพราะใคร แต่งงานแล้ว  เขาจะใส่  ชื่อผัวไว้ด้วย (ภาษาลาวเป็นภาษาตรง)  และดูจากทรงผม  สาว ๆ เขาจะไว้ผมยาว  แต่งงานแล้วจะตัด  ผมสั้นไกด์สาวของเรา  ก็ไว้ผมยาว เหมือนกันบอกยังโสด  ( แต่พอวันจะข้ามฝั่งกลับ  เธอบอก ข่อยมีลูก  2 แล้ว  อ้าย   ฮาลาวต้มไทย )
21.ค่าครองชีพสูง  รายได้ต่ำ ( ค่าของเงิน)     น่าเห็นใจคนลาวนะคะ  สินค้า 60 % นำเข้าจากไทย  ของจึง แพงเพิ่มขึ้น
               
         ค่าของเงิน  บาทไทย  ต่อเงินกีบ  ของลาว
         
1 บาท   เท่ากับ   215 
กีบ   แลก 100 บาท  เท่ากับ 21,500 กีบ
        
แต่ถ้าในเมือง  เขาจะเทียบราคาง่าย ๆ อย่างนี้
               
1 บาท เท่ากับ   200  กีบ
 แลก 100  บาท  เท่ากับ  20,000  กีบ   เวลาซื้อของ  1000  กีบ  คิด เป็น  5 บาทไทย จำง่าย ๆ 2,000 กีบ คือ 10 บาท  
22. ในเมืองลาว  ไม่มีระบบเงินผ่อน  มีแต่เงินสด  จึงจะซื้อของได้
 พลเมืองเขาจึงไม่เป็นหนี้
  เงินเดือนครู  1200 บาท ถึง 1700  บาทไทย  (365,500 กีบ)  ครูลาวจึงไม่ค่อยมีโอกาส นอนโรงแรม กับกินเฝอบ่อย
เพราะมันแพง ที่อยู่กันได้ก็คือใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือนเราสมัยก่อน
ข้าวปลาอาหารก็หากินตามพื้นบ้านไม่ต้องซื้อ  นักเรียนก็มากินข้าว
บ้าน มีอะไรหาไว้ก็กิน  สิ่งนั้น ก็เลยไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องใช้เงิน  พระเณร
ในวัดก็ลงมือทำงานเองเช่นการสร้างโบสถ์ ศาลา
23.เบียร์ลาว ( เขยลาว )  เหล้านอก...............
                
ถูกมากคะ  ถ้าซื้อ ที่ ดิวตี้  ฟรี ช็อฟ  ด่านปลอดภาษี  ตรงที่รถรับส่ง ไทย - ลาว 
ถูกกระป๋องละ 10 บาทเอง  เหล้าม้าดำ  เหมือนแม่โขงกลมละ  20  บาท  บุหรี่ซองละ  ไม่ถึง 10  บาท วอดก้ารัสเซีย ขวดละ 50 บาท ไวท์ แชมเปญ ขวดยาวขนาดเกือบแขนเด็ก  99 บาท สินค้าราคาถูก 
24.โรงเรียนลาว/บ้านแถวชานเมืองไกด์เล่าให้ฟัง  ส่วนใหญ่เหมือนของไทยเมื่อ 30  ปี ที่แล้ว ย้อนกลับไป เป็นตึกติดดิน มีช่องประตูหน้าต่าง โต๊ะเก่า ๆ  พัง ๆ เก้าอี้ใช้ไม้ตียาว ๆ งบพัฒนาเขามีน้อย
ที่โรงเรียนอีไล  มีอาคาร  3 - 4
หลัง นักเรียน 700 คน  ครู  24 คน
เป็นโรงเรียน  ม. 1 -3  ส้วมก็มีแต่ไม่มีน้ำใช้  เขาใช้ไม้หรือกระดาษเอาตามสะดวกเขาใช้น้ำบ่อไม่มีประปา  สนามแห้งหญ้าแห้ง ๆเหมือนโบราณเลยคะ จะหาต้นดอกไม้หน้าเสาธงก็ไม่มี  เพราะไม่มีน้ำรดจึงไม่ปลูก  เหมือนเราเมื่อหลายๆปีมาแล้ว( ดูเรื่องครูบ้านนอกนะ 20 กว่า ปี) เสาธงเขาชัก  สัปดาห์ละ 2  ครั้ง  เช้าวันจันทร์ ชักขึ้น เย็นวัน ศุกร์ ชักลง แต่เขาเรียนมากกว่าเรา วันหนึ่ง ๆ เริ่มเรียน 08.00 น. - ถึง  16.00 น.  พัก 1  ชม.  การจัดการศึกษา แบ่งเป็นดังนี้ 
ระดับประถม  ป.1 - ป.5
  ระดับ มัธยม  ม. 1 - ม.3   ระดับอุดม อ. 1 - อ.3  แล้วเข้ามหาวิทยาลัย 
25. สำหรับบ้านลาวก็เหมือนบ้านเราสมัยก่อน คือ ส่วนใหญ่เก่าซอมซ่อ ใช้ไม้ไผ่สานเป็นรั้วบ้าง ไม้ลำปอ   กั้นเป็นรั้ว เป็นสวนครัวคิดถึงบ้านเราในอดีตจริงๆ เลยคะ 
26. สาวลาว   ผิวขาว น่ารัก สวมเสื้อขาว นุ่งซิ่นมีตีน    ผิวขาวเหมือนญวน พูดภาษาเดียวกันกับชาวอีสานบ้านเรา  แต่มีคำว่าเจ๊า ลงท้ายเหมือนคนเหนือของไทย     แต่ไกด์บอกว่าแถวเวียงจันทน์ - หลวงพระบางจะขาว  สุวรรณเขตลงทางใต้  จะคล้ำ  เหมือนสาวสุรินทร์ - ศรีษะเกษ  .ไกด์พูดดีตลอดทางมีมุขหยอก
ร้องเพลง  ให้ฟังด้วย  ส่วนใหญ่จะร้องเพลงไทย
     ไปครั้งนี้มีมาฝากแค่นี้ก่อนนะ  ไว้โอกาสหน้าหากได้ไปจะนำมาฝากอีก  บางที่ว่าง ๆ  จะท่องเที่ยวทาง Internet  หากเจอะอะไรที่เป็นประโยชน์เป็นเกร็ดความรู้เกี่ยวกับบ้านพี่เมืองน้อง(ลาว)  จะนำมาฝากอีกนะคะ
      ต้องขอขอบคุณผอ.เสริมศักดิ์  ดิษฐปาน ผอ.สพท.นศ.3  ที่ให้โอกาสชาว สพท.นศ.3 ในการเดินทางทัศนศึกษาประเทศลาว ครั้งนี้
 
       หากข้อมูลคลาดเคลื่อนบ้าง...ต้องขออภัย...เล่าเท่าที่จำได้คะ
               
รวบรวมโดย........เกษร  เพ็ชรหนูน
                         10 พฤศจิกายน 2550
 

นำภาพจากเมืองลาวมาฝากช้าหน่อยนะคะ  เพราะทำไม่เป็น  พอมีเวลาว่างก็เข้ามาหาความรู้จาก G2K และได้มาเจอะ blog ของ อ.ศิริพร  เกื้อกูลนุรักษ์  ได้ความรู้ทั้งจัดทำไฟล์อัลบั้ม และการตกแต่ง blog ต้องขอขอบคุณ อ.ศิริพร  ที่ให้ความรู้

วัดพระแก้ว เมืองเวียงจันทร์

ประตูชัย เมืองเวียงจันทร์

วัดพระธาตุหลวง เมืองเวียงจันทร์

หน้าโรงแรมนครสัก เมืองเวียงจันทร์

หมายเลขบันทึก: 145562เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2007 21:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณเกร็ดดีๆ ที่นำมาฝาก ถึงแม้นานแล้ว ทำให้เราเห็นมุมมองที่มองไม่เห็นเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท